ประหารเถอะ!!โลกโซเชียลสุดเดือด หลังไอ้ตั้ม ลอยหน้าลอยตาไม่สำนึก แห่ติดแฮชแท็กเรียกร้องโทษสูงสุด #ประหารเถอะค่ะ

จากกรณีนายกิตติกร วิกาหะ อายุ 26 ปี ได้ก่อเหตุแทงนายวศิน เหลืองแจ่ม หรือมะปิน อายุ 26 ปี บัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยก่อเหตุในย่านสุคนธสวัสดิ์ เขตลาดพร้าว เมื่อกลางดึกของวันที่ 4 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา เพื่อชิงทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือไอโฟน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต่อเหตุทั้ง 2 รายได้แล้ว ทราบชื่อว่า นายกิตติกร วิกาหะ และ นายสุพัฒชัย จันทร์ศรี อายุ 25 ปี  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ คนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และมีอาวุธติดตัวไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวทั้ง 2 รายได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 

 

อย่างไรก็ตาม แฟนเพจรักหมา ได้เชิญชวนผู้คนในโลกโซเชียลฯได้ติดแฮชแท็ก #ประหารเถอะค่ะ เพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีทางกฏหมายแก่นายกิตติกร คนร้าย เนื่องจากเมื่อมีการเผยแพร่สิ่งที่คนร้ายรับสารภาพนั้นคนร้ายไม่มีความสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำจงไปและดูเป็นการจงใจก่อเหตุทั้งสิ้น จึงควรมีการดำเนินคดีอย่างจริงจังเสียที โดยระบุข้อความว่า "โปรดแชร์ ใส่แฮชแท็ก #เรียกร้องให้ประหารไอ้ตั้ม ไม่ได้เกี่ยวกับหมาแต่อยากลง เห็นคลิปฆ่าชิงไอโฟนแล้วสะเทือนใจ ยิ่งมาดูสิ่งที่คนร้ายพูด ยิ่งแค้นใจแทนพ่อแม่ของเหยื่อ ขอเรียกร้องให้ #ประหารเถอะค่ะ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายด้วย#รักหมาจัง #RIP #น้องมะปิน"

 

 

ทั้งนี้หลังจากที่มีการแชร์ออกไปอย่างกว้างขวางแล้วก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากชาวเน็ตซึ่งพากันติดแฮชแท็กดังกล่าวเพื่อร่วมกันเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีทางกฏหมายเพื่อไม่ใหเช้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่นอีก

 

 

 

 

 

ช่วงหนึ่งในระหว่างคุมตัวนายกิตติกร มาสอบสวนได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า "คือต้องการจะปล้นและจะชิงทรัพย์ และตนเองไม่ได้เมายา สติดีทุกอย่าง พี่อย่าหาว่าคนทุกคนจะเมายา มันไม่ใช่พี่ ผมขับรถผ่านไปเจอเขาพอดี เขากดโทรศัพท์อยู่ เหมือนกับว่าประสบเหตุพอดี เราเดินเข้าไปแกล้งถามทาง พอเขาหันมาคุยกับเรา เราก็กระชาก เขาก็สู้ เราก็สู้เหมือนกัน ซึ่งได้มีการเตรียมมีดไปเพราะหากเกืดการต่อสู้ก็พร้อมที่จะทำร้ายทันที สำหรับวิธีการเลือกเหยื่อนั้นก็แล้วแต่ประสบเหตุ แล้วแต่สิ่งแวดล้อม แล้วแต่คนเยอะ คนน้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยแทงใครและครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยในช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงแทงซ้ำๆหลายครั้งและตัดสินใจปาดคอ ผู้ต้องหาได้ตอบกลับมาว่า คือคำว่า ปาดคอ มันไม่ได้ปาดคอ เป็นจังหวะแทงไปข้างหน้า มันเหมือนมันแฉลบอะ มันไม่ได้แทงเข้าไปเต็ม ๆ นึกภาพออกป่ะ แล้วมันก็เลยดูเหมือนปาดคอ แล้วข่าวก็ลงว่าปาดคอ โหดเหี้ยมอย่างนู้นอย่างนี้ ฟังความสองข้างบ้างครับ อย่าฟังความข้างเดียว โอเคคือผมผิด แต่มันมีหลายอย่างไม่ใช่แค่คดีผมหรอก ซึ่งโดยปกติแล้วไม่ได้ก่อเหตุทุกวัน และก่อคดีซ้ำอีกในวันเดียวกับที่ชิงทรัพย์มือถือทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้จงใจให้เขาตาย ซึ่งปกติตนเองมีอาชีพขายผลไม้ สำหรับเพื่อนอีกคนรู้จักกันจากข้างในเรือนจำ แต่สำหรับกรณีที่เกิดภายหลังการชิงโทรศัพท์มือถือนั้นตนยืนยันว่าถ้าหากคู่กรณีไม่ให้ไม่ว่าจะยื้อหรือกระชาก ก็จะไม่ทำร้ายผู้หญิง ซึ่งสักครู่หนึ่งก็ได้มีผู้เสียหายเป็นผู้หญิงพูดออกมาว่า คนร้ายก็ใช้มีดจี้คอตนเองเช่นกัน"

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก เพจรักหมา ,Apichai Panichsamai

เรียบเรียงโดย รัตติยา ทีมข่าวภูมิภาคทีนิวส์