- 26 ก.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
(26 ก.ค.) ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือนางแดง ทองหยู อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 6 ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ที่ถูกแมงมุมมีพิษร้ายแรง คาดว่าเป็นแมงมุมแม่ม่ายกัดบริเวณเอวเมื่อเดือนมกราคม 2560 จนพิษไหลเข้าระบบกระแสเลือดเกิดเป็นแผลพุพองไปทั่วร่าง ผิวหนังลอกหลุดเน่าเปื่อยจน ส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง จนไม่สามารถใส่เสื้อผ้าได้ เคลื่อนไหวร่างกายยากลำบาก ได้รับทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสนอนรอวันตาย แม้จะเข้ารับการรักษาที่ รพ.ท่าศาลา และ รพ.สงจลานครินทร์ หรือ มอ. แต่อาการทรุดหนักลงเรื่อย ๆ แพทย์ รพ.มอ.ระบุว่ากรณีของนางแดงในวงการแพทย์พบเพียง 1 ในล้านเท่านั้น หากจะรักษาให้หายต้องใช้เวลานานถึง 2-3 ปี และต้องใช้เงินหลายล้านบาท แต่เนื่องจากครอบครัวมีอาชีพกรีดยางพารารับจ้าง มีเงินเก็บประมาณ 2 แสนนำมาใช้จ่ายในการรักษานางแดง จนหมดเนื้อหมดตัว รวมทั้งลูก ๆ และญาติ ๆ ช่วยเหลือเงินมาอีกกว่า 2 แสนบาทก็นำมาใช้จ่ายจนหมด ไม่มีเงินเหลือในการรักษาต่อลมหายใจนางแดงอีกแล้ว นางแดง จึงแจ้งกับสามีและลูก ๆ พร้อมญาติ ๆ ว่า เมื่อหมดหนทางเยียวยารักษาตนก็ขอกลับมาตายที่บ้านจึงนำนางแดง เดินทางกลับจาก รพ.สงขลานครินทร์ มานอนพักรกวันตายที่บ้านอยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 6 ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
เมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านดังกล่าว พบนางแดง ผู้ป่วยรายนี้นอนอยู่บนเตียงภายในห้อง ๆ หนึ่ง โดยมีนายไชยพร ทองหยู อายุ 57 สามี น.ส.ชดาภรณ์ ทองหยู อายุ 36 ปี นางอมรทิพย์ กิจวิจิตร อายุ 34 ปี และ น.ส.สาวินี ทองหยู ลูก ๆ ของนางแดง พร้อมญาติพี่น้องจำนวนหนึ่งคอยปรนนิบัตรดูแลนางแดงอย่างใกล้ชิด แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากนางแดง มีแผลพุพองทั่วร่าง คล้ายถูกน้ำร้อนลวก ไม่เว้นใบหน้า ดวงตา โดยหลายจุดมีสภาพเน่าแฟะส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ ทำได้เพียงอ้าปากพูดเสียงแผ่วเบา และยกมือได้อย่างยากเย็น เป็นที่น่าเวทนาสงสารแก้ผู้พบเห็นยิ่งนัก
นายไชยพร ทองหยู สามีของนางแดง กล่าวว่า แม้ตนจะไม่เห็นตัวว่าสัตว์อะไรกัดนางแดง ภรรยา แต่เชื่อว่าเป็นแมงมุมมีพิษที่มีจำนวนมากในสวนยาง ส่วนจะเรียกว่า “แมงมุมแม่ม่าย”หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะไม่เห็นตัวและมืดมาก โดยตามปกติแมงมุมขนาดเล็กในสวนยางมีจำนวนมาก ตนไม่ทราบว่าชนิดไหนมีพิษร้ายแรง แต่ส่วนใหญ่แมงมุมเหล่านี้จะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก และคาดว่าในช่วงก่อนฝนตกตนและนางแดง ได้ถอดเสื้อนอกแขวนไว้ที่รถ จยย.แมงมุมอาจจะเข้าไปซ่อนในเสื้อของนางแดงก็ได้ เมื่อฝนตกวิ่งเข้าไปหลบในกระท่อมเพื่อนบ้านและนำเสื้อมาใส่ทำให้โดนแมงมุมกัดก็เป็นได้ ตนเห็นสภาพของนางแดง ภรรยาแล้วอดสงสารไม่ได้ ซึ่งตนหมดหนทางรักษานางแดง ภรรยาสุดที่รักแล้วจริง ๆ จึงอยากวจะวิงวอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญทั่วไปได้โปรดยื่นมือเข้าช่วยเยื้อชีวิตนางแดง ภรรยาตนด้วยเถิดตนจะไม่ลืมพระคุณเลย สามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่บัญชีตน ชื่อบัญชีนายไชยพร ทองหยู ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เลขบัญชี 720-227500-5 นายไชยพร กล่าว
