ปทุมธานี น้องจูน รปภ.พาร์ทไทม์เน็ตไดดอลตัวจริง ขอบคุณที่มีผู้ติดตามชื่นชมจำนวนมากเป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชน(ชมคลิป)

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 มิ.ย.60 หลังกระแสข่าวชื่นชม น้องจูน รปภ.พาร์ทไทม์ แม้ครอบครัวจะมีฐานะ นางสาววัลย์ลดา กันตพลจรัณธร อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ชั้นปีที่สาม ที่ตัดสินใจใช้เวลาช่วงปิดเทอม มาทำงานพิเศษเป็น รปภ. ที่ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค แอนด์ สเปลล์ รังสิต ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เป็นที่ชื่นชอบและชื่นชอบเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชน กลายเป็นเน็ตไดดอลคนใหม่เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น ซึ่งสามารถติดตามน้องจูนที่เฟสบุ๊คชื่อ june wanladar ขณะนี้มีผู้เข้ามาติดตามในเฟสบุ๊คจำนวน 5,300 คนแล้ว

ด้านนางสาววัลย์ลดา กันตพลจรัณธร หรือน้องจูน กล่าวว่า ตั้งแต่มีข่าวออกไป หนูอยากขอบคุณทุกคนที่ชื่นชมและให้กำลังใจในตัวหนู และยังรู้สึกเกร็งๆที่มีมีผู้ให้ความสนใจ ซึ่งก่อนที่จะมีกระแสข่าวดังกล่าว หนูก็ทำงานปกติเหมือนคนเท่าไป พอได้ไปออกรายงานทีวีต่างๆ มีข่าวในสื่อออนไลน์นำเสนอ ก็ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น บางครั้งจะทำอะไรก็ไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง เหมือนถูกมองอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ยังเกร็งๆบ้าง

   ในส่วนของเพื่อนๆก็แซวว่าเป็นไง ดังแล้วนะ และดีใจไปกับเราด้วย ด้านอาจารย์ได้โทรเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง เรื่องการให้สัมภาษณ์การดูแลตัวเอง การทำงานและการถูกนำเสนอข่าว ห่วงว่าเราจะเหนื่อยหรือไม่ ด้านคุณพ่อคุณแม่รู้สึกดีใจ ที่หนูทำดีแล้วมีคนเห็น และท่านภูมิใจในตัวหนู

   ด้านการเรียนที่ผ่านมาก็ตั้งใจเรียน เมื่อมีวิชาเรียนก็จะเข้าตรงตามเวลาตลอดร่วมถึงการส่งงาน เมื่อสอบก็ต้องอ่านหนังสือสอบล่วงหน้า 2 ถึง 3 อาทิตย์เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนสอบ การทำงานพาร์ทไทม์นั้นหนูจะทำเฉพาะเวลาปิดเทอมเท่านั้น เนื่องจากมีเวลามาก และเป็นการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์เป็นการเรียนรู้ชีวิตและหาประสบการณ์จากการทำงาน ได้พบปะผู้คนได้เพื่อนใหม่ๆ ซึ่งเมื่อถึงเวลาเปิดเทอมหนูก็จะตั้งใจและมุ่งมั่นกับเรื่องการเรียนอย่างเดียวเลย

    ฝากถึงเยาวชนหรือรุ่นเดียวกัน เมื่อเรามีเวลาว่างหรือเราไม่รู้จะเอาเวลาว่างไปทำอะไร ก็อยากให้น้องๆหรือเพื่อนๆเอาเวลาเหล่านั้นไปทำสิ่งที่เกิดประโยชน์ อาจจะทำงานพาร์ทไทม์ ทำในสิ่งที่เรารักหรือทำในสิ่งที่เราชอบ หรือแม้แต่ทำในสิ่งที่เราฝันอยากจะทำมาตั้งนานแล้ว ไม่อยากให้ปล่อยเวลาทิ้งไป เพราะว่าวันหนึ่ง หากเราย้อนกลับมาเราจะรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำเต็มที่กับในช่วงเวลานั้นๆ

    ส่วนกระแสข่าวที่เกิดขึ้นตอนนี้ หนูคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ดังแล้วก็ดับไป เป็นแบบนี้ หนูเข้าใจดีที่เป็นแบบนี้ ซึ่งอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าข่าวหรือข้อมูลในสื่อออนไลน์ โซเชียลเน็ตเวิร์ค มีทั้งด้านดีและไม่ดี ขอให้ทุกคนเลือกเสพข่าว รวมถึงใช้ความคิดวิเคราะห์สักหน่อย เนื่องจากสมัยนี้กระแสมาไวและไปเร็ว

ในอนาคตหนูได้ว่างแผนไว้หลังจากที่เรียนจบคือ อยากทำงานเป็นโบรกเกอร์ เก็บเงินเพื่อที่จะไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการบริหารที่ประเทศฟินแลนด์ เนื่องจากเคยอ่านและศึกษาข้อมูลในประเทศต่างๆทราบว่าประเทศฟินแลนด์นั้นสนับสนุนด้านการศึกษาเป็นอย่างมาก.

 

ภาพ/ข่าว  ธัชนนท์ พิริยะกุลชัย   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.ปทุมธานี