- 31 ก.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 31 ก.ค. 2560 พ.ต.อ.เชิดชัย โชติสุทธิ์ ผกก.สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เสียหลักแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มขวางถนน 14 ต้น บนทางหลวงสายนครศรีธรรมราช-สุราษฏร์ธานี ช่วงบ้านในถุ้ง หมู่ 5 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจและสมาคมหน่วยกู้ภัยท่าศาลารีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
โดยพบว่าจุดเส้นทางบริเวณดังกล่าวไฟดับจนมืดมิด ในขณะที่เสาไฟฟ้าฝังขาเข้าเมืองนครศรีธรรมราช ล้มขวางถนนมากถึง 14 ต้นเป็นระยะทางยาวสายไฟฟ้าหลายกิโลเมตร ทั้งเสาไฟและสายไฟฟ้าขวางถนนเต็มไปหมด เจ้าหน้าต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากอาจจะมีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยทางการไฟฟ้าได้ตัดกระแสไฟฟ้าในช่วงดังกล่าว ทำให้ไฟฟ้าดับในหลายหมู่บ้านของ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา และปิดการจราจรในเส้นทางดังกล่าวไปโดยบริยาย เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าได้ระดมรถเครนและเครื่องจักรกลเข้ากู้สถานการณ์ต่อเนื่องหลายชั่วโมงยังไม่สามารถเปิดการจราจรเป็นปกติได้
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโตต้า 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กม-6910 อุดรธานี เสียหลักชนราวเหล็กกั้นริมถนนฝั่งขาเข้าเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนพุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูงจนหักโค่นขวางถนน ทำให้สายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลที่ยึดโยงไปยังเสาอื่น ๆ ดึงจนเสาไฟฟ้าโค่นล่มต่อ ๆ กันมาถึง 14 ต้นดังกล่าว ส่วนรถกระบะคันดังกล่าวด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน ในขณะที่คนขับรถมาคนเดียวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ช่วยปฐมพยาบาลคนขับรถกระบะ ส่วนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เร่งเคลียร์เสาไฟฟ้า สายไฟฟ้าในถนนฝังขาออก เพื่อเปิดการจราจรฝั่งขาออก 1 ช่องทาง ส่วนฝั่งขาเข้ายังเปิดการจราจรไม่ได้ แม้จะระดมกำลังเร่งเคลียร์เสาไฟฟ้า สายไฟฟ้าออกอย่างต่อเนื่องเกือบ 10 ชม.จนถึงเวลา 10.00 น.(31ก.ค.) สำหรับโค้งในถุ้งเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมาแล้วหลายร้อยราย จนชาวบ้านตั้งฉายาว่า “โค้งมรณะ 100 ศพ”.
ภาพ/ข่าว นวรัตน์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช
ขอบคุณภาพ/คลิป สมาคมกู้ภัยท่าศาลา-กู้ภัยประชาร่วมใจ