"ผีที่พระตำหนักใหญ่" พระอารมณ์ขัน สมเด็จพระเทพฯ เมื่อครั้งทรงเล่าเรื่องสิ่งลี้ลับในวังสระปทุม..

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

 

พสกนิกรไทยทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระอารมณ์ขันอย่างยิ่ง และทรงแย้มพระสรวลอยู่เสมอ ถึงแม้พระองค์นั้นจะทรงงานหนักมาก และมีงานอยู่ตลอดเวลา แต่ในขณะที่พระองค์เสด็จปฏิบัติพระราชกรณียกิจในสถานที่ต่างๆ เวลาทรงงาน หรือทรงรับสั่งเรื่องใดๆ พระองค์จะทรงแทรกพระอารมณ์ขันอยู่เสมอๆเนืองๆ ทำให้ผู้ฟังยิ้มหรือหัวเราะได้  ไม่เครียด

 

 


ในการนี้ ทีมข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ ขออนุญาตหยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับพระอารมณ์ขันในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เมื่อครั้งทรงบรรยายในตอนหนึ่ง เรื่องเกี่ยวกับ ไดอารี่ "ในร่มเงาวังสระปทุม" ซึ่งจัดทำขึ้นโดยมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เมื่อ พ.ศ.2550  ไว้ดังนี้

 

"ผีที่พระตำหนักใหญ่" พระอารมณ์ขัน สมเด็จพระเทพฯ เมื่อครั้งทรงเล่าเรื่องสิ่งลี้ลับในวังสระปทุม..

 

 

"วังสระปทุมนั้น มีเรื่องเล่าว่า เป็นสถานประทับและพักผ่อนสมัยพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ต่อมาได้มอบให้กับรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ก่อนที่รัชกาลที่ 6 จะมอบให้ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เป็นผู้ดูแล ซึ่งขณะนั้น พระองค์ยังทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมนี"

 

 

ส่วนเรื่องสีของวังสระปทุมนั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นสีอะไร เพราะมีทั้งสีเหลือง สีแดง และสีเทา พระตำหนักใหญ่ที่บูรณะใหม่ล่าสุด หรือพระตำหนักเหลือง มีอายุมากกว่าพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า รวมทั้งท่านสวรรคตที่นี่ด้วย

 

 

รวมทั้งเป็นพระตำหนักที่สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระราชทานน้ำสังข์ ในการพระราชพิธีราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ควรจดจำ หลังจากนั้นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จฯ ประทับอยู่ที่วังสระปทุม จนเสด็จสวรรคต"

 

"ผีที่พระตำหนักใหญ่" พระอารมณ์ขัน สมเด็จพระเทพฯ เมื่อครั้งทรงเล่าเรื่องสิ่งลี้ลับในวังสระปทุม..

 

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงรับสั่งให้ข้าพเจ้า มาประทับที่นี่ เพื่อบูรณะดูแล พระราชกรณียกิจต่างๆ ที่สมเด็จพระพันวัสสาฯ ทรงงานไว้ ซึ่งมีทั้งโรงสี ทำธุรกิจต่างๆ

 

 

โดยมีจุดมุ่งหมายคืออยากให้ดูแล และทำพิพิธภัณฑ์แสดงพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันวัสสาฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไม่ค่อยรู้กัน ทั้งๆ ที่มีหลักฐานอยู่มากมาย

 

"ผีที่พระตำหนักใหญ่" พระอารมณ์ขัน สมเด็จพระเทพฯ เมื่อครั้งทรงเล่าเรื่องสิ่งลี้ลับในวังสระปทุม..

 

"ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า วังสระปทุมนั้นเป็นเหมือนประวัติศาสตร์ของราชวงศ์จักรี ควรจะอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป ตอนที่สร้างห้างสยามพารากอน ก็มีการตัดต้นไม้มากมาย ซึ่งเราก็ขอต้นไทรไว้ต้นหนึ่ง ไม่ให้ตัดต้นไทร และย้ายเข้ามาปลูกไว้ในวัง"

 

"ผีที่พระตำหนักใหญ่" พระอารมณ์ขัน สมเด็จพระเทพฯ เมื่อครั้งทรงเล่าเรื่องสิ่งลี้ลับในวังสระปทุม..

 


สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงบรรยายว่า นอกจากนี้ยังมีคนเล่าเกี่ยวกับเรื่องผีว่า ที่พระตำหนักใหญ่ ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพันวัสสาฯ ชอบมีไฟเปิดได้เอง คนงานก็พูดกันจนรู้สึกกลัว ไม่มีใครกล้าไปที่พระตำหนักนั้น

 

 

ซึ่งเราได้พิจารณาดูแล้วว่า สมเด็จพระพันวัสสาฯ เป็นคนชอบทำมาค้าขาย เก็บเงินเก็บทองเก่ง ไม่น่าจะเปิดไฟไว้ให้สิ้นเปลืองเงินไว้ทำไม   (ทรงพระสรวล)

 

 

น่าจะเป็นคนงานที่เปิดไฟไว้แล้วลืมปิดมากกว่า....

 

 

 

สำหรับ "พระตำหนักใหญ่" เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้านั้น เป็นตำหนัก 2 ชั้น ก่ออิฐถือปูน รูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีระเบียงพื้นคอนกรีตยื่นออกมาโดยรอบพระตำหนัก องค์พระตำหนักยกพื้นสูงกว่าระเบียงโดยรอบ หันหน้าออกไปทางทิศเหนือ (คลองแสนแสบ) มีมุขเฉลียงยื่นออกนอกองค์พระตำหนัก 4 ทิศ โดยมีบันไดหลักขึ้นสู่ตัวอาคารขึ้นจากทางทิศเหนือและมีบันไดขึ้นได้อีก 2 ทิศ บริเวณมุขด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ทาสีเหลืองทั้งองค์พระตำหนัก

 

"ผีที่พระตำหนักใหญ่" พระอารมณ์ขัน สมเด็จพระเทพฯ เมื่อครั้งทรงเล่าเรื่องสิ่งลี้ลับในวังสระปทุม..


      
อย่างไรก็ตาม วังสระปทุมยังคงใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเรื่อยมาจนกระทั่งพระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 2538 หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานวังสระปทุมให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจนถึงปัจจุบัน

 

 

 

ขอบคุณ ที่มา : chaoprayanews.com

 

เรียบเรียง เนื้อหา : พัทธนันท์ รัตนปรีชานันท์