- 20 ก.พ. 2560
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณี ผู้ประกาศข่าวชื่อดังทางช่อง 7 อ้อ ศศินา วิมุตตานนท์ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกรณีเกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกาย โดยระบุว่า "(ไม่ได้ว่าใคร อย่าร้อนตัวนะคะ พูดตามความเป็นจริง) คนบุญในตัวไม่พอ ไม่ได้ดู ไม่เข้าใจหรอก ทำไมเราจึงรักและศรัทธาในวิถีของวัดพระธรรมกาย...บุญ ใครทำใครได้ บาป ก็เช่นกันค่ะ" และระบุในคอมเม้นด้วยว่า "เจ็บปวดอ่ะค่ะ คนทำความดีมาทั้งชีวิต ถูกกล่าวหา ถูกจาบจ้วงโจมตีว่าร้ายเป็นตัวตลกต่างๆนาๆ อ้อเข้าวัดมาตั้งแต่เด็กๆแล้วห่างหายไปนาน กลับมาเข้าวัดอีกทีเมื่อ 13 ปีมาแล้วเห็นแต่ละอย่าง ทั้งพระ ทั้งวัด ทั้งสาธุชชาวพุทธ เป็นตรงข้ามกับที่คนทั่วไปเข้าใจทั้งสิ้นเชิงค่ะ อคติ มีอานุภาพร้ายกาจที่สุด" จนข้อความดังกล่าวกลายเป็นกรณีดราม่าอยู่ในขณะนี้พร้อมทั้งเจ้าตัวเองก็ได้ถูกชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กกรณีดังกล่าวนี้อย่างมากมายนั้น
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า อ้อ ศศินา วิมุตตานนท์ เคยได้มีโอกาสสวมใส่ชุดมหาลดาประสาธน์ ซึ่งถือเป็นผู้มีบุญสวมชุดมหาลดาปสาธน์ ประจำปี พ.ศ.2550 โดยผู้ที่จะสวมใส่ชุดดังกล่าวนั้นจะได้สวมใส่ในพิธีทอดกฐิน ณ วัดพระธรรมกาย ซึ่งวัดพระธรรมกายได้สร้างเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์จำลองขึ้นดังกล่าว โดยมีรายละเอียดถูกระบุใน www.dmc.tv ของวัดพระธรรมกาย ว่า
ชุดมหาลดาปสาธน์
อานิสงส์กฐิน ตอน เครื่องประดับมหาลดาประสาธน์
ผู้ที่ทำบุญถวายผ้าไตรจีวร เช่น ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า เมื่ออานิสงส์ส่งเต็มที่
ฝ่ายชายย่อมได้บวชกับพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา มีบาตรและจีวรที่สำเร็จด้วยฤทธิ์บังเกิดขึ้น
ฝ่ายหญิงย่อมได้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ดังตัวอย่างนางวิสาขามหาอุบาสิกาในครั้งพุทธกาล
เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ เป็นเครื่องประดับรูปนกยูง ที่มีนกยูงสถิตอยู่บนศีรษะ เหมือนยืนรำแพนและมีขนปีกทิ้งลงมาคลุมไปจนถึงหลังเท้า ประกอบด้วยเพชร 4 ทะนาน แก้วมุกดา 11 ทะนาน แก้วประพาฬ 20 ทะนาน แก้วมณี 33 ทะนาน ใช้เงินแทนด้าย ลูกดุมทำด้วยทอง มีมูลค่าถึง 90 ล้านกหาปณะ คิดเป็นมูลค่าเงินปัจจุบันหลายพันล้านบาท
ผู้ที่จะใช้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ซึ่งมีน้ำหนักมากนี้ได้ นอกจากมีทรัพย์มากแล้ว ยังต้องมีบุญด้วย เหมือนนางวิสาขาที่มีกำลังเท่ากับช้าง 5 เชือก
นางวิสาขามหาอุบาสิกา
คราวหนึ่ง นางวิสาขาจะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าจึงได้ถอดเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ฝากให้หญิงรับใช้ดูแล เมื่อกลับจากวัดหญิงรับใช้ลืมเครื่องประดับไว้ที่วัด จึงย้อนกลับไปเอา โดยนางวิสาขาได้สั่งว่า หากยังไม่มีพระภิกษุรูปใดแตะต้องถูกก็ให้นำกลับมา แต่หากมีพระภิกษุถูกต้องเครื่องประดับนี้แล้วก็ขอถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ต่อมานางวิสาขาได้ทราบว่า พระอานนท์พุทธอุปัฏฐากได้ช่วยนำเครื่องประดับนี้ไปเก็บไว้ให้ นางวิสาขาจึงได้ตัดสินใจถวายเครื่องประดับนี้แก่สงฆ์ แต่เพื่อไม่ให้เป็นภาระของสงฆ์ในการดูแล นางวิสาขาจึงขอไถ่คืนด้วยทรัพย์ 90 ล้านกหาปณะ และนำทรัพย์นี้ไปสร้างวัดบุพพารามถวายสงฆ์
น่าอัศจรรย์ในความเคารพบูชาพระรัตนตรัยของนางวิสาขายิ่งนัก นางวิสาขานี้ก็คือมหาอุบาสิกาผู้เป็นเลิศในการอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาฝ่ายหญิง เป็นผู้กราบทูลขอพระบรมพุทธานุญาตเพื่อถวายผ้ากฐินแก่พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาครบถ้วนไตรมาสแล้ว ทำให้เกิดเป็นประเพณีทอดกฐินหลังออกพรรษาสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
วัดพระธรรมกายได้สร้างเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์จำลองเพื่อสาธิตให้ประชาชนได้เห็นอานิสงส์การถวายผ้าไตรจีวรในวันทอดกฐิน เป็นพุทธศิลป์ที่งดงาม
ทางวัดพระธรรมกายจะกำหนดให้ญาติโยมที่มาวัดใส่ชุดสีขาวเหมือนๆกัน เพื่อความเรียบง่ายไม่ประดับประดาหรือแต่งมาอวดกัน เสมอภาคเหมือนกันทุกฐานะชนชั้นซึ่งทำมาตั้งแต่สร้างวัด ส่วนเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ไม่ใช่ชุดที่จะใส่มาวัด แต่สาธิตให้ญาติโยมได้เห็นเพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดีและเมื่ออ่านเจอเรื่องราวของเครื่องประดับนี้ในคัมภีร์อรรถกถาธรรมบทจะได้นึกภาพออกโดยง่าย
หากองค์กรหรือผู้ที่มีความรู้ทางศิลปะและพระพุทธศาสนาได้ช่วยกันจำลองเรื่องราวในพระไตรปิฎก ออกมาให้เห็นเป็นภาพในรูปแบบต่างๆก็จะช่วยส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้พระพุทธศาสนาได้มากขึ้น / เพจ พุทธสามัคคี
สำหรับผู้มีบุญสวมชุดมหาลดาปสาธน์ ประจำปี พ.ศ. 2548 - 2549 คือกัลฯ ชนันภรณ์ รสจันทร์ และ อ้อ ศศินา วิมุตตานนท์ เป็นผู้มีบุญสวมชุดมหาลดาปสาธน์ ประจำปี พ.ศ.2550 พิธีทอดกฐิน ณ วัดพระธรรมกาย
ขอบคุณข้อมูลจาก Sasina Wimuttanon,http://m.dmc.tv
เรียบเรียง รัตติยา