ไม่ถือสา!! "ตำรวจหน้าโหด" ให้บทเรียนนักเลงคีย์บอร์ด คิดก่อนทำเยอะๆ!! ยิ้มรับ ปชช.หอบดอกไม้ให้กำลังใจเพียบ!!

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าหลังจากเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการแชร์โพสต์ของสาวรายหนึ่งชื่อ “ศิริพร ดัชรี” ที่โพสต์เหยียดภาพตำรวจรจราจร สภ.เมืองตรังหน้าดุ ในห้องการเมืองพร้อมข้อความว่า “ตำรวจเป็นมิตร กับประชาชนทุกคนนะจ๊ะ นี้มันพันธุ์อะไรว่ะ _ _ _ _”จนโลกออนไลน์วิจารณ์ทำตำรวจเสียหายโพสต์ไม่คิด และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์พูดกันในวงกว้าง
 

 

 

 

 

ซึ่งภาพที่นำไปโพสต์เป็นภาพของ ร.ต.ท.ปราโมทย์ ตระกูลวังทอง รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองตรัง อายุ 57 ปี ขณะนั่งประชุมรับนโยบายการปฏิรูปงานบริการประชาชนของ สภ.เมืองตรัง เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. 59 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวนั้นมีโทรศัพท์มือถือแต่ไม่เล่นโซเชียลไม่มีเฟซบุ๊ก ไม่เล่นไลน์จึงไม่ทราบเรื่อง กระทั่งเพื่อนตำรวจจราจรเอาภาพและข้อความมาให้ดูแต่กลับไม่ได้โกรธเคืองอะไร มีความหนักแน่น ด้านลูกๆและญาติที่ใช้โซเชียลไปพบเห็นการแชร์โพสต์ดังกล่าวเข้าทำให้เกิดความไม่สบายใจ
 

เวลาต่อมา ในเฟซบุ๊กของ “ศิริพร ดัชรี” ก็ได้มีการโพสต์รูปภาพ ว่า ตนเองได้เดินทางไปขอโทษ ร.ต.ท.ปราโมทย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ร.ต.ท. ปราโมทย์ ได้อบรมตักเตือนและไม่เอาผิดพร้อมให้ข้อคิดในการเล่นโซเชียลมีเดียซึ่งหญิงสาวรายดังกล่าวก็รับปากว่าจะไม่ทำผิดซ้ำอีก หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปเพียงชั่วข้ามคืนก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่องถึงความไม่เหมาะสมของหญิงคนดังกล่าวและในโซเชียลก็มีการติดตามว่าท่าทีของร.ต.ท.ปราโมทย์ จะว่าอย่างไร จะเอาผิดหรือไม่

 

 

 

 

 

ซึ่งต่อมา ร.ต.ท.ปราโมทย์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อว่า “ตนเป็นตำรวจตระเวนชายแดนเก่าถูกฝึกให้มีความอดทน อดกลั้น หนักแน่น สิ่งไหนอภัยได้ก็ให้อภัย ตนสบายใจตัวเอง คิดว่าช่างเขา เขาทำแล้วมีความสุขก็เรื่องของเขาและไม่ได้เสื่อมเสียกับองค์กรก็ไม่เป็นไร ขณะที่ลูกและญาติพี่น้องที่เห็นต่างก็ไม่พอใจ บางคนรวบรวมข้อมูลภาพไว้หมดแล้วเพื่อให้แจ้งความเอาผิด แต่ตนเองกลับไม่ติดใจ”

 

