แลนด์มาร์คปลาบึก!! เชียงรายทุ่ม 280 ล้าน เนรมิตริมฝั่งแม่น้ำโขงผุด 8 โครงการยักษ์ท่องเที่ยว-วัฒนธรรมรับอาเซียน (มีคลิป)

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ จ.เชียงราย พร้อมด้วย นางสาวอรทัย ฮงประยูร นายกเทศมนตรีตำบลเวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย นายพิชัย อินโน ผู้ใหญ่บ้านบ้านหัวเวียง ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียราย นายธันวา เหลี่ยมพันธุ์ ประธานสภาวัฒนธรรม อ.เชียงของ จ.เชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาครัฐและเอกชน ลงพื้นที่การเตรียมการสร้างแลนด์มาร์คเชียงของ บริเวณพื้นที่ดินสาธารณะ 19ไร่ ที่บ้านหัวเวียง ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือบั๊ค  

 

ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าว ทางเทศบาลตำบลเวียง อ.เชียงของ จะมีการดำเนินการสร้างแลนด์มาร์คของอำเภอเชียงของ ทั้งเป็นจุดจำหน่ายสินค้าชายแดน ตลาดนัดชายแดน และสำคัญคือ การสร้างปลาบึกเรืองแสงขนาดใหญ่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาท่องเที่ยวชมความสวยงามริมแม่น้ำโขงในจุดดังกล่าว  นอกจากนี้ใกล้กันนั้นยังจะมีการสร้างปรับปรุงท่าเรือบั๊คให้ได้มาตราฐานและสวยงาม โดยมีสะพานเชื่อมต่อหากัน ระหว่างท่าเรือบั๊คและพื้นที่แลนด์มาร์คเชียงของ เพราะจะเป็นเส้นทางเชื่อมในการปั่นจักรยานริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยทั้งหมดของโครงการนั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี2561 โดยเฉพาะแลนด์มาร์คเชียงของ

นายทัศนนัย  กล่าวว่า อำเภอเชียงของ ได้รับงบประมาณจากโครงการภายใต้แนวทางการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีทั้งสิ้นใน8โครงการ รวมมูลค่า 280ล้านบาท จากทางรัฐบาลให้มีการดำเนินการพัฒนาเมืองสู่การท่องเที่ยว การค้าขายที่ยั่งยืนตลอดไป  โดย8โครงการย่อยประกอบด้วย 1.โครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานเลียบแม่น้ำโขงบ้านหัวเวียงหมู่ที่หนึ่งตำบลเวียงอำเภอเชียงของจังหวัดเชียงรายเมื่อประมาณ 14,160,000 บาท2.โครงการสร้างถนนปั่นจักรยานสายทางเลียบแม่น้ำโขงบ้านโจ้โก้อำเภอเชียงของงบประมาณ 12,306,000 บาท 3.โครงการก่อสร้างศูนย์วัฒนธรรมไปหรืออำเภอเชียงของงบประมาณ 9,121,500 บาท 

4.โครงการศูนย์แสดงสินค้าวัฒนธรรมไทยฤหัสใต้อำเภอเชียงของงบประมาณ 6,016,000 บาท5.โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและสุขภาพห้วยน้ำช้างเพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืนอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำช้างบ้านแฟนหมู่ห้าตำบลสถานอำเภอเชียงของมาประมาณ 13,800,000 บาท 6.โครงการพัฒนาตลาดการค้าชายแดนไทยลาวเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวการค้าการลงทุนและโลจิสติกส์ เชื่อมโยงกับต่างประเทศเมื่อประมาณ 7,554,000 บาท7.โครงการปรับปรุงท่าเรือบั๊ก ประมาณ45,000,000ล้านบาท และ8.โครงการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งเพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจอำเภอเชียงของ

