- 01 ธ.ค. 2559
ธปท.ปูด เม็ดเงินท่องเที่ยวหล่นฮวบ
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) รับทราบสถานการณ์ท่องเที่ยวในรอบปี 2559 คาดจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 32.6 ล้านคน สร้างรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมเดินหน้าการจัดระบบด้านการท่องเที่ยวใหม่บนพื้นฐานความเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม ส่วนสถานการณ์การท่องเที่ยวในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ต.ค.) มีจำนวนนักท่องเที่ยว 27.07 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.27% สร้างรายได้ 1.35 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น14.98% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย เกาหลี ตามลำดับ
สำหรับการขับเคลื่อนงานด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ที่สำคัญในวันนี้ ได้มีการทบทวนคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติจาก 19 คณะ เหลือ 11 คณะ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และได้เห็นชอบประกาศหมู่เกาะทะเลใต้เป็นเขตพัฒนาการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยมีพื้นที่ครอบคลุม เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และหมู่เกาะอ่างทอง
สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญนั้นได้ดำเนินการแก้ไขได้ดีตามขั้นตอน ซึ่งรัฐบาลได้ให้ผู้ประกอบการคิดวิธีในการดำเนินการต่างๆ อาทิ การทำโรดโชว์ การทำมาตรฐาน เป็นต้น โดยทางภาครัฐจะพิจารณาอีกครั้งว่าเป็นวิธีที่ดีและถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทุกคนยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ แต่ขอให้ทำตามกติกา เสียภาษีอย่างถูกต้องอย่าเอารัดเอาเปรียบหรือโกง
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค.2559 ขยายตัวในอัตราชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและนักท่องเที่ยวไทย ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนในหมวดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการท่องเที่ยวแผ่วลงด้วย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 10.1% จากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายและการปรับขึ้นค่าธรรมเนียม visa on arrival ซึ่งการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยที่ลดลงส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะหมวดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม อาทิ โรงแรม ภัตตาคาร การขนส่งผู้โดยสาร และการใช้เชื้อเพลิงชะลอลงด้วย
หากเราย้อนไปดูรายละเอียดในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างจริงจังว่า โดยทางตำรวจท่องเที่ยวได้เข้าจับกุมเจ้าของบริษัทฝูอัน จำกัด และบริษัทซินหยวน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญที่ไม่ได้นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย มีแต่ยอดนักท่องเที่ยว และเงินรายได้ทั้งหมดจะถูกส่งกลับจีนผ่านนายหน้า โดยทั้ง 2 บริษัทมีความผิดฐานสวมบัตรประชาชนคนไทยเข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัททัวร์ และความผิดฐานอั้งยี่ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานหลักในการยึดทรัพย์ของ ปปง. และยังได้ขยายผลตรวจพบต้นทางขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ ชื่อบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทคนไทย มีรถทัวร์อยู่ในความครอบครองกว่า 3,000 คัน มีบริษัทจิวเวลรี บริษัทเครื่องหนัง บริษัทอาหาร ยาบำรุงสุขภาพ และร้านอาหาร ในเครือ โดยให้บริษัทคนจีนนำลูกทัวร์เข้าไปใช้บริการรถทัวร์ และร้านเหล่านี้ ซึ่งจะเก็บเงินจากลูกทัวร์ที่เข้าใช้บริการเพิ่มอีกประมาณ 35% ของเงินค่าแพคเกจทัวร์ที่เก็บไปแล้วเบื้องต้น ทำให้มีเงินสะพัดหลายพันล้าน และไม่มีการชำระภาษีอย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลยินดีสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวที่ถูกกฎหมาย จึงยอมไม่ได้กับพฤติกรรมที่สร้างความเสียหาย โดยอยากเตือนสติคนไทย ว่าขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง ไม่สมคบคิดกับต่างชาติ แสวงหาประโยชน์เข้าตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าจะร่ำรวยจากการประกอบธุรกิจ แต่รายได้ส่วนใหญ่กลับตกเป็นของต่างชาติ ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และขวัญกำลังใจของผู้ที่ประกอบธุรกิจด้วยความสุจริต
มาทำความรู้จักกับ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” และ “ทัวร์คิกแบ็ก” ว่า แก๊งพวกนี้มีความเป็นมาอย่างไร
นับตั้งแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอย่างก้าวกระโดด ทำให้ชาวจีนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นและรัฐบาลจีนเปิดโอกาสให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวนอกประเทศมากขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศแหล่ง ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีน ทำให้มีชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
รัฐบาลไทยและจีนได้ทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2536 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการตลาดและการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ซึ่งทางรัฐบาลจีนได้อนุญาตให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวนอกประเทศโดยให้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลเท่านั้น และนับตั้งบัดนั้นเป็นต้นมา แก๊งทัวร์ศูนย์เหรียญ และทัวร์คิกแบ็ก ก็กำเนิดขึ้น
หากพิจารณาจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่ชอบส่งเสียงดัง โวยวาย ไร้ระเบียบ หลายคนแสดงพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เป็นต้นว่า เอาเท้าไปแกว่งในอ่างล้างหน้า ขากถุย ยืนปัสสาวะ ถ่ายอุจจาระไม่เลือกที่ จนมีข่าวปรากฏบนสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่อต่าง ๆ ทั้งในไทย หรือแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ทั่วโลก ทำให้คนไทยรู้สึก “เอือมระอา” กับสิ่งที่เกิดขึ้น จนอดทนไม่ไหวต้องออกมาต่อต้าน ไม่ให้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ แต่ในส่วนของพฤติกรรมของผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่มีโครงสร้างผิดเพี้ยน และมีการสร้างรูปแบบที่ผิดไปจากครรลองที่ควรจะเป็นแล้ว สิ่งเหล่านี้ย่อมนำมาซึ่งความเสียหายและอาจนำมาซึ่งหายนะของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยในระยะยาว