- 30 ธ.ค. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่รถทัวร์สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ สีฟ้า-ขาว ทะเบียน 15-9952 กรุงเทพมหานคร ข้างรถหมายเลข 18-10 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ทิ้งผู้โดยสารลงข้างทางบริเวณศาลพักริมทางของแขวงทางหลวงบุรีรัมย์ บ้านถนนหัก เขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยพบผู้โดยสารหลายคนนั่งรออยู่ในศาลาก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาให้การช่วยเหลือและประสานงานรถอีกคันมารับผู้โดยสารเพื่อที่จะไปส่งปลายทาง
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายศักย์วริษฐ์ ปะวัณเทา อายุ 40 ปี ใบอนุญาตขับรถทุกประเภท เลขที่ ท.2 ชม.00532/57 สิ้นอายุวันที่ 25 สิงหาคม 2560 รถโดยสารคันเกิดเหตุ สิ้นอายุภาษีเมื่อ 30 กันยายน 2559 โดยไม่มีการนำรถเข้ามารับการตรวจตามรอบภาษี ไม่มีการติดตั้ง GPS Tracking ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด กรมการขนส่งทางบกจึงได้ดำเนินการถอนรถคันหมายเลขทะเบียน 15-9952 กทม.ออกจากบัญชี ขส.บ. 11 ทันที พร้อมเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการขั้นสูงสุดเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท ฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการ ไม่หยุดหรือจอดเพื่อส่งผู้โดยสารที่สถานี นำรถที่ค้างชำระภาษีประจำปีมาใช้ในการขนส่ง และไม่ติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (GPS Tracking) ด้านพนักงานขับรถ ได้ลงโทษโดยการเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุดเป็นเงิน 5,000 บาท และสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 30 วัน ฐานละทิ้งผู้โดยสารและไม่หยุดหรือจอดรถเพื่อส่งผู้โดยสารที่สถานี ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้เชิญ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ในฐานะผู้ประกอบการขนส่งมาชี้แจงรายละเอียดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมให้พิจารณายกเลิกสัญญาเดินรถร่วมทันที
ทั้งนี้จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบเพิ่มเติมทราบว่า คนขับได้ให้การว่าเป็นเพราะขับรถติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว ซึ่งระบุว่า 3 วัน จึงมีอาการเหนื่อยล้าถึงแม้จะมีการผลัดเปลี่ยนคนขับรถก็ตามและเกรงว่าหากขับต่อไปอาจจะเกิดอุบัติเหตุและอันตรายต่อผู้โดยสารได้จึงตัดสินใจดังกล่าวไป แม้ก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวว่า นายศักย์วริษฐ์ คนขับรถคันดังกล่าว ไม่พอใจนายจ้างหรือเจ้าของบริษัทรถทัวร์ เนื่องจากให้ขับรถหลายวันติดต่อกันไม่ได้หยุดพัก จึงจอดรถทิ้งผู้โดยสารไว้ข้างทางก็ตาม
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News
เรียบเรียง รัตติยา ทีมข่าวภูมิภาคทีนิวส์