- 24 ต.ค. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
ท่ามกลางทุ่งนาผืนกว้าง ที่มีต้นข้าวเขียวขจีกำลังออกรวงชูช่อ กับบรรยายกาศยามเย็นที่มีแสงอาทิตย์รำไรกำลังลาลับขอบฟ้าในถิ่นอีสาน “วิเชียร แก่นศรี” หรือ “ลุงเซียง” ชายสูงวัยที่มีหัวใจนักดนตรีมือพิณอีสาน นั่งมองภาพ “พ่อหลวงภูมิพล” ในปฏิทินใบเก่าที่ติดข้างเสาของเถียงนาน้อย เสียงพิณค่อยบรรเลงเบาๆกับรวงข้าวที่ไหวอ่อนตาม เสียงนกร้องริมธาร บอกท้องทุ่งรวงข้าวว่า “พระเจ้าอยู่หัวฯของเราสวรรคตแล้ว”บรรยากาศสุดแสนอาลัยและตราตรึงในใจยิ่ง
นายวิเชียร แก่นศรี หรือ “ลุงเซียง” ชายผู้สูงวัยอายุ 57 ปี ภูมิลำเนาบ้านดอนกลาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี หนึ่งในบุคลากรคุณภาพของ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ผู้มีความสามารถด้านดนตรีอีสานมาตั้งแต่เด็ก นั่นคือ “พิณ” โดยศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองมาตั้งแต่วัยเด็ก 14 ปี ฝันอยากเป็นมือพิณที่เก่งที่สุด เพื่อที่จะได้เดินทางในที่ต่างๆ ด้วยมีความมุ่งมั่นตั้งใจและฝึกฝนทุกวันจนมีความชำนาญ กับประสบการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้“ลุงเซียง” เป็นที่ยอมรับ และประสบความสำเร็จด้านดนตรีอีสาน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังศิลปินนักร้อง และวงดนตรีชื่อดังในอดีตมากมาย จนได้มาซึ่งรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ รางวัล“นาคราชทองคำ ประจำปี 2555” สาขาดนตรี-นาฎกรรม โดย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แม้วันนี้ “ลุงเซียง” จะห่างหายจากงานด้านดนตรีมาแล้วกว่า 15 ปี วางมือเรียวที่ดีดพิณ หันมาจับจอบ มีด เสียม ทำนาไร่ แต่ภายใต้จิตสำนึกก็ไม่เคยลืมความเป็นนักดนตรีภูมิปัญญาชาวบ้านแห่งที่ราบสูง
“ลุงเซียง” วิเชียร แก่นศรี บอกว่า ปัจจุบันตนอายุมากแล้ว การเดินทางในสายดนตรีจึงต้องหยุดพัก แม้ใจจะยังรักอยู่ก็ตาม ตนจึงตัดสินใจสมัครเข้าทำงานที่ คณะเกษตรศาสตร์ ม.อุบลฯ ตำแหน่งคนงานจ้างเหมารายวัน ทำสวนตัดหญ้า ปรับภูมิทัศน์ ทุกอย่างที่มอบหมายอย่างน้อยก็มีอาชีพมีรายได้พอเลี้ยงชีพในบั้นปลายชีวิต อีกทั้งอยู่ใกล้บ้าน ใกล้ท้องทุ่งนา ที่เป็นอาชีพหลักของครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก สุขใจกับวิถีชีวิตแบบพอเพียง
ภายหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พ่อหลวงของเราเสด็จสวรรคต ตนได้แต่นั่งอึ้ง และคิดในใจว่าอยากทำอะไรตอบแทนคุณท่าน สิ่งเดียวที่ตนนึกและทำได้คือเล่นดนตรีที่ตนถนัด นั่นคือพิณ วันนั้นจึงได้คิดลายเพลงขึ้นใหม่ ซึ่งกลั่นกรองออกมาจากใจ ถวายอาลัยแด่พระองค์ ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยบนฟากฟ้า เสียงพิณที่ตนเล่นครั้งนี้จะถ่ายทอดถึงอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งตนนึกถึงภาพที่พระองค์เสด็จเยี่ยมราษฎร ทั้งเหนือ กลาง ใต้ อีสาน อย่างน้อยที่สุด
การบรรเลงลายพิณนี้ก็เป็นตัวแทนชาวนาคนหนึ่ง จึงเลือกที่จะบรรเลงเสียงพิณท่ามกลางท้องทุ่งนาไร่กว้าง ถวายงานผ่านดนตรีเสียงพิณต่อภาพพระบรมฉายาลักษณ์พ่อหลวง ซึ่งมีต้นข้าว เถียงนา ต้นหญ้า นก ปลา ธารน้ำ มารายล้อมร่วมถวายอาลัย อยากบอกทุ่งนารวงข้าวว่า “พระเจ้าอยู่หัว พ่อหลวงของเราเสด็จสวรรคตแล้ว” พ่อเหนื่อยมานานถึงเวลาที่พ่อจะได้พักลูกขอตั้งปณิธานเดินตามรอยพ่อหลวง น้อมนำแนวทางพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และสำนักในพระมหากรุณาธิคุณที่พ่อหลวงทรงห่วงใยประชาชนทั้งแผ่นดิน แม้พระองค์จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่ท่านยังสถิตไว้ในใจของคนไทยทุกคนตลอดไป มิลืมเลือน วิเชียร แก่นศรี ครูพิณอีสาน ม.อุบลฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงเครือ
ภาพ/ข่าว : จักรกฤษณ์ มาลาสาย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุบลราชธานี