แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ เพจ ข่าวภูมิภาค 77 จังหวัด Tnews

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีนางสาวชนัญธิดา ป้อมทะเล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 บ้านสก็วน ม. 5 ต.บุฤาษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ และนางเพ็ญศรี ป้อมทะเล อายุ 60 ปี มารดา ได้เดินทางเข้าพบ ที่สำนักงานสุรินทร์นิวส์ เพื่อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือ  จากกรณี นางสาวชนัญธิดา ป้อมทะเล หรือชื่อเดิมนางสาว จิราภา ป้อมทะเล ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนหล่นหายที่ กรุงเทพฯ เมื่อ 3 ปีก่อน และได้มีการแจ้งความบัตรประชาชนหายไว้ที่สภ.เมืองสุรินทร์ ประจำวัน ลำดับที่ 10 เวลา 09.20 น. เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2557 และได้ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองสุรินทร์ 

 

แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!

จู่ๆได้มีหมายเรียก จากสถานีตำรวจทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย และต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ถึง 9 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ทั้งๆที่เจ้าตัวไม่เคยไปเปิดบัญชีธนาคาร และทำบัตร ATM สร้างความ เดือดร้อน วุ่นวาย ไม่เป็นอันทำมาหากิน ทั้งครอบครัว ด้วยฐานะที่ยากจน ต้องเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียก และวิ่งหาเงินประกันตัว วอนสื่อช่วยสะท้อนความจริงให้สังคมช่วยเหลือ ด้านกฎหมาย และมนุษย์ธรรม

 

แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!


นางสาวชนัญธิดา ป้อมทะเล สาวเมืองช้างดวงซวย กล่าวว่า ตนอยู่ที่บ้านคนเดียว มีไปรษณีย์มาที่บ้านส่งซองจดหมายของทางราชการ พอเปิดดูเป็นหมายเรียกผู้ต้อง คดีฉ้อโกง จึงไปปรึกษาแม่ ได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าตำรวจที่ออกหมายเรียกดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำให้ไปปรึกษาดูที่ธนาคารใกล้บ้าน ทราบว่ามีผู้อื่นแอบอ้างนำเอาบัตรประจำตัวประชาชน ไปเปิดสมุดบัญชีเงินในชื่อของตนเองและได้หลอกผู้เสียหายจำนวนมากให้โอนเงินเข้าบัญชี

 

แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!

 

ตนจึงได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.ทับปุด จ.พังงา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และทางผู้เสียหายได้เห็นว่าตน ไม่ได้รู้เห็นในเหตุการณ์หลอกลวง  ซึ่งพฤติกรรมของคนร้ายที่มีการพูดคุยทางเฟซบุ๊ก เริ่มจากการขอเป็นเพื่อนก่อน แล้วคุยแชทข้อความ โดยชักชวนไปทำงานเป็นเลขาบริษัท ไวน์ ของฝรั่งชาวอเมริกัน พร้อมจะมอบกระเป๋า แบรนด์เนม 2 ใบ ให้นายสมคิด (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย นอกจากนั้นยังจะมอบ โทรศัพท์ นาฬิกา สร้อยเลตล้อมเพชรอย่างดีให้ และจะมีเงินดอล์ล่าให้ ซึ่งจะส่งมาทางที่อยู่ในครั้งแรกที่คุยกัน  แต่ที่สุดแล้วคนร้ายก็ให้นายสมคิด ผู้เสียหาย เดินทางไปรับเองที่ สนามบินดอนเมือง

 

แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!

 

แล้วก็มีโทรศัพท์อ้างว่า ต้องให้นายสมคิด ผู้เสียหาย ไปเสียภาษีเพิ่ม เนื่องจากสินค้ามาถึงแล้วแต่ต้องเสียภาษีก่อนจึงจะนำเข้ามามอบให้ได้   นายสมคิดก็หลงกล เริ่มโอนเงินให้ครั้งแรกก็ส่งไปให้ 39,000 บาท ไปยังบัญชี น.ส.จิราภา ป้อมทะเล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาออลซีซัน กรุงทพฯ  ยังไม่พอ จะให้โอนเงินอีกในครั้งที่ 2 โดยจะมีการนำสิ่งของมามอบให้เอง แต่นายสมคิด เอะใจว่าตัวเองน่าจะถูกหลอก จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.ทับปุด จ.พังงา  

 

ต่อมาตำรวจจึงได้จึงได้มีการส่งหมายเรียกน.ส.จิราภา ป้อมทะเล เจ้าของบัญชี ที่บ้านเลขที่ 125 บ้านสก็วน ม. 5 ต.บุฤาษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ เป็นการใช้เฟซบุ๊กชื่อ Charles Morgan คุยหลอกล่อให้เหยื่อโอนเงินให้

 

แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!


นอกจากนั้น ตนก็ยังได้รับหมายเรียกในลักษณะเดียวกันอีก 8 หมายเรียก โดยมีสถานีตำรวจที่ออกหมายเรียกทั่วประเทศ ตั้งแต่ภาคเหนือ ยันภาคใต้  ตนยังพบว่าคนร้ายได้นำบัตรประชาชนของตนไปเปิดบัญชีธนาคารอีกหลายบัญชี ตามหมายเรียกที่ตำรวจแจ้งตนมา อาทิ

ชื่อ น.ส.จิราภา ป้อมทะเล

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิสวิวล์ กทม. ,สาขาจัตุรัสจามจุรี กทม.

