- 26 มิ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
อยู่เฉยไม่ได้แล้ว ชาวสวนแห่ดีใจกองทัพช่วยซื้อ 17 ตัน อบจ.20 ตัน ธกส.หนุนลูกค้ารายละ 1 ตัน พ่อเมืองลับแลนำทีมเร่งแก้ไขปัญหา ปั้มปตท.3 แห่ง ประชาสัมพันธ์อย่างดี แต่ไม่มีขาย เจ้าของสวนปักป้าย "นายกตู่ ช่วยด้วย โดนรุมด่าจนน้ำตาร่วง คนจุดไฟเผา" หนีไม่พ้นโดนกลุ่ม อบต.ด่า ภาครัฐจวกชาวบ้านผิดปลูกมากเป็นเหตุให้ราคาตก ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่ส่วนกลางจากกระทรวงเกษตรและพาณิชย์มาแก้ปัญหา ปลายเดือนถึงเดือนหน้าผลผลิตออกอีกกว่า 60,000 ตัน หวั่นออกสู่ตลาดไม่ได้ เรียกร้อง นายก "ประยุทธ์" พยุงราคาซื้อผลผลิตโดยตรง อำเภอน้ำปาดต้นเหตุไม่เหลียวแลชาวสวนทำให้ต้องเผา สะเทือนถึงหลายหน่วยงานต้องออกแรงช่วย
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2560 ผู้สื่อข่าว ทีนิวส์ จ.อุตรดิตถ์ รายงานความคืบหน้า กรณีที่ นางสมพล พอแห้ว อายุ 61 ปี ชาวสวนผู้ปลูกสับปะรด"ห้วยมุ่น" หมู่ 2 ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ พร้อมชาวสวนด้วยกัน เดินไล่เก็บผลผลิตสับปะรดพันธุ์สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดและอำเภอ กำลังออกผลผลิตสุกเน่าคาสวน จากขายไม่ได้เพราะไม่มีพ่อค้าแม่ค้ามาซื้อ จำเป็นต้องปล่อยผลสับปะรดสุกเน่าเสียคาต้น ได้หยิบลูกสับปะรดที่เน่าเสียนำมากองรวมกันเขียนข้อความลงแผ่นกระดาษว่า เน่า คา ต้น, นายก "ตู่" ช่วยด้วย, ผู้ว่าอยู่ไหน, ปักเอาไว้ที่กองสับปะรด เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาสับปะรดที่ราคากำลังตกต่ำและขายไม่ได้ราคา และมีการนำสับปะรดที่เน่าราดด้วยน้ำมันเบนซินใส่กองผลไม้แล้วจุดไฟเผาทันที เพื่อเป็นการประชดราคาสับปะรดที่ตกต่ำตามที่ได้นำเสนอข่าวไปนั้น
นายสอน นามสมมุติ อาชีพรับราชการและปลูกสับปะรดในพื้นที่ตำบลห้วยมุ่น กล่าวว่า ปลูกสับปะรดเพียง 15 ไร่ เป็นชนิดรับประทานทั้งหมด หลังจากข่าวเผาสับปะรดออกไปตามสื่อทีวี สื่อหนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์และสื่อของสำนักข่าวทีนิวส์ ทำให้นางสมพล เจ้าของสวนที่นำสับปะรดมากองและเขียนป้ายเรียกร้องให้ "ลุงตู่" นายกรัฐมนตรี ช่วยเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหา ถามหาผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์อยู่ไหน รวมถึงนางโสด พิพม์อูป คนที่จุดไฟเผาสับปะรด ถูกต่อว่าต่อขานจากกลุ่มผู้รับซื้อสับปะรดในพื้นที่ราคาถูก ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง จากกลุ่มของนายก อบต.ห้วยมุ่น จนทำให้นางสมพลรู้สึกเสียใจและร้องไห้อยู่ทุกวันนี้ แทนที่จะขอบคุณมีส่วนทำให้หลายหน่วยงานเข้ามาช่วยซื้อจนราคาไม่ดึ่งต่ำไปกว่าที่เป็นอยู่
นายสอน กล่าวว่า ขอชมเชยต่อบุคคลทั้ง 3 ที่กล้าแสดงออกให้รัฐบาลมองเห็นความเดือดร้อนต่อปัญหาสับปะรดราคาตกต่ำปี 2559 สับปะรดส่งเข้าโรงงานราคาขั้นต่ำสุดอยู่ที่ 6 บาท/กิโลกรัม สูงสุดอยู่ที่12 บาท/กิโลกรัม, สับปะรดชนิดรับประทานสดราคาต่ำสุดอยู่ที่ 12 บาท/กิโลกรัม สูงสุดอยู่ที่ 15 บาท/กิโลกรัม, ในปีนี้ 2560 สับปะรดเข้าโรงงานราคาต่ำสุดอยู่ที่ 50 สตางค์/กิโลกรัม สูงสุดอยู่ที่ 2.70 บาท/กิโลกรัม, สับปะรดชนิดรับประทานสดต่ำสุดอยู่ที่ 2.50 บาท/กิโลกรัม สูงสุดอยู่ที่ 5 บาท/กิโลกรัม, ซึ่งเป็นราคาที่ห่างกันชนิดฟ้ากับดิน
" หากเปรียบเทียบกับราคาสับปะรดรับประทานสดที่แพงสุดในตอนนี้ ราคายังไม่เท่ากับที่รับซื้อเข้าโรงงานต่ำสุดของปีที่แล้วเลย ต้องยอมรับว่ามันแย่เอามาก ชาวสวนทนไม่ได้ จึงระบายความรู้สึกออกมาให้คนทั้งประเทศเห็น เพื่อฟ้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรู้และเข้ามาแก้ปัญหาให้ชาวสวนที่เดือดร้อน"