นายอำเภอเชียงของ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่าเรือบั๊คเป็นจุดผ่านแดนซึ่ง เป็นจุดผ่านแดนทางเรือ เพียงจุดเดียวของอำเภอเชียงของ ซึ่งก่อนที่จะมีสะพานมิตรภาพ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวใช้ข้ามฝั่งไปยัง สปป.ลาว ไปยังเมืองห้วยทรายและหลวงพระบาง ปัจจุบันสภาพภูมิทัศน์ในจุดดังกล่าวถือว่าไม่สวย ประการสำคัญไม่สามารถอำนวยความสะดวกในเรื่องของการขนส่งทางเรือและการเข้าฝากไปมาได้สะดวกแถมยังไม่ได้มาตราฐาน  ทางรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงท่าเรือบั๊คผ่านยังโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย ซึ่งโดยหลักๆจะมีการปรับภูมิทัศน์เป็นชั้นของกันตลิ่งแม่น้ำโขง ที่มีความสวยงามและได้มาตรฐานในการจอดเรือข้ามฟาก เรือสินค้าและเรือท่องเที่ยวด้วย

“สวนสาธารณะที่สร้างแลนด์มาร์คเชียงของและการปรับปรุงท่าเรือบั๊กเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพัฒนาชายแดนเชียงของเท่านั้น ที่จริงแล้วอำเภอเชียงของถือว่าเป็นอำเภอที่โชคดี ในช่วงที่รัฐบาลมีนโยบาย สร้างเศรษฐกิจเข้มแข็ง งบประมาณเพิ่มเติม อำเภอเชียงของได้ ตรงบริเวณที่เป็นท่าเรือบั๊คจะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ และลานตลาดการค้าชายแดน ซึ่งเป็น แลนด์มาร์คอีกส่วนหนึ่งของอำเภอเชียงของ หรืออาจเรียกได้ว่าแลนด์มาร์คปลาบึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอเชียงของ ทั้งนี้จากข้อมูลมีการนำเสนอเรื่องของแลนด์มาร์คเชียงของ ปลาบึกจะเรืองแสงได้และมีขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าแลนด์มาร์คดังกล่าวซึ่งมีปลาบึกยักษ์จะสามารถเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาถ่ายรูปชมบรรยากาศหรือวิวริมแม่น้ำโขงได้ในจุดดังกล่าว นายทัศนนัย กล่าวและว่า”

 

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเชื่อมในการปั่นจักรยานริมฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่บ้านห้วยเม็ง จนถึงบ้านโจ้โก้  ซึ่งอาจเป็นเส้นทางปั่นจักรยานริมฝั่งแม่น้ำโขงที่ยาว อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย จากการประเมินคาดว่าถ้าหากโครงการนี้เสร็จต่อเนื่องกัน เสมือนจิ๊กซอ จะทำให้เชียงของเป็นเมืองที่น่าเที่ยว เพราะปัจจุบันมีคนมาเที่ยวเชียงราย 3 ล้านคน จึงเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเชียงของไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน นี่คือเป้าหมายของการพัฒนาเมืองชายแดนอย่างอำเภอเชียงของ ดังนั้นการดำเนินการดังกล่าวต้องการที่ให้เชียงของเป็นเมืองแวะที่ไม่ใช่เมืองผ่านอีกต่อไป เพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจะผ่านอำเภอเชียงของไปยังหลวงพระบางแต่ถ้าหากโครงการเสร็จสิ้นลงทั้ง 8โครงการโดยเฉพาะแลนด์มาร์คเชียงของจะทำให้จุดนี้เป็นเมืองแห่งการแวะท่องเที่ยวอย่างแน่นอน หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นเส้นทางสุดยอดจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่เชียงของ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทสประชาคมอาเซียน

นางสาวอรทัย กล่าวว่า  ถ้าหากแลนด์มาร์คเชียงของและท่าเรือบั๊กเสร็จสิ้นเชื่อว่าจุดนี้จะเผยโฉมของเมืองชายแดนและเมืองท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ซึ่งท่าเรือบั๊คถือว่าเป็นท่าเรือเก่าแก่ ของอำเภอเชียงของ ซึ่งมีอายุยืนยาวมากกว่าครึ่งศตวรรษ ซึ่งการปรับครั้งนี้จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยมีการปรับปรุงให้แลนด์มาร์คและท่าเรือมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการทั้งหมดจะมีการสอดคล้องกันในเรื่องของระเบียงริมโขง อีกจุดที่สำคัญไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวในอนาคตนั่นก็คือสะพานไม้ที่มีการเชื่อมต่อกันระหว่างท่าเรือบั๊กและแลนด์มาร์ค ซึ่งถือว่าจะมีความสวยงาม โดยแลนด์มาร์คเชียงของจะมีตลาดการค้าชายแดน มีถนนเลียบแม่น้ำโขง เดินทางไปยังบ้านห้วยเม็ง โดยเลียบแม่น้ำโขงด้วยการปั่นจักรยานหรือเดินออกกำลังกาย เพราะที่บ้านห้วยเม็งขึ้นชื่อในการปลูกผลไม้ที่หลากหลาย ดังนั้นในปี 2561 เป็นต้นไปจึงอยากให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาดูความเปลี่ยนแปลงของอำเภอเชียงของที่จะเปลี่ยนแปลงจากอดีตสู่ปัจจุบันทำให้สวยงามมากยิ่งขึ้น 

