- 25 เม.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ภาพทางโลกโซเซี่ยลเกี่ยวกับเหตุการณ์พ่อและยายกับป้าพากันยื้อแย่งเด็กหญิงฝาแฝด คือ น้องใบบัวและน้องใบตอง อายุ 7 ขวบ ซึ่งยายและป้า คือ นางเสาร์ พวงท้าว อายุ 66 ปี และนางปุณณภัทร พวงท้าว อายุ 43 ปี เลี้ยงมาตั้งแต่เกิด และต่อมา พ่อของเด็กได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจและทนายความมารับเด็กไป ท่ามกลางเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเด็กฝาแฝดที่ไม่ต้องการจากยายและป้าไปอยู่กับพ่อ เพราะไม่ทราบมาก่อนว่าคนที่เป็นพ่อเป็นใครมาจากไหน ต่อมา ยายได้วอนขอให้นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเป็นธรรมและให้ความช่วยเหลือด้วย โดยล่าสุด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ ได้เร่งประสานงานกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นนทบุรี เพื่อให้ไปเยี่ยมเด็กฝาแฝด และตรวจสภาพความเป็นอยู่ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.15 น.วันที่ 24 เม.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 1 บ้านหนองโปร่ง ต.โคกหล่าม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายสุพล บริสุทธิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจนางเสาร์ พวงท้าว และนางปุณณภัทร พวงท้าว ซึ่งพบว่า นางเสาร์ยังคงมีอาการเศร้าซึม แววตาเหม่อลอย โดยนางเสาร์ได้นำเอารูปภาพของหลานสาวทั้ง 2 คน กระปุกออมสิน และตุ๊กตาหมี รวมทั้งเสื้อผ้าของหลานสาวทั้ง 2 คน มาดูด้วยความรักและคิดถึงอย่างรุนแรง โดยมีบรรดาญาติพี่น้องพากันมาให้กำลังใจกับยายและป้าเป็นจำนวนมาก และได้ปลอบใจยายว่า หลานไปอยู่กับพ่ออาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ได้
นายสุพล บริสุทธิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจกับยายและป้าของเด็กฝาแฝด พร้อมทั้งแนะนำวิธีการและแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดก็คือ ทำความเข้าใจกันระหว่างพ่อเด็กกับยายและป้า โดยตนได้แจ้งให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นนทบุรี ไปทำความเข้าใจกับพ่อของเด็ก เพื่อให้สามารถเจรจากันได้ ทั้งนี้ตนและคณะพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้กับยายและป้าไปเยี่ยมหลานสาวทั้ง 2 คน แต่ว่าต้องมีการพูดคุยเจรจาตกลงกันทั้ง 2 ฝ่ายให้ได้เสียก่อน เพราะตนเชื่อว่า ทั้ง 2 ฝ่าย ต้องการให้มีความรักความเข้าใจกัน เพื่อให้เด็กสบายใจ ไม่ต้องให้มีการนำเอากฎหมายมาใช้บังคับในเรื่องนี้ เนื่องจากว่าทุกคนต้องยึดเอาตัวเด็กเป็นหลัก เชื่อว่าจะสามารถเจรจาพูดคุยกันได้ด้วยดี ซึ่งล่าสุดจากการที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นนทบุรี ได้ไปตรวจสอบที่บ้านพ่อของเด็กฝาแฝดแล้ว ปรากฏว่าเด็กทั้ง 2 คนกับพ่อไม่อยู่บ้าน ทราบจากคนข้างบ้านว่า พ่อเด็กพาเด็กฝาแฝดไปทำงานด้วย ซึ่งจะได้มีการติดตามในเรื่องนี้ต่อไป
นางเสาร์ พวงท้าว กล่าวว่า จนกระทั่งบัดนี้ ตนยังทำใจไม่ได้ที่หลานสาวฝาแฝดต้องจากตนไปอยู่กับพ่อ เพราะว่าเสื้อผ้า ของกินของใช้ยังอยู่ที่นี่ ก็ไม่รู้ว่าหลานสาวจะไปอยู่อย่างไร ซึ่งหากเลือกได้ตนขอให้หลานสาวทั้ง 2 คนกลับมาอยู่ด้วยกับตน เนื่องจากตนรักหลานทั้ง 2 คนมาก จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาให้การช่วยเหลือด้วย
ทางด้าน นางปุณณภัทร พวงท้าว กล่าวว่า ขณะนี้ตนทำใจได้บ้างแล้ว เพราะคาดว่าหลานสาวทั้ง 2 คน จะไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ แต่ที่ตนห่วงเพราะว่าหลานสาวเป็นคนไม่ค่อยชอบพูด อยากกินอะไรก็ไม่บอกใคร แต่ว่าเป็นเด็กสุภาพเรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม หากมีสิทธิเลือกได้ ตนขอให้หลานสาวทั้ง 2 คน กลับมาอยู่ที่บ้านกับตน เพราะว่าตนและญาติพี่น้องทุกคนสามารถที่จะเลี้ยงดูหลานทั้ง 2 ได้เป็นอย่างดี
ข่าว/ภาพ ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ศรีสะเกษ