ธนาคารกสิกรไทย สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาออลซีซัน กรุงเทพ

ธนาคารกรุงไทย สาขาซีคอล บางแค กรุงเทพฯ

ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย สาขาซีคอล บางแค กรุงเทพฯ

นอกจากนั้น คนร้ายยังได้นำบัตรประชาชนของตนไปเปิดบริการโทรศัพท์มือถือค่ายดีแทค หมายเลข 0827358989 ยังมียอดค้างชำระ 1,660 บาท ก็ไม่ยอมจ่าย

ตนสะเทือนใจมากเงินแค่พันกว่าบาทคุณยังไม่รับผิดชอบ คุณต้องมาทำให้คนอื่นต้องมารับผิดชอบเงินพันกว่าบาท ตนขอฝากผ่านสื่อถึง คนร้ายถ้าคุณหยุดได้ก็ขอให้หยุด เพราะตอนนี้ตำรวจยังจับตัวไม่ได้ เพราะคุณเป็นคนถือบัตรประชาชน แต่ตำรวจแจ้งว่าคนในแก๊งค์คุณถูกจับกุมหมดแล้ว ทางที่ดีอยากให้เข้ามอบตัว มารับผิดชอบในสิ่งที่ทำ และขอให้หยุดสะที เงินที่เอาไปใช้ก็คงไม่มีความสุข ตนไม่เคยเป็นอาชญากร ไม่เคยขโมยเงินของใคร ก็ไม่เคยอยากเอาของใคร

 

แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!


ขณะที่นางเพ็ญศรี ป้อมทะเล อายุ 60 ปี มารดา กล่าวว่า ตนมีลูก 2 คน คนโตคือ นางสาวชนัญธิดา ป้อมทะเล หรือชื่อเดิม นางสาว จิราภา ป้อมทะเล อายุ 36 ปี คนที่ 2 เป็นผู้ชายชื่อ นายจิระพงษ์ ป้อมทะเลข อายุ 33 ปี ชีวิตของตนเองลำบากมากต้องดิ้นรนทำมาหากินมาตลอดชีวิต สามีมีอาชีพปั่นสามล้อรับจ้าง ที่ จ.นครราชสีมา และวิ่งขายน้ำแข็ง ทำทุกอย่างให้ได้เงินมาเลี้ยงลูก ฐานะยากจน อาชีพทำไร่ทำนา มีที่นาอยู่นิดหน่อย พอได้กิน หนี้สินก็มีมากมายกู้เงินธนาคารมาสร้างบ้าน ตนไม่เคยสั่งสอนให้ลูก คดโกงใคร หรือเปิดบัญชีให้ใคร ที่เขามาเป็นแบบนี้เพราะว่า บัตรประชาชนเขาหายไป ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 แต่มีคนร้ายนำบัตรประชาชนของลูกสาวมาเปิดบัญชีธนาคารในปี พ.ศ.2559 เริ่มเดินสายเปิดบัญชี ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.2559 เปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร 3 เล่ม 3 บัญชี พร้อมกันในวันเดียว คือบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาออลซีซัน กรุงเทพฯ ธนาคารกรุงไทย สาขาซีคอล บางแค กรุงเทพฯ และธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย สาขาซีคอล บางแค กรุงเทพฯ

 

แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!


ทุกวันน้ำตาตก ทุกข์ที่ลูกสาวต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหา โดยที่ไม่รู้ตัว แค่บัตรประจำตัวประชาชนตกหายแค่ใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ จะมีสังคมไหนที่จะช่วยเราได้พยายามวิ่งตามหา เพื่อหาทางช่วยให้ลูกสาวรอด ไปสภาทนายความก็ไป ไปอัยการจังหวัดก็ไป กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ดำรงธรรมก็ไป ทนายความตามรายการโทรทัศน์ก็โทรคุยปรึกษาเขา ทนายความก็แนะนำให้ไปเอาใบแจ้งความบัตรประชาชนหาย จะใช้แทนตัวเราได้แต่บางที่เขาก็ไม่ดูเลย ตำรวจบางท่านก็จะเอาใบแจ้งความอย่างเดียว

 

เราไปแจ้งความที่ตำรวจ เราไปแจ้งความแต่ไม่ได้เอาเก็บไว้ คิดว่าแค่บัตรประชาชนหายคงไม่มีคดีอะไรขึ้นมาแบบนี้ พอไปขอใบแจ้งความจากตำรวจท่านก็บอกว่าทำลายปีต่อปี ไม่สามารถค้นหาให้ได้

 

แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!

 

พอหมายเรียกตัวผู้ต้องหาใบที่ 1 และในที่ 2-4 วิ่งหาตำรวจซึ่งเป็นน้องของน้าที่ทำงานอยู่ในนั้น บอกเขาว่าวันที่ 30 ต.ค.2557 ที่ไปแจ้งความว่าบัตรประชาชนหาย ก็เลยได้ใบแจ้งความมาพอได้ช่วยเหลือตรงนี้บ้าง ไม่งั้นลูกสาวก็คงติดคุกฟรีมาตั้งแต่เริ่มแรก หากที่สุดแล้วลูกสาวต้องมาติดคุก เพราะการทำบัตรประชาชนหาย แล้วถูกแก๊งค์มิจฉาชีพ เดินสายเปิดบัญชีธนาคาร สารพัดธนาคาร แล้วหลอกลวงเหยื่อทางโซเซียลมีเดีย และคอลเซ็นเตอร์ โอนเงินเข้าบัญชีชื่อ นางสาว จิราภา ป้อมทะเล ก็คงต้องยอมรับชะตากรรมต่อไป

 

แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!

 

แชร์เตือนภัย!! ระวังให้ดี ความซวยจะมาเยือน แค่บัตรประชาชนหายใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ง่ายๆ รีบอ่าน ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!