นายสอน กล่าวว่า ล่าสุดมีหลายหน่วยงานได้ลงพื้นที่เข้ามาซื้อสับปะรดถึงมือชาวสวน สร้างความดีใจให้กับชาวสวนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทหารในสังกัดมณฑลทหารบกที่ 35 จังหวัดอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ตำบลห้วยมุ่นตรวจสอบและฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวน หลังเกิดเหตุการณ์เผาสับปะรดขึ้นมา พร้อมแจ้งว่า พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นห่วงเป็นใยชาวสวน ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรรณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในนามของรัฐบาลให้นำรถบรรทุก จำนวน 6 คัน ขึ้นมาช่วยซื้อสับปะรดชาวสวน จำนวน 17 ตัน ในวันพรุ้งนี้, ธกส.จังหวัดมีคำสั่งให้ ธกส.สาขาอำเภอน้ำปาด เข้าช่วยซื้อสับปะรดของสมาชิกรายละ 1 ตัน, อบจ.อุตรดิตถ์ ช่วยซื้ออีก 20 ตัน รวมถึงอีกหลายหน่วยงานที่จะเข้ามาช่วยซื้ออีกกว่า 100 ตัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขอขอบคุณแทนชาวสวนทุกคนด้วย
นายสอน กล่าวว่า ได้ชมคลิปวิดีโอถ่ายสดผ่านเฟสบุ๊คเห็น นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เห็นผู้ว่าขายสับปะรดให้หัวหน้าส่วนราชการ ทั้งแต่งและร้องเพลงสับปะรดอร่อยที่สุดในสามโลก ในชุดม่อฮ่อมสีน้ำเงิน เต้นและร้องเพลงไปด้วย ดีใจแทนชาวสวนที่สับปะรดกำลังได้รับการแก้ไขโดยพ่อเมือง หลังราคาสับปะรดตกต่ำสุดถึงกก. 50 สตางค์ ตั้งแต่ชาวห้วยมุ่นเริ่มปลูกสับปะรดมากว่า 10 ปี ชาวสวนทนไม่ไหวต้องออกมาเรียกร้องให้ "นายกตู่ ช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหา ถามหาผู้ว่าอยู่ไหน" ให้เข้ามาดูแลช่วยเหลือ พร้อมเผาสับปะรดประชดที่ราคาตกต่ำสุดขีด เหตุเกิดขึ้นเพราะอำเภอรับรู้และทราบว่าสับปะรดราคาไม่ดี แต่ก็ไม่คิดที่จะหาทางช่วยแก้ไขปัญหาให้กับชาวสวน หรือรายงานให้จังหวัดทราบ จนเป็นเหตุให้เกิดเผาสับปะรดขึ้นมา เรื่องที่เกิดขึ้นต้องตำหนิทางอำเภอซึ่งเป็นหน่วยงานใกล้ชิดชาวบ้านรู้ปัญหาก่อนแต่ไม่ทำอะไรเลย สุดท้ายก็ด่าชาวบ้านหาว่าปลูกมากจนราคาตก สรุปชาวบ้านผิดตามเคย กรรมของชาวสวนโดยแท้
" การจัดหาตลาดอยากให้หาช่องทางเพิ่มโดยเฉพาะการตั้งเต้นขายสับปะรดในปั้มน้ำมัน ปตท.ทั้ง 3 แห่ง ขาก่อนเข้าและออกตัวเมืองอุตรดิตถ์ รวมถึงตั้งเต้นขายริมถนนสายเอเซีย ซึ่งเป็นเส้นหลักทางผ่านของนักท่องเที่ยวทั้งลาขึ้นและขาล่อง ดีกว่าไปกระจุกขายอยู่แต่เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์อย่างเดียว จังหวัดดีแต่คุยเรื่องประชาสัมพันธ์ว่ามีขายในปั้นน้ำมัน ปตท.แต่ไม่ทำ "
นายถวิล อินดวง รองนายก อบต.ห้วยมุ่น กล่าวว่า ปลายเดือนนี้ถึงเดือนสิ้นกรกฏาคมหน้า ผลผลิตจะออกสู่ตลาดอีกประมาณกว่า 60,000 ตัน หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล สับปะรดจะต้องถูกทิ้งเน่าเสียคาต้นเหมือนที่ผ่านมา เพราะกำลังซื้อของคนในจังหวัดและตลาดที่รองรับอยู่มีไม่เพียงพอกับผลผลิตที่ออก ยังไม่เห็นหน่วยงานจากส่วนกลางโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ลงมาแก้ปัญหาด้วยตนเองให้กับผู้ชาวสวนที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้เลย หาก พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี นำมาตรการแก้ไขปัญหาสับปะรดที่ตกต่ำตอนนี้ ด้วยการพยุงราคาโดยรัฐบาลเข้ามาซื้อผลผลิตจากชาวสวนโดยตรงนับเป็นเรื่องดีกับชาวสวน
ด้าน น.ส.กิ่งทอง ทิมา ผู้รับซื้อสับปะรดชาวสวนห้วยมุ่น กล่าวเปิดเผยสดผ่านทางเฟสบุ๊ค อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมงว่า สับปะรดที่ตกเป็นข่าวราคากิโลกรัมละ 50 สตางค์นั้นเป็นจริง แต่เป็นสับปะรดขนาดเล็กไซด์กอล์ฟและเหลืองทั้งลูกราคา 50 สตางค์ ผู้ซื้อรับซื้อเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวน ราคาสับปะรดขายกันตามเกรด A B C และ D ราคา 50 สตางค์คือ เกรด D
