ลืมพวกเขาหรือยัง!? จาก "น็อต #กราบรถกู" สู่เหล่าคนดัง คลิปฉาวโลกออนไลน์ อนาคตดับวูบ เพียงคลิกเดียว!!

เป็นบทเรียนที่ต้องจำจดไปตลอดชีวิต สำหรับนักแสดงและพิธีกรหนุ่ม "น็อต อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล" เจ้าของวลี "กราบรถกู"  ที่ถูกสังคมตราหน้าอย่างหนัก นอกจากนี้อนาคตหน้าที่การงานยังมาดับวูบเพียงเพราะคลิปวีดีโอเพียงไม่กี่นาที ที่ถูกแชร์อย่างถล่มทลายในโลกออนไลน์

 

ไม่เพียงแต่ น็อต-อัครณัฐ เท่านั้น แต่หากย้อนกลับไป ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ ที่หลายๆคนต้องมาหมดอนาคต เพราะความใจร้อน วู่วาม ที่ไม่อาจรอดพ้นสายตาโลกโซเชียลไปได้เลย ทุกการเคลื่อนไหวของผู้คนในสังคม ถูกจับตามองอยู่ตลอด เปรียบเสมือนมีกล้องวงจรปิดติดตัว หากเผลอทำผิดแม้เพียงนิดเดียว ก็อาจโดนถล่มเละ จนแทบจะไม่มีที่ยืนในสังคมกันเลยทีเดียว

ลำดับแรก เป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียลฯเลยก็ว่าได้สำหรับกรณีรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้สีดำ หมายเลขทะเบียน ฌล9645 กรุงเทพมหานคร ซึ่งถอยรถชนรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส สีแดง ทะเบียน กษ8399 ขอนแก่น เมื่อวันที่ 8 มี.ค 59 โดยผู้ที่ขับรถกระบะถอยหลังชนคือ ดีเจเก่ง ภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ อดีตดีเจคลื่นวิทยุสวีต 89.5 ซึ่งต่อมาได้ถูกยกเลิกสัญญาการเป็นดีเจในสังกัด และถูกศาลพิจารณาว่าเป็นการกระทำความผิดจริง จึงพิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 7 เดือน แต่จำเลยให้การรับสารภาพ จึงมีความเห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ภายหลังนายภัทรศักดิ์ ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 15,000 บาทเพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์จำเลยจากนั้นอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยเรื่องนี้ทำให้ดีเจคนดังได้รับฉายาจากชาวโซเชียลฯว่า "นาธานแห่งวงการชนตูด" พร้อมยกวลีเด็ดที่ดังชั่วข้ามคืน "ขอความเห็นใจด้วยครับ เจอคนเเบบนี้ในสังคมเเบบนี้เเย่มากเลยครับ" ทั้งนี้ยังถูกขุดค้นเรื่องราวอื้อฉาวในอดีตจนเกิดความเสื่อมเสียถึงชื่อเสียงในปัจจุบันอีกด้วย

 

 

 

อีกหนึ่งเหตุการณ์เกี่ยวกับความใจร้อนในการขับนขี่รถยนต์จนกลายเป็นคดีดังอีกเรื่องสำหรับกรณีที่มีสมาชิกเฟซบุ๊ก YouLike (คลิปเด็ด)โพสต์คลิปวิดีโอภาพชายถือปืนลงจากรถมาข่มขู่คู่กรณีบนถนนพระราม 3 เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าชื่อ "สารวัตรโจ้"  ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่าชายรายนี้ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างที่ได้กล่าวอ้าง โดยบุคคลดังกล่าวมีชื่อจริงว่านายอุดมทรัพย์ ล้อมแก้ว รวมทั้งพบว่ามีประวัติก่อเหตุชิงทรัพย์มาก่อน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบเบาะแสชายคนดังกล่าว และสามารถติดตามจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 19 มิ.ย ที่บ้านญาติของนายอุดมทรัพย์ จ.นครราชสีมา ซึ่งหลังจากควบคุมตัวมาสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำผิดตามคลิปวีดีโอจริง และที่อ้างตัวว่าเป็นสารวัตรโจ้นั้นก็เพื่อต้องการให้คู่กรณีเกรงกลัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบกุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

 

 

