สังคมสุดเน่าเฟะ!!แม่เผยทั้งน้ำตา ลูกติดยาหนัก หลังระบาดในหมู่บ้าน ยาบ้า กัญชา น้ำท่อม ทำทุบตีแม่ แย่สุดคือจะบุกปล้ำ ดีที่รอดมาได้

วันนี้(21 พ.ค.60) นางรัติยา พัฒกุล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง พร้อมด้วยคณะและเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ตรัง ได้ประสานมายัง นายเจริญ ศรนารายณ์ กำนัน ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง และ ด.ต.อำนวย ฤทธิมา ประจำป้อมสายตรวจนาหมื่นศรี รุดเดินทางไปเข้าเยี่ยมปลอบขวัญและให้กำลังใจเยียวยา น.ส.ดำ (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี แม่ที่ตกอยู่ในอาการทุกข์เศร้าและหวาดผวาอย่างหนัก ในพื้นที่ ม.4 ต.นาหมื่นศรี  หลังทราบข่าวลูกชายในไส้ของตัวเองทุบตีทำร้าย และทำลายข้าวของภายในบ้านได้รับความเสียหาย คลั่งเสพยาจนเพี้ยนขอร่วมเพศกับแม่ ก่อนควบคุมตัวนำส่ง รพ.นาโยงและส่งต่อไปยัง รพ.สวนสราญรมย์ จ.สุรษฎร์ธานี เพื่อให้แพทย์ตรวจรักษาระงับอาการคลั่ง เหตุเกิดในพื้นที่ ม.4 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง หลังจากลูกชาย

 

นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง เผยว่า จากการได้พูดคุยสอบถามสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว นางดำ ผู้เป็นแม่ได้กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า ทุกวันนี้ต้องรับผิดชอบในครอบครัวเอง เนื่องจากลูกชายเมาเสพยาแล้วก็ไม่ทำอะไร ขอเงินตนวันละ 600 บาท เอาไปใช้จ่าย ส่วนเรื่องอาหารการกินก็ต้องทำให้ หากลูกชายไม่พอใจก็เททิ้ง ซึ่งตนเองก็ยังไม่ได้กินเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง เรื่องนี้กำลังเป็นปัญหาของสังคม ตอนนี้เรื่องกระท่อม กัญชา ยาบ้าก็ระบาดในหมู่บ้านมีเยอะมากขึ้น ปัญหาอยู่ที่ว่าหลังจากลูกชายรักษาตัวหายก็ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านกลับมาอยู่สิ่งแวดล้อมเดิมจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เนื่องจากการเข้ารักษาตัวไม่ต่อเนื่องเพราะเมื่ออาการดีขึ้นแม่ไปรับกลับบ้านอาการอาจจะกำเริบอีก จึงต้องเข้ารับการรักษาให้ถึงที่สุด

 

นางดำ กล่าวด้วยว่าตนรู้สึกตกใจ และกลัว มากๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ลูกชายคนนี้ เป็นลูกคนที่ 1 และมีน้องชายอีก 2 คน ซึ่งลูกคนนี้ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนสมองได้รับความกระทบกระเทือนมาตั้งแต่อายุ 16 ปี ไม่มีอาชีพ ตนและสามีก็กรีดยาง เลี้ยงดูมาโดยตลอด ต่อมาเมื่อปีที่แล้วสามีตนป่วยและได้เสียชีวิตลง ทำให้ตนต้องรับภาระเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ต้องขายที่ดิน ที่นา จนเกือบหมด ตนเพิ่งมารู้ว่าลูกชายตนติดยาทั้งกัญชา ยาบ้า พืชกระท่อม เหล้า สิ่งเสพติดหลายชนิด ทำให้เริ่มมีอาการทางสมอง และเริ่มหนักขึ้นช่วง 5-6 เดือนมานี้ ขอเงินเยอะขึ้น คลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของ ทำร้ายตน และที่หนักสุดคือขอร่วมหลับนอน และเคยลอบเข้าหาตน มา 2 ครั้ง แต่โชคดี ตนเอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง ทำให้ตนจำเป็นต้องแจ้งกำนันให้มาจับตัวไป เพราะคิดว่าขืนปล่อยไว้ ตนอาจถึงอันตรายแก่ชีวิตได้   

ด้านนายเจริญ ศรนารายณ์ กำนัน ต.นาหมื่นศรี กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวตนรู้จักกับครอบครัวนี้เป็นอย่างดี แต่ด้วยพิษภัยของยาเสพติด ทำให้คนดีๆ ต้องกลายเป็นคนโรคจิต เกิดประสาทหลอน จนคลุ้มคลั่ง คิดว่าจะมีคนมาทำร้ายตัวเองตลอดเวลา คนที่อยู่ใกล้ชิดโดยเฉพาะพ่อแม่ ต้องมารับกรรม ตนรู้สึกหนักใจกับปัญหายาเสพติด  ที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อกันกับหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพืชกระท่อม ยาบ้า ที่ปัจจุบันยากต่อการควบคุม ตนเชื่อว่า ตำรวจ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองรู้ แต่ยังไม่มีหลักฐาน  จับกุมได้ทั้งหมด.

 

ข่าว/ภาพ ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม สำนักข่าวภูมิภาค ทีนิวส์ จังหวัดตรัง