กระทั่งเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา นางศิริพร ดีชรี ชาวจ.นครศรีธรรมราช กับเพื่อนขับรถยนต์มาจากจ.ชลบุรี เพื่อมาขอโทษตนขณะที่ตนเองนั้นปฏิบัติหน้าที่ประจำหน่วยลงประชามติหน่วยที่  10 ถนนจริงจิตร ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรังและซื้อขนมมาฝากด้วย ผู้ก่อเหตุบอกว่าถูกเพื่อนและคนใกล้ชิดรุมต่อว่าเมื่อสำนึกได้จึงรีบมาขอโทษตนได้ให้อภัยและอบรมตักเตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการคิดการโพสต์ ไตร่ตรองให้ดี คนอื่นเดือดร้อนเสียหายอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ให้คิดถึงญาติพี่น้องของเรา ถ้าถูกกระทำคนที่ถูกโพสต์ก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนทำให้เกิดความเสียหายได้ ส่วนตนเองนั้นในใจไม่ได้โกรธแค้นอะไรคิดเหมือนลูกเหมือนหลาน แต่ฝ่ายลูกหลานญาติพี่น้องจะเอาเรื่อง การกระทำครั้งนี้ถือเป็นอารมณ์ชั่ววูบสนุกตามเพื่อน ซึ่งเรื่องนี้ก็จบลงด้วยดี ทั้งสองฝ่ายลูกๆและญาติพี่น้องก็ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว ตนสอนว่าการให้อภัยเป็นเรื่องที่ดีที่สุดและฝากย้ำว่าให้ทุกคนที่มองภาพตำรวจหรือการปฏิบัติหน้าที่ว่าหน้าตาไม่ใช่สิ่งที่บอกความเป็นตัวตนของคนคนนั้นและหน้าตาไม่ได้ตรงกับการกระทำของเขา อย่างผมหน้าตาแบบนี้ อาจดูดุ แต่จริงๆไม่ใช่ ทำงานถือคุณธรรมเป็นหลัก คุณธรรมต้องมาก่อน การปฏิบัติงานจราจรก็มักจะว่ากล่าวตักเตือนมากกว่าจับกุมเช่น เตือนเยาวชนว่าอย่าฝ่าไฟแดง และสวมหมวกกันน็อคให้เรียบร้อย

 

 

 

ต่อมาวันที่ 9 ส.ค. พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง (รองผบก.ภ.จว.ตรัง) มีหนังสือถึง ผกก.สภ.เมืองตรัง ระบุว่า ด้วยมีภาพตำรวจปรากฏทางโซเชียลมีเดียซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกว่าตำรวจเป็นมิตรต่อประชาชนจริงหรือไม่และทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจสภ.เมืองตรัง ชื่อ ร.ต.ท.ปราโมทย์ ตระกูลวังทอง รอง สว.(จร.) สภ.เมืองตรัง จึงให้ท่านแจ้งข้าราชการตำรวจดังกล่าวมารายงานตัวต่อผบก.ภ.จว.ตรัง ในวันที่ 9 สิงหาคม ที่ บก.ภ.จว.ตรัง

 

 

 

 

ขณะที่โลกโซเชียลยังร้อนแรงไม่หยุด เมื่อปรากฏผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หนุ่ยนิวส์” ที่มีการอ้างว่าเป็นเพื่อนรุ่นน้องของตนและได้มีการโพสต์ข้อความตำหนิสื่อบางสำนักที่ได้มีการนำเสนอเรื่องนี้แบบเกาะติดต่อเนื่องอย่างรุนแรงและนอกจากนั้นยังพบการกล่าวตำหนิพาดพิงถึงผู้บังคับบัญชาของร.ต.ท.ปราโมทย์ ตระกูลวังทอง หลังจากที่ได้มีคำสั่งเรียกพบด่วน กล่าวหาว่า ต้องการโหนกระแส ลูกน้องและอยากดัง

 

 

 

 

 

 

 

ล่าสุดวันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.  ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังได้เรียกพบ ร.ต.ท. ปราโมทย์  ตระกูลวังทอง  รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองตรัง  อายุ 57 ปี ตำรวจหน้าเข้มใจดีที่ตกเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ โดยหลังจากที่ถูกสาวจังหวัดนครศรีธรรมราชโพสต์ภาพพร้อมกับข้อความในเชิงดูหมิ่น หน้าตาที่เคร่งขรึมจนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนั้น ทำให้ขณะนี้มีผู้บังคับบัญชาหลายท่านให้ความสนใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น