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เว็บไซด์ของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลมีการนำเสนอข่าวด้วยข้อเท็จจริงบางส่วนที่เป็นเท็จ โดยนำเสนอว่า " สามารถพยุงราคาสินค้าได้ที่กิโลกรัมละ 4-10 บาทตามเกรด แต่ที่ผ่านมามีข่าวว่าราคาสับปะรดตกต่ำอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 สตางค์ ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้มีการฉวยโอกาสกดราคา สร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรอย่างมาก" ทั้งที่ความจริงแล้ว การพยุงราคาจะต้องดำเนินการโดยรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลก็ยังไม่ได้ประกาศพยุงราคาออกมาในตอนนี้ และราคากิโลกรัมละ 4-10 บาท ก็ไม่ตรงกับราคาซื้อจริงในสวน ซึ่งรับซื้อสูงสุดแค่ 5 บาท/กิโลกรัม, การนำเสนอข่าวว่าสับปะรดตกต่ำอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 สตางค์ ไม่เป็นจริงนั้น ทั้งที่ความจริงโดยเฉพาะสับปะรดซื้อเข้าโรงงาน ปีที่ผ่านมาราคาต่ำสุดอยู่ที่ 6 บาท/กิโลกรัม ปีนี้ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 50 สตางค์/กิโลกรัม ณ ปัจจุบันตอนนี้ที่ตำบลห้วยมุ่น ราคาสับปะรดซื้อเข้าโรงงานก็ยังราคาต่ำสุด 50 สตางค์/กิโลกรัม ยังคงมีซื้อขายกันอยู่ เป็นการนำเสนอข่าวโดยเจ้าหน้าที่ของกรมประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนำเสนอข่าวอันเป็นเท็จของสื่อกรมประชาสัมพันธ์ ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาล ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงการสื่อมวลชนจังหวัดอุตรดิตถ์และบุคคลทั่วไปรวมถึงชาวสวนสับปะรดว่า มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลที่เป็นจริงให้ประชาชนทั้งประเทศเข้าใจผิดว่า ชาวสวนที่ออกมาเผาสับปะรด และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี เข้ามาแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำถึง 50 สตางค์นั้นไม่เป็นความจริง รวมถึงสื่อที่นำเสนอออกไปก่อนนั้น ทั้งสื่อทีวีและสื่ออนไลน์เป็นเท็จ เพื่อเอาใจจังหวัดแบบสุดโดต่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทั้งที่สื่อของรัฐบาลนำเสนอข่าวอันเป็นเท็จสู่สายตาประชาชน สร้างความสับสนอย่างมากให้ชาวสวนและผู้ที่ติดตามข่าวราคาสับปะรดตกต่ำ เรื่องดังกล่าวเป็นการส่อเจตนาสร้างข่าวเท็จบิดเบือนความจริง ให้ร้ายผู้อื่นอย่างร้ายแรง พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ พยายามทำตัวเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกับผู้บริหารระดับสูงของจังหวัด ด้วยการเขียนข่าวเท็จให้เป็นจริงหรือผิดให้เป็นถูกตามใบสั่ง เพื่อโต้ข่าวเผาสับปะรดราคาตกต่ำ 50 สตางค์ จากจริงให้เป็นเท็จ เพื่อเอาใจผู้บริหารระดับของของจังหวัด นับเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณในบทบาทหน้าที่ของสื่อ ต่อการนำเสนอข่าวสารให้ประชาชนรับรู้ อยากเรียกร้องให้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รักษาราชการในตำแหน่ง อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยกับเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ ที่นำเสนอข่าวเท็จข่าวไม่ตรงความจริง ออกมาสู่สายตาประชาชน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับข้าราชการในกรมประชาสัมพันธ์รายอื่นต่อไป
ภาพ/ข่าว สมภพ สินพิพัฒนฤดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.อุตรดิตถ์