จัดหนัก จัดเต็ม!! 2 เหมืองแร่ไทรโยค อ่วมอรทัย!! "ศรีวราห์" สั่ง ดำเนินคดี 7 ข้อหา

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

จากกรณีเมื่อวันที่ 27 ก.ค. เมื่อวานที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เข้าตรวจสอบเหมืองแร่บริษัท กมลชนก ธุรกิจ จำกัด และบริษัท วังสิงห์ไมนิ่ง จำกัด บ้านปากกิเลน ม.1 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พบมีการบุกรุกพื้นที่ป่า รวมทั้งมีการกระทำผิดอีกหลายกรณี จึงทำการตรวจยึดพื้นที่และสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งรถหลายชนิด อีกทั้งควบคุมตัวพนักงานที่ดูแลบริษัท ดำเนินคดี ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว

 

จัดหนัก จัดเต็ม!! 2 เหมืองแร่ไทรโยค อ่วมอรทัย!! "ศรีวราห์" สั่ง ดำเนินคดี 7 ข้อหา

 

  
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 28 ก.ค.2559 นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อุตสาหกรรมจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่วิศวกรรมและช่างรังวัด เดินทางไปยังเหมืองแร่ บ.กมลชนก ธุรกิจ จำกัด และ บ.วังสิงห์ไมนิ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กัน ในพื้นที่บ้านปากกิเลน ม. 1 ต.สิงห์ โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบการใช้พื้นที่ของบริษัทว่า เกินจากพื้นที่ขอสัมปทานหรือไม่ และจากการตรวจสอบพบว่าบริษัท ทั้ง 2 แห่งใช้พื้นที่ตรงตามสัมปทาน แต่ก็ผิดในกรณีตั้งโรงแต่งแร่ และดำเนินการโดยยังไม่ได้รับอนุญาต ถึงแม้ทางบริษัทจะได้ดำเนินการขอไปแล้วราวเดือนเศษก็ตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะทำการเปรียบเทียบปรับ ในความผิดดังกล่าว 1 หมื่นบาท และหากหลังจากความผิดครั้งแรก มีการกระทำผิดซ้ำอีกก็จะดำเนินการเพิกถอนสัมปทานทันที  แต่ในขณะนี้ได้สั่งให้บริษัทหยุดการดำเนินงานทั้งหมด จนกว่าทุกหน่วยงานจะตรวจสอบจนถึงที่สุดว่าผิดหรือไม่อย่างไร

ในขณะเดียวกัน นายอชิระ ณ นคร ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่10 (ราชบุรี) พร้อมนายณรงค์ บุญรักษา ผช.หน.หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 13 กรมป่าไม้ นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด ว่าเหมืองแร่ทั้ง 2 แห่งใช้พื้นที่เกินกว่าที่ขอสัมปทานหรือไม่ โดยตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าพื้นที่บริษัทขอสัมปทานเป็นพื้นที่ สปก.4-105 แต่ไม่ได้ขออนุญาตแผ้วถางป่า รวมทั้งต้องตรวจสอบดูหลักเขตว่า พื้นที่สัมปทานที่ได้รับนั้น ทางบริษัทบุกรุกใช้พื้นที่ป่าจำนวนเท่าใดหรือไม่อย่างไร

 

 

ทางด้านรตอ.กสานต์ พารา รองสว.(สอบสวน)สภ.ไทรโยค เปิดเผยว่าขณะนี้ผู้ต้องหาของบริษัทเหมืองแร่ทั้ง 2 แห่งทั้ง 9 คนได้รับการประกันตัวไปเรียบร้อยแล้วในวงเงินคนละ150,000 บาท ส่วนคดีที่จะดำเนินการกับ บริษัททั้ง 2 แห่งนั้น เป็นความผิดที่เกิดต่างกรรมต่างวาระ แต่โดยรวมแล้ว 7 ข้อหา แต่ในเบื้องต้น  ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับใคร ต้องรอหน่วยงานที่รับผิดชอบในคดี เข้าร้องทุกข์ กล่าวโทษทุกหน่วยก่อนรวมทั้งตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ สอบพยานบุคคลเรียบร้อยแล้ว จึงสรุปได้ ว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับกับบุคคลใดต่อไป

สำหรับ สภ.ไทรโยค คดีความต่างๆที่เกิดในพื้นที่ ทั้งคดีวัดเสือ จนถึงคดีเรื่องเหมืองแร่ รวมทั้งคดีอื่นๆในแต่ละวัน ที่เกิดความล่าช้าเป็นอย่างมาก ไม่สามารถสรุปสำนวนได้นั้น สาเหตุมาจากพนักงานสอบสวนมีจำนวนน้อย ไม่เพียงพอกับการทำงานในแต่ละวัน แทบทุกคดีจึงเหมือนล่าช้าเป็นอย่างมาก ทำให้มีคดีที่เพิ่มมากเป็นดินพอกหางหมู และในวันพรุ่งนี้(29ก.ค.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะเดินทางเข้าตรวจสอบเหมืองแร่ทั้ง 2 บริษัทอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

 

ภาพ / ข่าว :   วุฒิเดช ก้อนทองคำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาญจนบุรี