เอาล่ะสิ!! ส่อวุ่น ทุ่มล้มคดีเฒ่าวัย77กินยาปลุกเซ็กส์บุกฉุดสาวพิการข่มขืนยับ คาดทุ่มเงินก้อนโตเคลียร์ยุติคดี ทำเอาแม่สาวพิการท่าทีเปลี่ยนไป

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

จากรณีนางนัชชาศิริ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปีพร้อมด้วยญาติ ๆ ได้นำ น.ส. คะแนน (นามสมมุติ ) อายุ 19 ปี บุตรสาวซึ่งเป็นผู้พิการทางสมอง ได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช  ว่า น.ส.คะแนน บุตรสาวถูกนายจิตต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 77 ปี หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม “ลุงจิตต์ บ่อทราย” บ้านอยู่ ต.ขุนทะเล    อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช บุกฉุดเข้าไปในห้องข่มขืนกระทำชำเราอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนจนสำเร็จความใคร่  เหตุเกิดที่บ้านยายของ น.ส.คะแนน ใน ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 10.25 น.ของวันที่ 24 เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา  

เอาล่ะสิ!! ส่อวุ่น ทุ่มล้มคดีเฒ่าวัย77กินยาปลุกเซ็กส์บุกฉุดสาวพิการข่มขืนยับ คาดทุ่มเงินก้อนโตเคลียร์ยุติคดี ทำเอาแม่สาวพิการท่าทีเปลี่ยนไป

 วันที่ 28 เม.ย. 2560  ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางนัชชาศิริ แม่ของ น.ส.คะแนน นัดกับสื่อมวลชนว่าจะเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจ น.ส.คะแนน จาก พม.จ.นครศรีธรรมราช และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงก่อนเที่ยงวันเดียวกันนี้  โดยได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อขอคัดสำเนาบันทึกการแจ้งความของนายจิตต์ พ่อเฒ่าหื่นกามวัย 77 ปี เพื่อนำมาประกอบการเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือทั้งจาก พม.จ.นครศรีธรรมราช และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช    ทางนางนัชชาศิริ ได้สอบถามถึงการที่พนักงานสอบสวนให้ประกันตัวนายจิตต์ ผู้ต้องหา ทั้ง ๆ ที่ตัวเองร้องคัดค้านการประกันตัว เพราะนายจิตต์ ผู้ต้องหามีพฤติกรรมในการข่มจู่ คุกคามประจักษ์พยาน 2 คนซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 9 ขวบ และน้าสาว น.ส.คะแนน ซึ่งพฤติกรรมการบุกฉุด น.ส.คะแนน ซึ่งเป็นคนพิการทางสมองไปข่มขืนกระทำชำเรา และข่มขู่คุกคามประจักษ์พยาน ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ สะเทือนขวัญ ทางพ.ต.ท.เทวกฤต  ดิษฐรัตน์ พนักงานสอบสวนจึงอธิบายว่าการยื่นประกันตัวในชันพนักงานสอบสวนเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ในคดีนี้พนักงานสอบสวนเห็นว่านายจิตต์ เข้ามอบตัวเอง โดยที่ยังไม่ได้ออกหมายจับจึงถือว่าไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนี  “ส่วนกรณีที่นางนัชชาศิริ อ้างว่านายจิตต์ ผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่ คุกคามประจักษ์พยานนั้น  ขอให้ยื่นเรื่องร้องต่อพนักงานสอบสวนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ทางพนักงานสอบสวนจะสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีการข่มขู่คุกคามตามที่ระบุจริงหรือไม่ หากมีพฤติกรรมดังกล่าวจริงอาจจะพิจารณาถอดประกันตัวก็ได้ และทางพนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องศาลโดยเร่งด่วน ทางผู้เสียหายสามารถยื่นร้องต่อศาลขอคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลก็ได้”

เอาล่ะสิ!! ส่อวุ่น ทุ่มล้มคดีเฒ่าวัย77กินยาปลุกเซ็กส์บุกฉุดสาวพิการข่มขืนยับ คาดทุ่มเงินก้อนโตเคลียร์ยุติคดี ทำเอาแม่สาวพิการท่าทีเปลี่ยนไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางนัชชาศิริ ไม่ได้เดินทางมาพบผู้สื่อข่าวตามที่นัดหมาย ทราบว่าได้เดินทางกลับเข้าไปในหมู่บ้านเกิดเหตุ ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามก็พยายามบ่ายเบี่ยงเดี่ยวจะโทรกลับมาหา และจะกลับเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช แต่ผู้สื่อข่าวรออยู่เป็นเวลานานนางนัชชาศิริ กลับไม่ติดต่อกับมาอย่างแต่อย่างใด  เมื่อโทรไปสอบถามอ้างวาติดสายแล้วจะโทรกลับ  แต่ก็เงียบหายไป สร้างความสงสัยให้กับผู้สื่อข่าวเป็นอย่างมาก เพราะผิดกับก่อนหน้าที่ที่พยายามจะเร่งรัดในการร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว พร้อมให้สัมภาษณ์แฉพฤติกรรมของนายจิตต์ ผู้ต้องหาอย่างหนักแน่นดุดัน  ซึ่งคาดว่าทางญาติ ๆ ของนายจิตต์ ผู้ต้องหาจะเดินทางไปพบนางนัชชาศิริ เพื่อเจรจาตกลงค่าเสียหายเพื่อล้มคดีนี้ก็เป็นได้ โดยในตอนแรกที่เข้าร้องเรียนสื่อมวลชน นางนัชชาศิริ แสดงความโกรธแค้นอย่างรุนแรงและยืนยันจะยืนฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายอย่างน้อย 5 แสนบาท...ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป

เอาล่ะสิ!! ส่อวุ่น ทุ่มล้มคดีเฒ่าวัย77กินยาปลุกเซ็กส์บุกฉุดสาวพิการข่มขืนยับ คาดทุ่มเงินก้อนโตเคลียร์ยุติคดี ทำเอาแม่สาวพิการท่าทีเปลี่ยนไป

เอาล่ะสิ!! ส่อวุ่น ทุ่มล้มคดีเฒ่าวัย77กินยาปลุกเซ็กส์บุกฉุดสาวพิการข่มขืนยับ คาดทุ่มเงินก้อนโตเคลียร์ยุติคดี ทำเอาแม่สาวพิการท่าทีเปลี่ยนไป

ภาพ/ข่าว นวรัตน์ อินทศิลา   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.นครศรีธรรมราช