- 25 ต.ค. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
อย่างที่ทราบกันดีว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่๙ เป็นพระมหากษัตริย์ผู้เป็แบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนชาวไทย ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตส่วนพระองค์และเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบในการทำงาน ความประหยัด มัธยัสถ์ต่างๆ พระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่ใช้ของราคาแพง แต่ซื้อแล้วสามารถใช้งานได้นาน โดยมีบทความจากดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ในงานวันเปิดตัวรายการทีวี “ธรรมดีที่พ่อทำ” เล่าถึงในหลวง รัชกาลที่ ๙ ไว้ดังนี้
ในหลวงใส่นาฬิกาเรือนละ ๗๕๐ บาท เสื้อผ้าทรงมีไม่กี่ชุด ทรงใช้จนเปื่อยซีด ฉลองพระบาทคู่ละ ๓๐๐ - ๔๐๐ บาท
ดร.สุเมธ เล่าว่า ครั้งหนึ่ง ผมพยายามจะแอบดูว่าพระองค์ท่านใส่นาฬิกายี่ห้ออะไร จนพระองค์ท่านรู้สึกได้ว่าผมพยายามอยากจะดูยี่ห้อ
“ท่านจึงยื่นข้อพระหัตถ์มาให้ดูตรงหน้า จึงทราบว่าพระองค์ ท่านใส่นาฬิการาคาเพียงเรือนละ ๗๕๐ บาทเท่านั้น ซึ่งก็เดินตรงเหมือนกันกับนาฬิกาเรือนแพง แม้กระทั่งฉลองพระองค์ก็ทรงมีไม่กี่ชุด ทรงใช้จนเปื่อยซีด แต่พวกเรามักคิดว่า การมีแบบเหลือกินเหลือใช้จึงจะดี เพราะคนสมัยนี้เริ่มไม่เอา ‘เกษตรกรรม’ แต่เลือกที่จะทำ ‘อุตส่าหากรรม’ (เป็นศัพท์ที่บัญญัติขึ้นเอง แทนคำว่า อุตสาหกรรม) สุดท้าย อนาคตก็จะอดกิน ”
ดร.สุเมธ ถามอีกว่า คนในห้องนี้มีรองเท้ากันคนละกี่คู่? ก็มีสตรีนักธุรกิจตอบว่า ๑๐๐ กว่าคู่”
ดร.สุเมธ จึงถามว่า
“ แล้ววันนี้ใส่มากี่คู่? ถ้าจะใช้ให้คุ้ม ทำไมไม่เอาแขวนคอมาด้วย ”
ก่อนที่จะบอกว่า “พระองค์ทรงฉลองพระบาทคู่ละ ๓๐๐ - ๔๐๐ บาท อีกทั้งฉลองพระบาทของพระองค์ ยังถูกนำส่งไปซ่อมแล้วซ่อมอีก ขณะที่ข้าราชบริพารใส่รองเท้าคู่ละ ๓,๐๐๐ - ๔,๐๐๐ บาท แต่เวลาพระองค์ทรงออกเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ห่างไกล ที่สุดแล้ว ข้าราชบริพารก็เดินตามพระองค์ไม่ทันอยู่ดี” พระองค์ท่าน จะตรัสว่า “เวลาเดิน คนเราใส่รองเท้าได้คู่เดียว”
ภาพในหลวงขณะเสด็จทรงงานตามพื้นที่ต่างๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก :เฟซบุ๊ก ราชบัลลังก์จักรีวงค์