ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันที่  21 มิ.ย. 2560   นายกิจ  หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง นายชาลี กางอิ่ม อดีตนายกเทศมนตรีนครตรัง นายธเนศ หลิมสกุล อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง นายวิทย์ เกษมพงศากร อดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครตรัง และผู้นำท้องถิ่นในตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง ร่วมเดินสำรวจป่ายาง ในสวนยางพาราของนายบัณฑิต วิจารณ์ อายุ 84 ปี ที่ปลูกอยู่ในบริเวณบ้านพักเลขที่45/1 หมู่ที่ 3 ตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง มีเนื้อที่ทั้งหมด 28 ไร่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นต้นยางเก่าแก่อายุ 100 กว่าปี ปลูกในสมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ คอซิ้มบี้ ณ ระนอง หรือประมาณปี 2444 เนื่องจากป่ายางนี้ปลูกในสมัยพ่อของนายบัณฑิต คือ นายกิ้มอุ่ย วิจารณ์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง โดยนายกิ้มอุ่ย เสียชีวิตในขณะอายุ 70 กว่าปี ลูกหลานไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดในปี พ.ศ.ไหน  แต่เมื่อรวมกับอายุของนายบัณฑิตตอนนี้ ต้นยางพาราในสวนนี้จึงมีอายุมากกว่า 100 ปี

สุดล้ำค่า!! พบป่ายางอายุกว่า100 ปี กลางเมืองตรังปลูกในสมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ คอซิ้มบี้ ณ ระนอง ควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง(มีคลิป)

ซึ่งจากการสำรวจในสวนยางพาราแห่งนี้ พบว่ามีต้นยางพาราเก่าแก่ที่เติบโตตามธรรมชาติอีกกว่า 300 ต้น ที่หยุดกรีดยางไปนานมากกว่า 7 ปีแล้ว แต่ลำต้นยังเติบโต มีความอุดมสมบูรณ์มาก แม้ว่าพื้นที่สวนยางจะเป็นที่ราบลุ่ม น้ำท่วมขังทุกปี และพบต้นยางพาราเก่าแก่ต้นที่ใหญ่ที่สุดในสวน วัดจากพื้นดินขึ้นไปประมาณ 60 ซม. มีขนาด 3 คนโอบ หรือมีหน้ากว้างประมาณ 1.8 เมตร เส้นรอบลำต้น มีขนาดประมาณ 5 เมตร และมีความสูงประมาณ 22 เมตร  ซึ่งนอกจากต้นยางพาราแล้ว สวนยางแห่งนี้ยังมีพันธุ์ไม้ประจำถิ่นอีกหลายชนิด เช่น ต้นเดือย ลูกแฟบ ว่านชนิดต่างๆ เต่าร้าง ต้นว้า และพืชสมุนไพรอีกมาก

สุดล้ำค่า!! พบป่ายางอายุกว่า100 ปี กลางเมืองตรังปลูกในสมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ คอซิ้มบี้ ณ ระนอง ควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง(มีคลิป)

นายบัณฑิต วิจารณ์ เจ้าของป่ายาง กลางเมือง กล่าวว่า ป่ายางแห่งนี้ปลูกขึ้นสมัยพ่อของตนเองเชื่อว่าเป็นยางพารารุ่นแรกๆของต้นยางธรรมชาติสมัยพระยารัษฎาฯ มีอายุกว่า 100 ปีแน่นอน ซึ่งปลูกโดยการนำเมล็ดพันธุ์ยางที่มีใบงอกตามธรรมชาติมาปลูกไว้ หรือที่เรียกว่า “รุ่นลูกยาง 2 ใบ” จึงอยากอนุรักษ์ที่ดินและป่ายางพาราแท้ๆแห่งนี้ซึ่งมีกว่า 300 ต้นไว้ให้ลูกหลานและเยาวชนได้เรียนรู้ ไม่อยากให้ต้นยางแท้ๆถูกทำลายไป ซึ่งพื้นที่สวนยางเป็นทำเลทองของนายทุน มีคนเคยมาติดต่อขอซื้อ มูลค่าไร่ละ 4 ล้านบาท แต่ตนไม่ขาย แต่ตามลำพังครอบครัวของตนเองก็ไม่มีศักยภาพที่จะพัฒนาให้เกิดประโยชน์กับชุมชน ประเทศชาติ แต่หากทางภาครัฐเข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือ ส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์ป่ายางแห่งนี้ไว้ โดยที่กรรมสิทธิ์ยังเป็นของตนเองหรือลูกหลานในครอบครัวก็ยินดี เพราะเป็นที่ดินของบรรพบุรุษ อยากรักษาไว้ แต่ก็อยากให้เกิดประโยชน์กับชุมชน สังคมด้วย
 
สุดล้ำค่า!! พบป่ายางอายุกว่า100 ปี กลางเมืองตรังปลูกในสมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ คอซิ้มบี้ ณ ระนอง ควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง(มีคลิป)
ภาพ/ข่าว สุนิภา หนองตรุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ตรัง