น.ส.ชดาภรณ์ ทองหยู บุตรสาวคนโตของนางแดง กล่าวว่า นอกจากแผลผุพอง เน่าเปื่อยทั่วร่างของแม่ จนต้องนอนนิ่ง ๆ แทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้เพราะได้รับความเจ็บปวดเป็นอย่างมากแล้วแม่ยังมีแผลกดทับที่ตะโพกและแผ่นหลังเนื่องจากนอนที่เดียวนานเกินไป แม้แพทย์จะระบุว่ามีหนทางรักษาให้หายโดยต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี แต่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่ตนและครอบครัวรวมทั้งญาติ ๆ คงหมดหวังที่จะรักษาแม่ให้รอดชีวิตได้ เพราะไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนมารักษาแม่ ตามปกติตนและญาติ ๆก็ทำงานรับจ้างหาเช้ากินค่ำเท่านั้น เงินเก็บของพ่อแม่ ของตนและพี่ ๆ ร้อง ๆ ไม่เหลือแล้วจริง ๆ อยากวิงวอนแพทย์หรือใครก็ได้ที่มียาดีสามารถรักษาแม่ของตนให้หายได้โปรดยื่นมือเข้ามาช่วยแม่ของตนด้วยเถิด
“สิ่งที่ต้องการเร่งด่วนในขณะนี้คือเตียงคนไข้ หรือรถเข็ญที่สามารถปรับระดับได้ เพื่อให้แม่ได้ขยับเขยื้อนร่างกายได้สะดวกป้องกันไม่เกิดแผลกดทับมากไปกว่านี้ แม้แม่จะเน่าแฟะไปทั้งตัวแต่ตนจะพยายามทุกวิถีทางในการเยื้อชีวิตแม่ให้อยู่ในโลกใบนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้”น.ส.ชดาภรณ์ กล่าว
นางแดง ทองหยู กล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างยากเย็นและเสียงแผ่วเบาว่า เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนายไชยพร สามี ได้เดินทางไปรับจ้างกรีดยางพาราในท้องที่หมู่ 4 ต.หัวตะพาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช แต่เกิดฝนตกหนักจึงวิ่งเข้าไปหลบในกระท่อมของเพื่อนบ้าน ต่อมาเพื่อนบ้านได้นำผ่าห่มมาให้เพราะอากาศหนาวเย็นมาก ตนพร้อมสามีและเพื่อนบ้านที่รับจ้างกรีดยางอีกคนหนึ่ง จนเอนตัวลงนอนพักและรู้สึกเหมือนโดนสัตว์อะไรสักอย่างกัดบริเวณเอวด้านขาว รู้สึกเจ็บจี๊ดเข้าหัวใจก่อนจะค่อย ๆ ทุเลาลงแต่เกิดเป็นตุ่มพุพองเล็กน้อยบริเวณรอยกัด โดยหากเป็นแมงมุมกัดมันอาจจะเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในเสื้อของตนที่แขวนไว้ที่รถ จยย.ก่อนฝนตก หรืออาจจะซ่อนอยู่ในผ้าห่มที่เพื่อนบ้านเจ้าของกระท่อมนำมาให้ก็ได้ จนกระทั้งรุ่งเช้าตนจึงไปหาแพทย์ที่คลินิกในตัวอำเภอท่าศาลา แพทย์ระบุว่าน่าจะโดนแมงมุมมีพิษกัด จึงให้ยาแก้ปวด แก้อักเสบกลับมารับประทานที่บ้าน แต่กลับมีแผลพุงพอง มีอาการแสบร้อนที่บาดแผลเพิ่มมากขึ้น จึงไปพบแพทย์ที่คลินิกอีกครั้งก็ได้ยามารับประทานอาการดีขึ้นเล็กน้อย แต่ 2-3 วันอาหารก็กลับมารุนแรงอีกครั้ง จึงเข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ.ท่าศาลา แพทย์ระบุว่าแพ้ผงซักฟองพร้อมจัดยากิน ยาทามาให้ เมื่อแพทย์ระบุว่าแพ้ผงซักฟองสามีชะล่าใจนำตนเข้ารักษาตามคลินิกอย่างต่อเนื่องถึง 13 แห่ง จนเมื่ออาการทรุดหนักลงไปเรื่อย ๆ จึงเข้ารับการรักษาที่ รพ.ท่าศาลา ระหว่างวันที่ 10-28 มี.ค. 2560 แต่อาการมีแต่ทรงกับทรุด จึงตัดสินใจเดินทางไป รพ.สงขลานครินทร์ หรือ มอ.สงขลา แพทย์ไดทำการตรวจวินิจฉัยก่อนระบุว่าตนถูกแมงมุมมีพิษกัด พิษของแมงมุมได้เข้าไปทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกายจนร่างกายไม่สามารถต้านทานพิษร้ายของแมงมุมได้
“ แพทย์บอกว่าตนเป็น โรคเพมฟิกัส ( pemphigus vulgaris) ซึ่งเกิดจากพิษแมงมุม 1 ในล้านคนเท่านั้นที่จะเป็นในลักษณะนี้ การรักษาพยาบาลให้หายเป็นปกติทำได้ยากมากต้องใช้เวลารักษา 2-3 ปีที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการรักษาพยายามสูงหลายล้านบาท ซึ่งสามีและลูก ๆ พยายามนำตนมา รพ. มอ. 4 เที่ยว จนเงินเก็บในครอบครัวพร้อมเงินที่ลูก ๆ และญาติ ๆ ช่วยเหลือรวมกว่า 4 แสนบาทหมดไปโดยปริยาย ตนคิดว่าถึงอย่างไรก็ต้องตายจึงขอให้สามีและลูก ๆ พาออกจาก รพ.มอ. กลับมาบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ก.ค.) ตนขอมาตายที่บ้านดีกว่า นางแดงกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาอย่างน่าสงสารและหมดหวังในชีวิต”
ภาพ/ข่าว นวรัตน์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช