พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ผู้แทนพระองค์ มอบของขวัญครอบครัวฮีโร่ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ช่วยเด็กจมน้ำ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคม 2560 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายบุญเลิศ ฮายุกต์ อัยการจังหวัดตรัง เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญของขวัญพระราชทาน เสื้อคนดีที่เรายกย่อง กระดิ่ง พัด และเงินจำนวนหนึ่ง เยี่ยม นางจันทร์แสวง โสะหาบ อายุ 61 ปี ที่บ้านเลขที่ 88/3 หมู่ที่ 2 ตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง คุณแม่ซึ่งได้สูญเสีย นายขันติ โยธารักษ์ ลูกชายในวัย 19 ปี จากการทำความดีกระโดดน้ำลงไปช่วยชีวิตเด็กหญิงในหมู่บ้าน อายุ 16 ปี ที่จมน้ำขณะเล่นน้ำอยู่ในอ่างเก็บน้ำ หมู่ที่ 2 ควนตอ-พรุพลูเถื่อน ตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ซึ่งสามารถช่วยชีวิตเด็กหญิงได้ แต่ตนเองกลับถูกโคลนดูดจมหายลงไปและเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา

 

 

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงห่วงใยมารดาและครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่ต้องเสียขวัญกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมทั้งพระราชทานกำลังใจผ่านมาให้ครอบครัว  และจะยกย่องให้เป็นคนดีแห่งปี 60

หลังจากที่สูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป ปัจจุบันครอบครัวอยู่กันอย่างลำบากเนื่องจากผู้ที่หาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวได้เสียชีวิตลง ไม่มีบ้าน ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ต้องอาศัยที่ดินชาวบ้านสร้างกระต๊อบฝาบ้านผุ ๆ เก่า ๆโดยเพื่อนบ้านได้เอ็นดูให้การช่วยเหลือทั้งไฟฟ้าและน้ำกินและน้ำใช้ให้ตลอดมา                                                                                                        

  นางจันทร์แสวง โสะหาบ  มีลูกด้วยกันทั้งหมด 5 คน ชาย 3 หญิง 2 แต่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ต่อมาหลังจากคลอดนายขันติหรือน้องโน้ต นายวีระ โยธารักษ์ จากนั้นเพียงไม่กี่วัน ผู้เป็นพ่อก็ได้หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้กลายเป็นคนหายสาบสูญ ปัจจุบันเหลือลูก 2 คนชาย 1 คน อยู่ กทม. และลูกสาวปัจจุบันมีครอบครัวอาศัยอยู่กับสามี ที่ผ่าน นางจันทร์แสวง ไม่ได้รับการทำบัตรประชาชนจึงเสียสิทธิในการรับเงินผู้สูงอายุ แต่หลังจากนั้นล่าสุด นายทวี คงบัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาโยงใต้ทราบจึงได้ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ทำบัตรประชาชนให้ เพราะจะได้รับสิทธิในการรับเงินผู้สูงอายุ  เนื่องจากก่อนหน้านี้นางจันทร์แสวง เป็นคนนอกพื้นที่ไม่มีใครทราบข้อมูลและรายละเอียด  ทางด้านสุขภาพของนางจันทร์แสวงเป็นคนปากแหว่งเพดานโหว่ เท่ากับเป็นผู้พิการจึงมีสิทธิที่จะได้รับเงินผู้พิการ แต่ทางคุณธัญชนก พังค่า ผู้เป็นลูกสาว บอกว่า ทางโรงพยาบาลไม่ยืนยันความพิการเนื่องจากหากเย็บปากแหว่งติดกันได้ก็เท่ากับว่าเป็นคนปกติ

                ขณะที่นายทวี คงบัน  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาโยงใต้ กล่าวว่า สำหรับแนวทางช่วยเหลือขั้นตอนแรกได้ติดต่อประสานงานไปยังทางฝ่ายพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่าให้เข้ามาดูแลเยียวยาสภาพจิตใจของมารดาและญาติพี่น้อง และติดต่อไปยังอำเภอว่ามีหน่วยงานไหนบ้างที่จะช่วยได้บ้าง ในท้องถิ่น ท้องที่ทั้งหมด ตอนนี้มีการระดมทุนเพื่อที่จะช่วยเหลือ เพราะน้องคนนี้กับแม่ได้อาศัยอยู่ในที่ดินของเพื่อนบ้านโดยปลูกกระต๊อบไว้  เบื้องต้นได้เตรียมพูดคุยไว้ทราบว่า ทางร้านธวัชได้เก็บรวบรวมเงินของน้องเอาไว้เนื่องจากความประสงค์ของน้องที่จะซื้อที่ดินสร้างบ้านเป็นของตัวเองไว้อยู่กับแม่ และวันนี้ทางท้องถิ่นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามที่จะตั้งเป็นกองทุนเพื่อที่จะรวบรวมเงินบางส่วนเพื่อสบทบไปซื้อที่ดินให้กับมารดาของน้องขันติ ที่ผ่านมาฐานะทางครอบครัวลำบาก ต้องมาอาศัยอยู่กับพี่สาวพี่เขยในพื้นที่ แต่ตัวน้องต้องการความเป็นส่วนตัวจึงได้ไปขอที่อยู่อาศัยแล้วก็ปลูกกระต๊อบไว้ ถือว่าวันนี้น้องได้ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว ส่วนพี่สาวก็มีภาระในเรื่องครอบครัวของตนเองอยู่แล้ว ถือว่าเป็นครอบครัวที่ลำบากเพราะแม่ก็ชราไม่มีความสามารถในการทำงานหาเลี้ยงชีพได้ แม่มีความพิการบกพร่องทางร่างกายด้วย ส่วนตัวน้องเองมีความบกพร่องในเรื่องสติปัญญา น้องเรียนหนังสือไม่จบชั้นประถม 6 ซึ่งน้องไม่มีความสามารถเรียนหนังสือได้ แต่น้องเป็นคนที่มีจิตใจที่ดี ออกหางานทำ เพื่อหารายได้ประทังชีวิตตนเองและแม่

 

ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค ทีนิวส์ จังหวัดตรัง