 

 

พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังก็ได้กล่าวพูดคุย พร้อมให้กำลังใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น ทั้งกล่าวชื่นชมว่าตำรวจจราจรรายนี้ เป็นตำรวจที่น่าสงสารทำงานตลอด 24 ชั่วโมง สามารถทำงานภายใต้แรงกดดันได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่ความพึงพอใจของประชาชนถือว่าสูงสุดแล้วและที่เรียกมาในครั้งนี้ก็เพื่อให้เห็นหน้าตาและพูดคุยในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่
 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ฝากหนังสือมากล่าวชื่นชม ร.ต.ท. ปราโมทย์  พร้อมขอบคุณ นายตำรวจนายนี้ที่ตั้งใจทำงานบริการประชาชนด้วยดีตลอดมา มีความเคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ กรุณาปราณีต่อประชาชนไม่หวั่นไหว ต่อความยากลำบาก ไม่มักมากในลาภผล มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน พร้อมฝากให้ตำรวจทุกนาย ควรเอา ร.ต.ท.ปราโมทย์ เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติหน้าที่

 

 

 

 

ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ ได้มีการแชร์ข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ IGuy Huhซึ่งเป็นบุตรชาย ของร.ต.ท.ปราโมทย์  ได้มีการโพสต์ข้อความในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยข้อความระบุว่า "ผมขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กับร.ต.ท.ปราโมทย์ ตระกูลวังทอง คุณพ่อของผมและหวังว่าทุกคนที่กำลังเล่นโซเชียล โปรดมีสำนึกและตระหนักในความถูกต้องรวมทั้งกฎหมายด้วย พฤติกรรมดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นคนเป็นมนุษย์ที่มีความเท่าเทียมกันและดูหมิ่นในอาชีพควรจะหมดไปได้แล้ว"

 

 

 

จากการตรวจสอบพบว่า ร.ต.ท.ปราโมทย์ นอกจากจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรองสารวัตรจราจร สภ.เมืองตรัง เมื่อว่างเว้นจากงานประจำแล้ว ยังพบว่ายังมีอาชีพเสริมอีกอย่างคือ ขายโรตีสมุนไพร บนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างร่วมกับภรรยาและลูกๆ หลังจากเป็นข่าวขึ้นมาก็มีคนมาให้กำลังใจและอุดหนุนเต็มร้านมากขึ้น โดยเฉพาะวันนี้มีชาวตรังหอบดอกไม้มาให้กำลังใจถึงหน้าร้านโรตี

 

 

 

 

ทางด้าน ร.ต.ท. ปราโมทย์ เผยว่า รู้สึกขอบคุณที่สื่อมวลชนและทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจให้ทำให้ตนมีกำลังใจดีขึ้นไปอีกและจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยดียิ่งๆขึ้นจะไม่ท้อถอยในการปฏิบัติหน้าที่แน่นอนด้านนางทัศนา ตระกูลวังทอง ภรรยาของ ร.ต.ท.ปราโมทย์ เล่าว่า เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เครียดหรือโกรธสาวที่โพสต์เหยียดสามีคิดให้ได้ว่าเป็นเรื่องปกติแต่ก็มีลูกค้ามาสอบถามเรื่องนี้กันมาก บางคนก็แนะให้เปลี่ยนชื่อร้านโรตีให้สะดุดหูขึ้น เช่น ร้านโรตีตำรวจหน้าโหด แต่โคตรใจดี ซึ่งกลายเป็นเรื่องหัวเราะขำๆ สนุกกันในครอบครัวและลูกค้า
 

 

 

 

ขอบคุณภาพข่าวจาก นสพ.ตรังไทม์