- 04 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 4 ส.ค. 60 พล.ต.สุพจน์ บูรณจารี ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ มณฑลทหารบกที่ 36 ได้รับมอบภารกิจจาก พลโท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้ลงพื้นที่ไปที่ ต.หนองปลาไหล อ.วังทรายพูน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาภาวะน้ำท่วม โดยไปดูที่เกิดเหตุประตูระบายน้ำที่บริเวณหมู่ 13 บ้านโพธิ์ทองเกิดแตกทำให้ปริมาณน้ำจำนวนมากที่รับมวลน้ำมาจากอ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก แล้วไหลมาตามคลองละมุบ้านสากเหล็ก-บ้านดินแดง-บ้านโพธิ์ทอง-บ้านท่ากระดาน ต.หนองปลาไหล น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่นาจำนวนหลายพันไร่ อีกทั้งพบสาเหตุว่าประตูน้ำที่ขวางคันคลองขนาดกว้าง 16 เมตร แต่มีประตูน้ำกว้างแค่ 4 เมตร จึงทำให้เกิดสภาพคอขวดน้ำไหลระบายไม่ทันจนเป็นเหตุน้ำท่วม
ซึ่งก็ได้พบกับ นายพิชิต แก้วทอง นายก อบต.หนองปลาไหล , นางจิตรพิมาน แก้วทอง “กำนันแหม่ม” กำนัน ต.หนองปลาไหล นำชาวบ้านเกือบ 40 คน มารายงานสภาพปัญหาและแนวทางแก้ปัญหา จากนั้น พลตรี สุพจน์ ผบ.กกล.มทบ.36 ได้เดินทางไปพบกับชาวบ้านลุ่มน้ำยมที่ ต.วังจิก ซึ่งพื้นที่นาในที่ลุ่มริมแม่น้ำยมฝั่งตะวันตกก็ถูกน้ำท่วมนาข้าวด้วยเช่นกัน แต่ได้รับการช่วยเหลือจาก สนง.ชลประทานที่ 3 –สนง.ชลประทานพิจิตร นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวนหลายเครื่องไปช่วยเร่งระดมสูบน้ำเพื่อให้ปริมาณน้ำลดลงพอแค่ได้เกี่ยวข้าว ซึ่งเหลืออีกไม่กี่วันข้าวก็จะแก่พอให้ได้เก็บเกี่ยวขายเอาทุนคืน การลงพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง ทางฝ่ายทหารได้ขอให้ชาวนา-ผู้นำชุมชน-ส่วนราชการ ขอให้จัดเวทีสรุปปัญหา-ต้นเหตุของปัญหา-แนวทางแก้ไข ที่สำคัญ จำเป็น เร่งด่วน คุ้มค่ากับเงินเงินงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชน เพื่อจะได้หาแนวทางคืนความสุขให้กับประชาชนตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไป
ในส่วนของ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ก็ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพิจิตรว่า ยังคงน่าเป็นห่วงเหตุจากน้ำจากภาคเหนือรวมถึงน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์และเทือกเขาวังทองที่ไหลเข้ามาในเขตพิจิตรขณะนี้ได้สั่งการให้ช่วยเร่งสูบน้ำออกจากทุ่งนาเพื่อให้ชาวนาได้เกี่ยวข้าวโดยขอให้เร่งเกี่ยวข้าวให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 15 ส.ค. 2560 นี้ เนื่องจากมีข้อมูลว่าในช่วงวันที่ 4 -5 ส.ค. 2560 ลักษณะอากาศทั่วไปโดยเฉพาะในเขตภาคเหนือ เชียงราย ลำปาง แพร่ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตรจะมีฝนตกเล็กน้อย-ปานกลางและมีฝนตกหนักบางพื้นที่มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40% ของพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้นาข้าวในที่ลุ่มต้องถูกน้ำท่วมจึงต้องให้เร่งเก็บเกี่ยวข้าวให้แล้วเสร็จก่อนที่จะกลายเป็นทุ่งรับน้ำโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำยม นอกจากนี้ยังได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติใน 8 อำเภอ 32 ตำบล 192 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 83,730 ไร่ บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 883 ครัวเรือน ถนน 56 สาย อนุมัติเงินทดรองจ่ายราชการอำเภอละ 500,000 บาท เพื่อช่วยเหลือราษฎรเป็นการเร่งด่วนแล้ว
สิทธิพจน์ เกบุ้ย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.พิจิตร