นายธันวา กล่าวว่า ที่เห็นเด่นชัดเลยก็คือ เรื่องของการท่องเที่ยวถ้าหากมีการสร้างแลนด์มาร์คเชียงของเกิดขึ้น เพราะขนาดนี้เชียงของถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองชายแดนแล้วก็จริง แต่ปัญหาที่เราประสบพบเจอมาก็คือ หลังจากทาง สปป.ลาวไม่รู้ญาตให้นักท่องเที่ยวที่ใช้พาสปอร์ตข้ามทางเรือ เดินทางข้ามที่ท่าเรือบั๊ค ทำให้นักท่องเที่ยวหายไป เพราะต้องไปข้ามบริเวณสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่4 แทน ถ้าหากมีการสร้างแลนด์มาร์ค อย่างน้อยน้อยเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทย เส้นทางการท่องเที่ยวก็จะมีเพิ่มขึ้น ก็จะมานอนและมาท่องเที่ยวเชียงของมากขึ้นเพราะจะได้ชมแลนด์มาร์คในสิ่งที่สวยงาม เพราะเส้นทางนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นเชียงแสน แม่สาย หรือเวียงแก่น ภูชี้ฟ้า และชาวอำเภอเชียงของหวังว่าโครงการดังกล่าวจะเกิดขึ้นโดยเร็ววันนี้ 

ซึ่งเชื่อว่าการสร้างแลนด์มาร์คเชียงของที่เป็นการพัฒนาเมืองชายแดนครั้งนี้จะทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทันตาเห็นอย่างแน่นอน หรืออาจเรียกได้ว่านักท่องเที่ยวมากเกินกว่า 100% ซึ่งที่กล้าพูดเพราะเชียงของมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่แล้วเพียงแต่ขาดบางสิ่งไปซึ่งบางสิ่งนั้นถูกเติมเต็มให้เกิดขึ้นในปี 2561 จากงบประมาณของทางรัฐบาลจึงเชื่อมั่นว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่ดีของชาวอำเภอเชียงของ

นายพิชัย กล่าวว่า ในพื้นที่ที่สร้างแลนด์มาร์คในอนาคต ในอดีตที่ผ่านมายังไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักเพราะถือว่ายังเป็นสวนการทำไร่ และหลังจากปี 2552 น้ำไม่ท่วมในจุดดังกล่าว ชาวบ้านจึงตัดสินใจว่าจะใช้พื้นที่ดังกล่าว มาทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอะไรสักอย่างหนึ่ง เพราะที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันมากในอำเภอเชียงของ แต่อำเภอเชียงของจะเสียในเรื่องของการไม่มีจุดเด่นสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองและสถานที่รวมตัวกันในจุดจุดเดียวดังนั้นชาวบ้านจึงมีความเห็นด้วยในการสร้างแลนด์มาร์คเชียงของให้เกิดขึ้นเพราะจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้นชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นและที่สำคัญก็คือการไปทำงานท้องถิ่นอื่นหรือทิ้งถิ่นฐานจะไม่เกิดขึ้น ชาวบ้านจะกลับมาพื้นที่เพื่อทำการค้าขายในช่วงของเศรษฐกิจที่มีการปรับตัวในพื้นที่ของชายแดนเชียงของในอนาคต

ข่าว/ภาพ เหรียญชัย จันทร์สุภาเสน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.เชียงราย