และอีกกรณีที่โด่งดังจนข้าวประเทศอย่างกรณี "แอร์กราบ" แม้ไม่เกี่ยวกับรถแต่ก็เป็นเครื่องบินโดยสาร.. ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนป็นวลีเด็ดที่ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก โดยกรณีนี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 28 ส.ค. หลังจากที่คุณแม่รายหนึ่งได้พาลูกสาวซึ่งเป็นเด็กพิเศษเดินทางโดยเครื่องบินสายการบินดัง แต่กลับไม่พอใจเมื่อพบว่าแอร์โฮสเตสรายหนึ่งซึ่งอ้างว่ากระทำการไม่ให้เกียรติลูกสาวของตนเอง จึงได้นำเรื่องร้องเรียนไปถึงผู้บริหารสายการบิน เพื่อให้แอร์โฮสเตสกราบและขอโทษลูกสาวของตนเองอย่างที่เป็นประเด็นร้อนบนโลกโซเชียลฯไปแล้วนั้น ซึ่งต่อมา วันที่ 5 ก.ย. ได้มีสมาชิกพันทิปโพสต์กระทู้ถึงเรื่องดังกล่าวจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กว้างขวางอีกครั้ง ระบุว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ได้มีการนัดมาพูดคุยเพื่อไกล่เกลี่ยกันที่บริษัท คุณแม่รายดังกล่าวได้บังคับให้แอร์โฮสเตสคู่กรณีคุกเข่าก้มกราบลูกสาวตนเองซึ่งเป็นเด็กพิเศษ โดยคนในบริษัทซึ่งเป็นระดับหัวหน้าให้การสนับสนุน ทำให้แอร์โฮสเตสสาวต้องก้มกราบทั้งน้ำตา และทางด้านครอบครัวของเด็กพิเศษรายนี้ยังถ่ายรูปเก็บเอาไว้ด้วย จากนั้นจึงได้มีการเปิดเผยข้อมูลของคุณแม่รายดังกล่าวถึงพฤติกรรมอื้อฉาวนานาประการที่เคยได้ก่อไว้ จากนั้นนายโทนี่ เฟอร์นานเดส ซีอีโอใหญ่แอร์เอเชียได้บินมาประเทศไทยเพื่อเข้าเคลียร์ปัญหาดังกล่าวด้วยตนเอง และสุดท้ายได้ยอมรับผิดไว้เพียงผู้เดียว แต่อย่างไรก็ตามมีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นมากมายถึงกรณีนี้เพราะเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีที่ไม่มีผู้เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว จากนั้นจึงมีรายงานจาก เฟซบุ๊ก สากกะเบือ ยันเรือบิน  ออกมาโพสต์ข้อความว่า หนึ่งในสามเมเนเจอร์ในเหตุการณ์นั้นได้ออกจากสายการบินดังกล่าวแล้วย้ายไปอยู่อีกที่ ซึ่งจดทะเบียนเป็นคนละบริษัท แต่ยังอยู่ในประเทศไทย ส่วนเมเนเจอร์อีก 2 คน ยังคงทำงานอยู่ตามปกติ เพียงแต่โดนทัณฑ์บนไว้เท่านั้น อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวควรใช้วิจารณญานในการรับทราบข้อมูลด้วย

 

 

และกรณีสำหรับพฤติกรรมการขับขี่รถยนต์ด้วยอารมณ์และไม่มีสติ สำหรับเน็ตไอดอลคนดัง น.ส.กฤตรฎ โซมี่ ทับทิมผล เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง และพริตตี้เงินล้าน วัย 28 ปี ซึ่งขับรถเก๋ง BMW สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ 42 กรุงเทพมหานคร รถชนกัน 9 คันรวด บนถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า ช่วงแยกเทียมร่วมมิตรถึงแยกพระราม 9 ฝั่งตรงข้ามห้างเอสพลานาดรัชดาภิเษก เมื่อเย็นวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งหลังเกิดเหตุยังคงพูดจาไม่รู้เรื่องและมีท่าทางแปลกๆคล้ายไม่ได้สติ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ห้วยขวางแจ้งว่าหลังจากนี้จะต้องรอให้เน็ตไอดอลคนดังได้รักษาอาการป่วยให้ดีขึ้นมากกว่านี้เสียก่อนจึงจะมีการเรียกตัวมาชี้แจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ภายหลังทางผู้ใกล้ชิดได้ชี้แจงเบื้องต้นว่า ที่ผ่านมามีปัญหาเครียดหลายอย่างถูกถอนหุ้นและปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย ส่งผลให้เกิดความเครียดจนต้องพบจิตแพทย์และเข้ารักษาด้วยการทานยาและฟื้นฟูตัวเองอยู่บ่อยๆ แต่ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เน็ตไอดอลคนดังถูกขุดค้นปมอื้อฉาวต่างๆในอดีตที่ผ่านมา จากความผิดพลาดแค่ครั้งเดียวที่ไม่ได้ยั้งคิด

 

 

และล่าสุดจากกรณี น็อต อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล ดารา-นักแสดงชื่อดัง ซึ่งกำลังตกเป็นประเด็นร้อนในสังคมอยู่ขณะนี้หลังจากที่มีผู้เผยแพร่คลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่ น็อต อัครณัฐ ได้กระชากคอเสื้อหนุ่มที่ขับรถคู่กรณีและพูดจาหยาบคายใส่ก่อนจะชกหน้าคู่กรณีจนเป็นที่มาของวลีเด็ด "กราบรถกู"  และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโลกโซเชียลฯ แม่กระทั่งดารา นักแสดงรุ่นพี่หรือเพื่อนๆร่วมวงการบันเทิงยังออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยล่าสุดทาง บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ในฐานะต้นสังกัดได้พิจารณาบทลงโทษตามความเหมาะสมแล้วมีมติยกเลิกสัญญาของดาราหนุ่มกับต้นสังกัดซึ่งจะมีผลทันที พร้อมกันนี้สมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (สว.นท) ได้ออกแถลงการณ์ขอเรียกคืนรางวัล คนไทยตัวอย่าง ประจำปี 2559 จากดาราหนุ่มด้วยเช่นกัน โดยหลังจากนี้จะมีการชี้แจ้งจากดาราหนุ่มอย่างไรจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก :  YouLike (คลิปเด็ด),Black Hat ,เฟซบุ๊ก สากกะเบือ ยันเรือบิน ,อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V5. ,ig-nottakanat ,จส.100

เรียบเรียงโดย รัตติยา ทีมข่าวภูมิภาคทีนิวส์