- 12 พ.ย. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 12 พ.ย.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูปริยัติยาธิคุณเจ้าอาวาสวัดสะตือเจ้าคณะอำเภอท่าเรือ พระมหาสมบัติเจ้าคณะตำบลจำปา นายวิทิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ นางศศิธร ปิ่นนิกร นายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าเรือ นำพสกนิกรทั้งข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชน นักเรียน จำนวน 1,380 คน พร้อมใจสวมเสื้อสีดำ ถือพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร่วมกันแปรอักษรเพื่อแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คำว่า ๙ พ่อหลวงของแผ่นดิน อ.ท่าเรือ รอบองค์พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน)หลวงพ่อโต อ่านพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกับยืนสงบนิ่งถวายอาลัย 89 วินาที และ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกันดังกึกก้อง
ซึ่งก่อนหน้าการรวมพลประชาชน ที่มาเข้าแถวและรับพระบรมฉายาลักษณ์ แล้วไปยืนตามจุดที่กำหนดไว้ในการแปรอักษร ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนเปรี้ยง แต่ครั้นพอประชาชนเข้าประจำจุดเพื่อถ่ายภาพมุมสูงปรากฎว่า เมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือองค์พระพุทธไสยาสน์ ได้มาบดบังแสงของพระอาทิตย์ที่ร้อนผ่าว ให้มีร่มเงากับคนที่มาร่วมแปรอักษรได้คลายร้อน ทำให้คนที่มาร่วมแปรอักษร ถึงกับขนลุกกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น คงเป็นเพราะพระบารมีของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตวัดสะตือ
สำหรับวัดสะตือท่าเรือ กำหนดจัดการแปรอักษรเพื่อแสดงความอาลัยเป็นเวลา 3 วัน คือ12-13-14 พ.ย. 59 สำหรับวันพรุ่งนี้วันที่ 13 เวลา 15.00 น.จะมีการแปรอักษรข้อความ ๙ ธ คือดวงใจ อ.ท่าเรือ โดยมีรูป เทียนอยู่ด้านหน้าเลข ๙ ส่วนวันที่14 พ.ย.59 เริ่มแปรอักษรข้อความ ๙ ปิดทองหลังพระ ในเวลา 18.00น. เนื่องจากวันที่14 ตรงกับวันลอยกระทงด้วย จึงมีการจุดประทีปหอมในกระทงกระดาษ ร้อยดวงใจใส่กระทงน้อมส่งสู่สวรรคาลัย แปรอักษรเสร็จ จะเอากระทงเทียนหอมไปลอยเป็นสายหน้าเขื่อนพระรามหกซึ่งเป็นเขื่อนแห่งแรกในประเทศไทยและพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชทรงเคยเสด็จฯมาที่เขื่อนแห่งนี้ โดยทางเขื่อนจะมีการประดับไฟสวยงามยามค่ำคืน ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากพระครูปริยัติยาธิคุณเจ้าอาวาสวัดสะตือเจ้าคณะอำเภอท่าเรือ พระมหาสมบัติเจ้าคณะตำบลจำปา
ภาพ / ข่าว : เกียรติยศ ศรีสกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.พระนครศรีอยุธยา