หัวอกพ่อแม่!! พ่อแจ้งความวอนตร.ช่วยตามหา "ลูกสาววัย 14" หลังถูก "หนุ่มวัย 30" พาหนีออกจากบ้านนานนับเดือน ห่วงลูกจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ!!

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 นายวิโรจน์ จงกลบท อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.3 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา พร้อมด้วยญาติๆได้เข้ามาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวที่จังหวัดตรัง ว่าตนและญาติได้เดินทางมาจากจังหวัดสงขลา เพื่อตามหาตัวลูกสาว คือ เด็กหญิงภรภัทร หรือน้องนิว จงกลบท อายุ 14 ปี หลังจากที่ได้มีนายศรายุทธ หมัดเจริญ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 13 ม.16 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันได้ลักพาตัวไปน้องนิวไป ซึ่งก่อนหน้านี้น้องนิวและนายศรายุทธฯ ได้แอบคบหากัน 

ทางด้านนายวิโรจน์ จงกลบท (พ่อเด็ก) จึงได้เข้าแจ้งความไว้กับ สภ.บางกล่ำ เมื่อวันที่ 13มกราคม 2560 และ วันที่ 22 มกราคม 2560 นายศรายุทธฯ ได้เข้ามาพาน้องนิวออกจากบ้านไปในช่วงหัวรุ่งจนถึงกระทั่งตอนนี้เป็นเวลานานกว่า 1 เดือนครึ่งแล้ว ตนจึงปรึกษากับญาติๆและด้วยความที่เป็นห่วง จึงออกตามหาในพื้นที่จังหวัดตรังและจังหวัดสตูลเพื่อตามหาลูกสาวแต่ไม่เป็นผลเพราะลูกสาวของตนเคยถูกนายศรายุทธฯ พาหลบหนีมาที่จังหวัดตรังก่อนหน้านี้แล้ว แต่มีญาติฝ่ายนายศรายุทธฯพาน้องนิวมาส่งที่บ้าน จึงคิดว่าลูกสาวของตนน่าจะอยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง ตนจึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับทางผู้สื่อข่าวที่จังหวัดตรัง 

                   

 

นายวิโรจน์ฯ พ่อของน้องนิว กล่าวว่า ก่อนนี้น้องนิวได้แอบคบหากับนายศรายุทธฯ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ตนจึงแอบจับผิดและจับได้ว่านายศรายุทธฯได้พาลูกสาวของตนไปมีเพศสัมพันธ์ ต่อมาจึงตัดสินใจแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้สอบปากคำพ่อและแม่ ต่อมาในวันที่ 22 มกราคม 2560 นายศรายุทธฯได้พาน้องนิวหายตัวไปจากบ้าน และในวันที่24 มกราคม 2560 ทางเจ้าหน้าที่ สภ.บางกล่ำได้ออกหมายจับนายศรายุทธฯ ในข้อหา “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองผู้ดูแลเพื่อการอนาจารและกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองผู้ดูแล(1ครั้ง)”

 

จากนั้นทางนายวิโรจน์ฯและญาติๆได้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองตรัง เพราะเชื่อว่าลูกของตนจะอยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง เพราะทางญาติๆได้บอกกับครูของน้องนิว และได้สอบถามหลานของผู้ต้องหาทราบว่า น้องนิวได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง 

 

                         

ด้านนายวิโรจน์ฯผู้เป็นพ่อและญาติๆ ยังกล่าวต่ออีกว่า ถ้าหากน้องนิวยังคงดูรายการที่ออกอากาศอยู่พ่ออยากขอให้น้องนิวติดต่อกลับมาและอยากบอกว่าทางบ้านพ่อและแม่เป็นห่วงน้องนิวมาก ส่วนแม่ของน้องนิวก็กินไม่ได้นอนไม่หลับทุกวันตลอดเวลาที่น้องนิว หายไปเป็นเวลากว่า 1 เดือน จึงอยากไห้น้องนิวกลับบ้าน แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้รับเรื่องไว้แล้วและจะติดตามสืบสวนสอบสวนหาตัวน้องนิวและนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป 

 

 

ภาพ/ข่าว  สุนิภา หนองตรุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตรัง