สยอง กลางป่า!! "2 ผัวเมีย" เจอช้างป่าโขลงใหญ่กว่า 20 ตัว วิ่งหนีตายสุดระทึก ก่อนเมียพลาดท่า ถูกงวงฟาด-เตะล้ม ดับอนาถ!!

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 1 มี.ค.2560 ว่าที่ ร.ต.สุจินต์ ศรีวิเชียร นายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายประวัฒน์ พวงทอง หัวหน้าอุทยานฯไทรโยค นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานฯทองผาภูมิ ทหาร ร้อยรส.ที่1ร.9 เดินทางไปยังวัดกุยเหย่ ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ เพื่อร่วมงานศพนางซามะ ไม่มีนามสกุล เป็นชาวกะเหรี่ยงอายุ 87 ปี อาชีพรับจ้าง ที่ถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต โดยว่าที่ร.ต.สุจินต์ ได้มอบเงินช่วยเหลือให้ แก่นายมะจอ สามีผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯทองผาภูมิและอุทยานฯไทรโยค จะอำนวยความสะดวกรับเป็นเจ้าภาพในงานศพ

 

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 28 กพ.ที่ผ่านมา ว่าที่ร.ต.สุจินต์ ศรีวิเชียร นายอำเภอทองผาภูมิ ได้รับรายงานว่ามีหญิงชราชาวกระเหรี่ยง ถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต ที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วย เขยง ม.2 ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จึงพร้อมด้วยนาย เจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานฯทองผาภูมิ นายประวัฒน์ พวงทอง หัวหน้าอุทยานฯไทรโยค ทหารร้อยรส.ที่1 ร.9 ตชด.135 เดินทางไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุบริเวณ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยเขยง ม.2 ต.ลิ่นถิ่น ในสวนยางพารา พบร่องรอยต้นยางพาราถูกหักโค่น รอยเท้าโขลงช้างป่า และมูลเต็มไปหมด พบศพนาง ซามะ ไม่มีนามสกุล ชาวกะเหรี่ยง อายุ 87 ปี เป็นคนงานรับจ้างทั่วไป สภาพถูกช้างป่าทำร้ายจนคอหัก ซี่โครงหักทั้ง2ข้าง นอนเสียชีวิต

 

สอบสวนทราบว่า นายมะจอ อายุ55ปี และนางซามะ (ไม่มีนามสกุล) 2 สามีภรรยา ชาวกระเหรี่ยง อาชีพรับจ้าง อาศัยอยู่กระต๊อบในสวนยางพาราไม่มีเลขที่ ม.2ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้ไปทำงานรับจ้างที่ไร่มันสำปะหลัง หลังตกเย็นใกล้ค่ำเลิกงาน จึงเดินกลับที่พัก ระหว่างทางพบโขลงช้างป่าราว 10 ตัว จีงออกวิ่งหลบหนี เคราะห์ร้ายวิ่งไปพบกับโขลงช้างอีกฝูงราว10ตัว ยืนขวางทาง ทั้งช้างและคนต่างตกใจ โดยในฝูงมีช้างแม่ลูกอ่อน ทันใดนั้นช้างขนาดรุ่นที่เป็นพี่เลี้ยง เกิดหวงลูกช้าง จึงวิ่งเข้าหาสองผัวเมีย นายมะจอได้วิ่งหลบหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด แต่นางซามะ โชคร้ายอายุมาก วิ่งหนีไม่ทันจึงถูกช้างป่าใช้งวงฟาดจนล้ม และใช้เท้าเตะร่างนางซามะจนคอหัก ซี่โครงหักทั้ง2ข้าง เสียชีวิต หลังจากเห็นนางซามะเงียบแน่นิ่ง โขลงช้างป่าจึงเดินเข้าป่าไป ส่วนนายมะจอหลังวิ่งหลบหนีเข้าหมู่บ้าน ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ ออกเดินทางเข้าช่วยเหลือนางซามะ แต่ไม่ทันเมื่อไปถึงก็พบร่างนางซามะเสียชีวิตแล้วดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาหลังเกิดภัยแล้ง แหล่งอาหารของสัตว์ป่าเหลือน้อย และน้ำในป่าเหือดแห้ง ทำให้โขลงช้างป่าออกไปหากินใกล้หมู่บ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังออกดูแล เฝ้าช้างป่าอยู่ทุกวันคืน แต่พื้นที่ป่ากว้างไกล เกินกว่ากำลังที่เจ้าหน้าที่จะดูแลได้ทั่วถึง จึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเพิ่มจากเดิม ทั้งอุทยานฯทองผาภูมิ อุทยานฯไทรโยค ทหารพล.ร.9 ตชด.135 และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันเฝ้าระวังดูแล ไม่ให้โขลงช้างป่าออกจากแนวป่า ไปกัดกินทำลายผลผลิตของเกษตรกรและทำร้ายคน

 

 

ภาพ / ข่าว : วุฒิเดช ก้อนทองคำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาญจนบุรี