เด็กดี ที่น่าช่วยเหลือ!! "เด็กหญิงวัย 12" แบกภาระหนักอึ้งดูแลแม่พิการเพียงลำพัง เผยไม่เคยท้อชีวิต ฝันอยากเป็นพยาบาลเอาความรู้มาดูแลแม่!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

แม้โชคชะตาชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณพ่อ แม่ได้ ชีวิตสุดรันทดของ น้องกระรอก วัย 12 ขวบ เด็กหญิงยอดกตัญญู คล้ายกับหนังดัง "วัลลี" ต้องหุงข้าว ทำกับข้าวให้แม่กินและคอยดูแลแม่ที่ป่วยเป็นโรคความดัน เบาหวาน และตาพิการทั้ง 2 ข้าง ทั้งก่อนไปโรงเรียนและเลิกเรียน หลังจากที่พ่อบังเกิดเกล้า ต้องมาเสียชีวิตด้วยโรคปัจจุบันทันด่วนไปก่อน เจ้าตัวไม่ท้อโชคชะตา ฝันอยากเป็นพยาบาลเพื่อได้ดูแลแม่ที่ป่วย

  
ผู้สื่อข่าว ได้ติดตาม นายสมบูรณ์ อวยศิลป์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทับปริก ต.ทัปริก อ.เมือง จ.กระบี่ พร้อมด้วยคณะครูโรงเรียนบ้านทับปริก เดินทางไปที่บ้านของ ด.ญ.สินจัย หรือ (น้องกระรอก) สุดจิต อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 อยู่บ้านเลขที่ 102 ม.5 ต.ทับปริก ตรวจเยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อคัดกรองและให้การช่วยเหลือ นักเรียนตามโครงการปัจจัยนักเรียนห่างไกล แต่ยากจน โดยพบว่าน้องกระรอก อาศัยอยู่กับแม่ตาบอดเพียงลำพัง 2 คน ภายในบ้านที่กำลังสร้างใหม่ ยังไม่เสร็จ 

 

 

เด็กดี ที่น่าช่วยเหลือ!! "เด็กหญิงวัย 12" แบกภาระหนักอึ้งดูแลแม่พิการเพียงลำพัง เผยไม่เคยท้อชีวิต ฝันอยากเป็นพยาบาลเอาความรู้มาดูแลแม่!! .

 

น้องกระรอก บอกว่า ครอบครัวของตน มีด้วยกัน 3 คน พ่อสมภพ สุดจิต อายุ 59 ปี แม่วิน เครือคง อายุ 52 ปี และตนเอง โดยพ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แม่พิการตาบอด ไม่มีรายได้ และยังป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน ต้องไปหาหมอเป็นประจำ โดยปกติพ่อ จะเป็นคนดูแลแม่ แต่เมื่อ ปี 58 ที่ผ่านมา พ่อก็มาเสียชีวิตด้วยโรคลมชักทิ้งให้ตนกับแม่อยู่กันตามลำพัง ทำให้ชีวิตที่ไม่เคยหุงข้าวทำกับข้าว ก็ต้องหัดทำ มอเตอร์ไซค์ ที่ขับไม่เป็นก็หัดขับโดยทุกวันก่อนที่จะไปโรงเรียน ก็จะทำกับข้าวหุงข้าว ให้แม่กิน และก็จะให้แม่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไปส่งที่บ้านป้าทุกวัน เลิกเรียนก็จะมารับกลับ 

น้องกระรอกบอกด้วยว่า ถึงแม้ว่าพ่อจะจากไปแล้ว แต่ครอบครัวของตนก็ยังโชคดี ที่ได้ญาติพี่น้องของแม่คอยดูแลช่วยเหลืออยู่ตลอด ถ้าหากวันไหนไม่มีเงิน ไม่มีกับข้าว ลุงกับป้าก็จะหยิบยื่นให้ตลอด รวมทั้งเป็นธุระพาแม่ไปหาหมอด้วย แต่ถึงชีวิตของตน จะต่างกับเพื่อนๆก็ไม่เคยรู้สึกท้อแท้กับชีวิต ตนก็มีความฝันโตขึ้นอยากเป็นพยาบาล เพื่อที่จะได้มาดูแลแม่ 

ด้านนางแจ๊ด รุ่งรังสี ป้าของน้องกะรอก กล่าวว่า หลังจากที่พ่อของน้องกระรอก เสีย ก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตัว มีเพียงบ้านและที่ดิน แล้วก็รถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน ด้วยความเป็นห่วงหลานผู้หญิงที่ต้องอยู่ตามลำพังกับแม่พิการตาบอด และมีโรคประจำตัว ประกอบกับบ้านที่อยู่ประจำ ถูกน้ำท่วมบ่อยครั้ง จึงได้ให้ขายบ้านไปและนำเงินที่ขายบ้านได้มาสร้างบ้านใหม่ ตนยกที่ดินให้อยู่ติดกับบ้านของตน เพื่อว่ายามที่น้องกระรอกไปโรงเรียนตนก็จะได้ดูแลได้ แต่ที่เป็นห่วงต่อไปก็คืออนาคตของหลาน เพราะแม่ไม่มีรายได้ มีเพียงเงินรายได้คนพิการเดือนละ 800 บาทนั้น

 

เด็กดี ที่น่าช่วยเหลือ!! "เด็กหญิงวัย 12" แบกภาระหนักอึ้งดูแลแม่พิการเพียงลำพัง เผยไม่เคยท้อชีวิต ฝันอยากเป็นพยาบาลเอาความรู้มาดูแลแม่!!


คุณครูสายชล บุญชิตร ครูประจำชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านทับปริก กล่าวว่า โรงเรียนได้เริ่มจัดโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียน โดยแต่ละเดือนจะหมุนเวียนไปเยี่ยมบ้านของนักเรียนแต่ละชั้น เพื่อถามสาระทุกข์สุกดิบและสภาพความเป็นอยู่ โดยพบว่าน้องกระรอก ต้องแบกรับภาระที่หนักอึ้ง เห็นแล้วน่าสงสารมาก นอกจากนี้น้องกระรอก ก็ยังมีพฤติกรรมที่ชอบช่วยงานกิจกรรมโรงเรียนและมีความกตัญญูแม่และการเรียนอยู่ในระดับดีสนใจการเรียน โดยเกรดเฉลี่ย ป.5 ที่ผ่านมา ได้อยู่ที่ 3.85 แต่เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจนและเป็นลูกสาวคนเดียวจึงต้องไปคอยดูแลแม่ทีป่วยสารพัดโรคและพิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง 

 

เด็กดี ที่น่าช่วยเหลือ!! "เด็กหญิงวัย 12" แบกภาระหนักอึ้งดูแลแม่พิการเพียงลำพัง เผยไม่เคยท้อชีวิต ฝันอยากเป็นพยาบาลเอาความรู้มาดูแลแม่!!

 

อีกทั้งเมื่อได้เห็นความฝันของน้องกระรอก และพฤติกรรมที่เป็นเด็กดี จึงอยากให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวและเรื่องการศึกษาในอนาคต สำหรับผู้ใจบุญหากต้องการช่วยเหลือน้องกระรอก สามารถบริจาคเงินได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020177860309 บัญชี ด.ญ.สินจัย สุดจิต หรือสอบถามข้อมูลได้ที่คุณครูสายชล 080-1447107หรือน้องกระรอก โทร 064-9733120 

 


ข่าว/ภาพ บัญฑิต รอดเกิด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ กระบี่