- 23 ต.ค. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ได้เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นผมกำลังทำงานอยู่ในสภาพจิตใจที่แย่มาก มันไม่มีกำลังใจจะทำอะไร ท้อแท้กับงานมาก ไม่มีใครเข้าใจ เหมือนทำดีแต่ไม่ได้ดี ในหลวงท่านทรงเสด็จมาพอดีและท่านได้เห็นสีหน้าผมไม่ค่อยจะสู้ดีนักท่านได้สอบถามจนได้ความว่าผมกำลังท้อแท้กับงานท่านจึงตั้งคำถาม และรับสั่งว่า
ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหม เศษเหล็กเรานั้น เวลาเราขายคุณค่ามันตํ่ามากคงได้เงินมาไม่กี่บาท แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านั้นมาหลอมรวมกันเวลาหลอมนี่ เศษเหล็กมันคงรู้สึกร้อนมากพอหลอมเสร็จ เราเอามาทำเป็นดาบ คงต้องนำมาตีให้แบนอีกเวลาตีก็ต้องเอาไปเผาด้วย เผาไป ตีไปหลายๆรอบ จนกว่าจะเป็นรูปดาบที่เราต้องการ ต้องผ่านความเจ็บปวด ความร้อนอยู่นานแถมเมื่อเสร็จแล้ว ถ้าจะให้สวยงามดั่งใจก็ต้องนำไปแกะสลักลวดลาย เวลาที่แกะสลักลวดลายก็ต้องใช้ของมีคมมาตีให้เป็นลวดลายอีกแต่เมื่อเสร็จสมบูรณ์เป็นดาบที่งดงาม ก็จะมีคุณค่าสูงมาก ถ้าเทียบกับเศษเหล็กก็คงจะต่างกันลิบลับ
จะเห็นว่ากว่าที่เศษเหล็กธรรมดาๆ ไม่มีคุณค่ามากนักจะกลายเป็นดาบอันงดงามนั้นต้องผ่านอุปสรรคมากมายและความเจ็บปวดต่างๆ กว่าจะประสบความสำเร็จ ดังนั้นขอให้จงจำไว้อย่างหนึ่งว่า
"ใครที่ไม่เคยถูกตี ถูกทุบ หรือเจอเรื่องราวร้ายๆในชีวิตมาเลยนั้น ชีวิตนี้ก็คงจะยากที่จะประสบความสำเร็จ"
ชอบคุณข้อมูลจาก : jiann tracheewa