พระราชประวัติ ข้างพระแท่นบรรทม ครั้งรัชกาลที่ 5 สิ้นลมหายพระหทัย 23 ตุลาคม 2453 (ภาพ+รายละเอียด)

ข้างพระแท่นบรรทม ครั้งรัชกาลที่ 5 สิ้นลมหายพระหทัย

พระราชประวัติ ข้างพระแท่นบรรทม ครั้งรัชกาลที่ 5 สิ้นลมหายพระหทัย 23 ตุลาคม 2453 (ภาพ+รายละเอียด)

 

 

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

23 ตุลาคม 2453  ณ ชั้น 3 พระที่นั่งอัมพรสถาน  พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5  ทรงพระประชวรเรื่อยมาจนกระทั่งพระอาการมิสู้ดีนัก  เริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ   ถึงกับหายพระทัยดังยาว ๆ  และหายพระทัยทางพระโอษฐ์ (ทางปาก)  แรง ๆ   สังเกตดูพระเนตรไม่จับใครเสียแล้ว    ลืมพระเนตรคว้างอยู่อย่างนั้นเอง    แต่พระกรรณยังได้ยิน

พระราชประวัติ ข้างพระแท่นบรรทม ครั้งรัชกาลที่ 5 สิ้นลมหายพระหทัย 23 ตุลาคม 2453 (ภาพ+รายละเอียด)

สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ  / 

พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมขุนสุทธาสินีนาฏ

           …... สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาฯ ทรงกราบทูลว่า   “ทรงเสวยน้ำยังเพคะ”    พระเจ้าอยู่หัวก็ยังทรงพยักหน้ารับได้   และกราบทูลต่อว่า  “ จะถวายพระโอสถแก้พระศอแห้ง   ของพระองค์เจ้าสายฯ  เพคะ ”  พระเจ้าอยู่หัวก็ยังรับสั่งว่า   ฮือ

 

พระราชประวัติ ข้างพระแท่นบรรทม ครั้งรัชกาลที่ 5 สิ้นลมหายพระหทัย 23 ตุลาคม 2453 (ภาพ+รายละเอียด)

 

พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี

.....แล้วพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงยกพระหัตถ์ขวาและซ้ายที่สั่น ขึ้นเช็ดน้ำพระเนตรของพระองค์เอง คล้ายทรงพระกันแสง แล้วพระนางเจ้าสุขุมาลฯ   ก็ใช้ผ้าขึ้นมาซับน้ำพระเนตรถวาย

 

พระราชประวัติ ข้างพระแท่นบรรทม ครั้งรัชกาลที่ 5 สิ้นลมหายพระหทัย 23 ตุลาคม 2453 (ภาพ+รายละเอียด)

 

สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา  พระบรมราชเทวี

.......ในส่วนสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯ   ทรงประทับอยู่ปลายพระแท่น   ถวายงานนวดอยู่มิคลาย

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

......ตั้งแต่เวลานี้ต่อไป  หมอฝรั่งนั่งคอยจับชีพจร  ตรวจพระอาการผลัดเปลี่ยนกัน   จากนั้นการหายพระทัยของพระองค์ก็ค่อย ๆ  เบาลงทุกที  พระอาการกระวนกระวายอย่างหนึ่งอย่างใดก็ไม่มีเลย       ยังคงบรรทมหลับอยู่อย่างเดิม      สักพักหมอจึงทูลกับเจ้านายทุกพระองค์ว่า     “ เสด็จสวรรคตเสียแล้ว 

......เจ้านาย  พระราชโอรส   พระราชธิดา   ทั้งฝ่ายหน้า และ ฝ่ายใน    สนม   เจ้าจอม   ที่เฝ้าอยู่ตามเฉลียง  บันได  พื้นพระที่นั่ง   ต่างก็แย่งกันกรูเข้าไปดูร่างพระบรมศพ    แล้วก็พากันล้มลงกับพื้น    ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ระงมเซ้งแซ่    และโดยเฉพาะพระราชธิดาที่ทอดกายนอนกรรแสงเป็นลมกันยกใหญ่   ณ เวลานั้น    "ประดุจต้นไม้ใหญ่ที่ถูกลมพายุพัด  ต้นและกิ่งก้านหักล้มราบ"

พระราชประวัติ ข้างพระแท่นบรรทม ครั้งรัชกาลที่ 5 สิ้นลมหายพระหทัย 23 ตุลาคม 2453 (ภาพ+รายละเอียด)

สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ   

........สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาฯ  ก็ทรงประชวรพระวาโย (เป็นลม)   มีอาการชักกระตุกตามมาและหมดพระสติ  หมอต้องรีบถวายยาฉีด  จากนั้นพนักงานได้ทูลเชิญขึ้นบนพระเก้าอี้  แล้วหามกลับพระตำหนักสวนสี่ฤดู

พระราชประวัติ ข้างพระแท่นบรรทม ครั้งรัชกาลที่ 5 สิ้นลมหายพระหทัย 23 ตุลาคม 2453 (ภาพ+รายละเอียด)

 

พระราชประวัติ ข้างพระแท่นบรรทม ครั้งรัชกาลที่ 5 สิ้นลมหายพระหทัย 23 ตุลาคม 2453 (ภาพ+รายละเอียด)

พระบรมโกศทองใหญ่

........พระบรมโกศทองใหญ่ประดิษฐานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง

 

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

      พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตด้วยโรคพระวักกะ  (ไต)  เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 เวลา 2.45 นาฬิกา ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน  พระราชวังดุสิต  รวมพระชนมพรรษาได้  57 พรรษา  ดำรงสิริราชสมบัติมาได้ 43 พรรษา

 

cr.ข้อมูล Postjung.com