ชาวบ้านโวย!!ตำรวจสภ.สนม ตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรถึงถนนหน้าริมทุ่งนา ทำได้แม้ไม่มีหนังสืออนุญาต อ้างเป็นคำสั่งของผู้การสุรินทร์

วันนี้(11 พ.ย.59)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายเกรียงไกร ไทยอ่อน ผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กถ่ายทอดสด ที่ด่านตำรวจ สภ.จอหอ จ.นครราชสีมา ขณะตั้งด่านตรวจ บนถนนทางหลวง พร้อมทั้งแจงรายละเอียดการตั้งด่าน และขอดูใบอนุญาตตั้งด่าน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเก็บของยกเลิกการตั้งด่านไป ทำให้โลกโซเซียลมีเดียมีการแชร์ ภาพและข้อความ จนกลายเป็นกระแส การคัดค้านการตั้งด่านที่ไม่ถูกต้อง เป็นวาระแห่งชาติขอให้มีการยกเลิกรางวัลนำจับ ตาม พ.ร.บ.จราจร พร้อมยกระดับการต่อสู้ เป็นวาระแห่งชาติ ในการ "คัดค้านการตั้งด่านที่ไม่ถูกต้อง" ต่างพากันชื่นชม และขอบคุณ นายเกรียงไกร ไทยอ่อน ที่เปิดประเด็น

ขณะเดียวกันชาวบ้านในเขตอำเภอสนม จ.สุรินทร์ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากช่วงนี้กำลังเก็บเกี่ยวข้าว และต้องขนข้าวเปลือกหรือผลผลิตทางการเกษตรออกจากจากทุ่งนาผ่านเส้นทางหลวงแผ่นดิน ได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก จากการตั้งด่านจราจรกวดขันวินัยจราจร ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.สุรินทร์ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.สนม บนถนนทางหลงแผ่นดิน สายศีขรภูมิ-รัตนบุรี ซึ่งเป็นถนนสองเลน ค่อนข้างแคบ

พบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สนม ตั้งด่านตรวจ โดยการนำกรวยสีส้ม และป้ายสัญญาณไฟจุดตรวจ มาตั้งกลางถนน เพื่อแสดงให้เห็นว่า เป็นด่าน พร้อมนำรถโล่ตำรวจมาจอด และตั้งโต๊ะ เพื่อรอเปรียบเทียบปรับ ตามใบสั่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกใบสั่ง ตาม กรณีความผิด ตาม พรบ.จราจร

นายไพฑูรย์ คำมนต์ ชาวบ้าน กล่าวว่า ตนยินดีเสียค่าปรับ ในข้อหาทะเบียนขาด ในข้อหานี้ไม่รู้ว่าเสียเงินจ่ายเท่าไหร่ ไม่มีระบุในใบสั่ง จะได้ไปเบิกตังค์ถูก

 

ร.ต.อ.สมพงษ์ ชาวพงษ์ ร้อยเวร สภ.สนม จ.สุรินทร์ ผู้ควบคุมการตั้งด่านกวดขัดวินัยจราจร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาตั้งด่าน ไม่มีการเลือกปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในการกวดขันวินัยจราจร โดยการใช้มาตรการเพื่อลดอุบัติเหตุ  เป็นคำสั่งของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ในการตั้งจุดตรวจ จุดสัมพันธ์ เป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน การออกใบสั่ง เปรียบเทียบปรับ เป็นการกวดขันวินัยจราจร ส่วนเอกสารในการขออนุญาตตั้งด่าน ตามมาตรา 38 พ.ร.บ.ทางหลวง เป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แม้ไม่มีมาแสดง ณ จุดตรงนี้ แต่สื่อสามารถสามารถตรวจสอบได้

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเข้าพบ และขอสัมภาษณ์ ในกรณีดังกล่าวกับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ แจ้งของดให้ข่าว เพราะหวั่นเป็นประเด็น ยันทำถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

 

ข่าว/ภาพ : ​ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์