วอนช่วยด่วน!! อปท.พานตบเท้าบุกศาลากลาง ร้องขอยกฐานะโรงพยาบาล รองรับด้านบริการชุมชนอย่างเข้าถึง (มีคลิป)

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2560   ที่ห้องธรรมลังกาศาลากลาง จ.เชียงราย นายยศวัฒน์ ปิติภูวพิพัฒน์ ประธานชมรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อ.พาน จ.เชียงราย นายธานี นามะณีวรรณื ประธานชมรมกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน อ.พาน ได้พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้บริหาร อปท.ในพื้นที่ อ.พาน ประมาณ 100 คน ได้พากันเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายณรงศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เพื่อขอให้ทางจังหวัดผลักดันให้กระทรวงสาธารณสุขได้ยกฐานะโรงพยาบาลพานซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำ อ.พาน ขึ้นเป็นโรงพยาบาลทั่วไป  โดยนายธานี กล่าวว่าพื้นที่ อ.พาน มีจำนวน 15 ตำบล 234 หมู่บ้าน ประชากร 120,000 คนจากทั้งหมด 16,700 ครัวเรือน ทำให้ประชาชนมีความต้องการใช้บริการสถานรักษาพยาบาลมากขึ้นและด้วยสภาพของโรงพยาบาลที่มีอยู่ในปัจจุบันที่มีขนาด 120 เตียงทำให้แออัดอย่างหนัก แต่หากยกฐานะจะทำให้มีเตียงรักษาเพิ่มขึ้นเป็น180-200 เตียงทำให้ปัญหาเบาลงได้

ต่อมาผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มอบหมายให้นายสัมฤทธิ์ สวามิภักดิ์ ปลัด จ.เชียงราย นายแพทย์สุรินทร์ สุมนาพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย เข้ารับเรื่องจากกลุ่มผู้เรียกร้อง ซึ่งนายแพทย์สุรินทร์ กล่าวว่าตามปกติโรงพยาบาลจะถูกแบ่งเป็น 7 รูปแบบคือระดับเอโรงพยาบาลศูนย์ ระดับเอสคือโรงพยาบาลทั่วไป ระดับเอ็ม 1 คือโรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ ระดับเอ็ม 2 คือโรงพยาบาลที่มีศักยภาพเพียงพอจะเป็นเอ็ม 1 ระดับเอฟ 1 คือโรงพยาบาลชุมชนสำหรับโรงพยาบาลพานเป็นระดับนี้ และยังมีระดับเอฟ 2 และเอฟ 3 ตามลำดับ ซึ่งด้วยสภาพปัจจุบันก็เห็นว่าควรยกฐานะโรงพยาบาลพานพราะสภาพเหมาะสมตั้งอยู่ห่าง อ.เมือง ประมาณ 50 กิโลเมตร ปัจจุบันมีแพทย์ทั่วไปประจำอยู่จำนวน 18 คน แต่พบว่าไม่มีแพทย์เฉพาะทางเพียงพอจึงไม่สามารถยกฐานะเป็นโรงพยาบาลทั่วไปได้ เพราะมีเกณฑ์ว่าต้องมีแพทย์เฉพาะทาง 6 สาขาคืออายุรกรรม ศัลยกรรม สูตินรีเวชกรรม กุมารเวชกรรม วิสัญญีกรรม และศัลยกรรมกระดูก

น.พ.สุรินทร์ กล่าวด้วยว่าเรื่องงบประมาณเพื่อการสร้างอาคารและเครื่องมืออุปกรณ์นั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือยังไม่มีแพทย์เฉพาะทางรองรับเพียงพอ ปัจจุบันเราจึงส่งแพทย์ไปเรียนต่อในสาขาสูตินารีเวชจำนวน 1 คน กุมารเวชกรรมจำนวน 2 คนและศัลยแพทย์จำนวน 1 คน ซึ่งจะทะยอยจบมาทำงานให้ในปี 2561-2562 ตามลำดับ เพราะหากมีอาคาร อุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ แล้วไม่มีคนใช้แล้วนำผู้ป่วยไปนอนรักษาก็จะเกิดความเสียหายได้ อย่างไรก็ตามเมื่อมีการเรียกร้องตนก็จะนำไปข้อเรียกร้องไปเสนอผู้บริหารเพื่อผลักดันอีกครั้งต่อไป

ด้านนายสัมฤทธิ์ กล่าวว่าการยกฐานะจากระดับเอฟ 1 ขึ้นไปเป็นเอสหรือโรงพยาบาลทั่วไปเป็นการยกข้ามระดับจึงขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจในการดำเนินการตามขั้นตอนด้วย และเมื่อมองในภาพรวมแล้วเรื่องนี้ยังมีเงื่อนไขอื่นๆ อีกนอกเหนือไปจากเรื่องงบประมาณ การบริหารจัดการ ฯลฯ แต่คือเรื่องแพทย์เฉพาะทางที่เพราะส่วนใหญ่จบมาแล้วมักไปหาความก้าวหน้าในโรงพยาบาลใหญ่ๆ ส่วนคนที่ส่งไปศึกษาเมื่อกลับมาแล้วก็มีสิทธิ์จะใช้หนี้ค่าเรียนหรือลาออกไปทำงานที่อื่นได้หรือแม้แต่เมื่อทำงานใช้หนี้รัฐหมดก็ยังย้ายออกไปได้เช่นกัน ปัญหาจึงต้องค่อยแก้ไขกันไป

ข่าว/ภาพ เหรียญชัย จันทร์สุภาเสน   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.เชียงราย