เจ็บจี๊ดทั้งพระ ทั้งศิษย์!! "กนก" โพสต์เหน็บแรงเรียกพระธัมมชโย "ผีธัมมี่" หลังพวกโลกสวยไม่เข้าใจทำไมต้องใช้ ม.44 จับคนๆเดียว???

จากกรณีเจ้าหน้าที่ DSI  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมฝูงชนและสุนัขตำรวจเข้าตรวจค้น ภายในวัดพระธรรมกายต่อเนื่อง จึงได้นำกำลังตรวจค้นเพิ่มเติมตามจุดเป้าหมายพร้อมให้พระภิกษุสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัดพาเดินตรวจค้นพร้อมให้อธิบายถึงการใช้งานอาคารสถานที่ของวัดและจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบพระธัมมชโยแต่อย่างใด 
 

ต่อมาเฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page ได้โพสต์ข้อความระบุว่า มีเสียงท้วงติงจากพวกโลกสวยว่า "..ถึงกับใช้มาตรา 44 ส่งคนเข้าไปในวัดนับพันคนเพื่อจับคนๆเดียว ไม่น่าเกิดขึ้นในเมืองไทยเมืองพุทธ.." โดยเนื้อแท้แล้ว ธรรมกายไม่ใช่วัด แม้จะมีเอกสารระบุว่าเป็นวัดก็ตาม เป็นลัทธิหนึ่งที่อาศัยศาสนาระดมเงิน เป็นศูนย์พิธีกรรม โฆษณาชวนเชื่อให้คนไปหาเงินมาเพื่อแลกกับการขึ้นสวรรค์

จากการค้น 2 ครั้งแรก (16 มิ.ย. และ 13 ธ.ค.59) ก็เห็นชัดแล้วว่า แม้จะเข้าไปจับคนๆเดียว แต่ต้องไปเจอกับคนไร้สมองทั้งนุ่งเหลืองไม่นุ่งเหลืองอีกหลายพันคน และคนที่นุ่งเหลืองแต่มีผ้าปิดปากนั้น ไม่ถือว่าเป็นพระ เพราะพระในศาสนาพุทธ ย่อมไม่ปิดปากพรางหน้าเช่นนี้ พระย่อมไม่ก่อหวอดชักแถวมาประจัญกับเจ้าหน้าที่ พระย่อมไม่เข้ามาตบหน้าตบกล้องเจ้าหน้าที่ พระย่อมไม่สับปลับให้การช่วยเหลือโจรผู้ร้าย และพระต้องอยู่ในกฏหมายบ้านเมือง 

 

หากจะตำหนิเจ้าหน้าที่รัฐ ก็มีเพียงอย่างเดียวคือ สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปผลักดันฝูงชนที่ขัดขืน โดยไร้เครื่องป้องกันตัว จะไม่ให้เจ้าหน้าที่พกพาอาวุธ แม้แต่กระบอง หรือสเปรย์พริกไทยก็เอาเถอะ แต่ไม่มีแม้กระทั่งโล่ให้เขาใช้ป้องกันตัวเลยก็เกินไป เมื่อเช้านี้จึงมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากถูกพวกสาวกธรรมกายไล่ชกหน้า! ผู้ใหญ่เอาแต่ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปกันฝูงชน ตัวเปล่าเล่าเปลือยนี่ ใช้ไม่ได้!  

 

เมื่อปี พ.ศ.2502 ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี มีกรณี กบฏผีบุญ ศิลา วงศ์สิน ตั้งตนเป็นผู้วิเศษ เป็นผู้มีบารมีเหนือคนอื่น อ้างว่าตัวเป็นพระศรีอาริยเมตไตรย ใช้เวทย์มนตร์คาถารักษาคนป่วย อยู่ในสำนักที่อุบลราชธานี
นายศิลาได้ชักชวนชาวบ้านที่อุบลราชธานี ประมาณ 150 คน ไปตั้งหมู่บ้านใหม่อยู่ที่ อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา หลอกว่าที่นี่คือเมืองปางเวร อยู่แล้วจะใช้กรรมใช้เวรหมดไป มาอยู่แล้วก็ตัดไม้ทำลายป่าสร้างกระท่อมล้อมรอบตัวเอง บอกให้ชาวบ้านที่มีทรัพย์สินขายนาและโรงสีที่อุบลราชธานี แล้วเอาเงินมาให้เขา
ร้อนไปถึงนายอำเภอต้องเข้าไปจัดการ นายอำเภอกับพวกอีก 8 คน เดินทางมาที่คุ้มของนายศิลา มีอาวุธปืนกันทุกคน นายศิลาไม่ยอม นายอำเภอจะใส่กุญแจมือ นายศิลาร้องบอกพรรคพวกว่า "เขาจะเอาพ่อไปแล้ว ลูกจะอยู่กับใคร จะไม่ช่วยพ่อหรือ" พรรคพวกนายศิลาก็กรูกันเอากระบองที่มีตะปูแหลมซึ่งเตรียมไว้แล้ว ตีนายอำเภอกับพวกตายไป 5 คน

 

การตั้งรัฐอิสระเป็นเรื่องที่รัฐบาลไหนก็ยอมไม่ได้ นี่เหิมเกริมถึงขนาดฆ่าเจ้าหน้าที่ จอมพลสฤษดิ์สั่งให้เจ้าหน้าที่นำกำลังหลายร้อยนาย เข้าไปกวาดล้าง และจับผีบุญศิลาได้ ขณะกำลังจะหนีไปลาว จอมพลสฤษดิ์ลงมาสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
"เขาว่ามึงทำตัวเป็นผู้วิเศษ?" จอมพลผ้าขาวม้าแดงถาม
"ชาวบ้านพูดกันไปเองครับท่าน" ศิลาตอบ
"ตำรวจแจ้งว่า มึงโอ้อวดเป็นผู้วิเศษนี่หว่า ไหนมึงลองอมกระโถนให้หายไปซิ ถ้าทำได้ กูจะปล่อยมึง" ว่าแล้วท่านจอมพลก็เอาเท้าเขี่ยกระโถนใต้โต๊ะ กระเด็นไปตรงหน้านายศิลา
"กระผมทำไม่ได้ครับ เมตตาด้วยเถิดครับ"
"มึงฆ่าคน ก่อการกบฎ แล้วมึงจะมาอ้อนวอนให้กูปล่อยมึงรึ" ท่านจอมพลพูดเสียงหนักๆ แล้วสั่งให้ใช้ ม.17 ประหารนายศิลา ด้วยการยิงเป้า ที่จังหวัดที่เกิดเหตุ นครราชสีมา ปิดตำนานผีบุญ อ้างตัวเป็นผู้วิเศษอันเลื่องลือ
เห็นไหมว่า นี่ก็มาจากคนๆเดียว หลอกคนนับร้อยให้คล้อยตาม ไม่ต่างจาก "ผีธัมมี่" เลย
 

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page

เรียบเรียง รัตติยา