- 12 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 12 ส.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งมีสุดยอด “แม่” ที่เฝ้ารัก – ดูแลลูก แม้แม่คือนางคำผง ทองเล็ก อายุ 76 ปี เลขที่ 37 หมู่ 7 ต.เกาะลอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จะมีอายุมากถึง76ปีแล้ว สภาพตาข้างตาซ้ายขณะนี้บอดมองไม่เห็น บวกกับตาข้างขวา กลังอยู่ในภาวะฝ้าฟางตามวัยก็ตาม แต่หัวใจของความเป็นแม่ยังคงเฝ้า ทำหน้าที่รัก – ห่วงใย ปกป้อง - ดูแลลูกสาววัย 50 ปี ที่ล้มป่วยเส้นเลือดแตกในสมองกลายเป็นคนไข้ติดเตียงอยู่อย่างไม่มีวันเหนื่อย แทนที่ลูกจะเป็นฝ่ายดูแล “แม่” จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ
แยกจากถนนสายประจันตคาม – ศรีมหาโพธิ เข้ามาเกือบ 200 เมตรเศษ ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนวัดบ้านหอย เป็นบ้านปูนชั้นเดียว เป็นห้องโถงเดี่ยว พบความรักของแม่ คือคุณยายคำผง ผู้ทำหน้าที่ “แม่” ตลอดชีวิต ที่ต้องทนเลี้ยงดูลูกสาวนางวัญเพ็ญ ทองเล็กอายุ 56 ปี ที่ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเอง – พูดไม่ได้ อยู่ไม่ห่าง ทั้งให้อาหาร,ป้อนน้ำ,ข้าว,ทำความสะอาดร่างกายให้กับลูกสาวต่อเนื่องมาหลายปี
ยายคำผง กล่าวว่า “ทุกวันนี้ มีอาชีพรับจ้างสานรำแพนไม้ไผ่ และ อาศัยเงินจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ในการใช้ซื้อนมผง,ซื้อผ้าแพมเพิตไว้ให้ลูกสาวใช้ เดือนละ 70 แผ่น ซึ่งร้านค้า ขายในราคา ห่อละ 500 กว่าบาท ที่ตนต้องคอยเลี้ยงดูลูกสาวคนสุดท้องที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว ที่ป่วยเป็นคนไข้เส้นเลือดในสมองแตก เมื่อปลายปี 2556”
“โดยตนเอง มีลูกรวม 4 คน แต่ได้เสียชีวิตหมดแล้ว ส่วนด้านสามี ก็ได้เสียชีวิตนานแล้วเช่นกัน ซึ่งเหลือยังมีชีวิตเพียงนางวัญเพ็ญ ลูกสาวคนเล็ก ขณะนี้คนเดียว แต่หลังจากลูกสาวป่วยเป็นโรคเส้นสมองแตกแล้ว กลับมีอาการพูดไม่ได้ ร่างกายตอบสนองได้แต่เพียงยิ้ม และ ทางสายตากรอกไป – มา กับเคลื่อนไหวใช้มือเป็นภาษาใบ้เท่านั้น ร่างกายไม่สมารถเคลื่อนไหว หรือ ขยับช่วยเหลือตนเองไม่ได้เลย จนทุกวันนี้ ร่างกายผ่ายผอม ลูกสาวนางวัญเพ็ญต้องทนทุกข์ทรมานนอนป่วยติดเตียงอยู่กับที่กว่า 4 ปี ให้คอยดูแล”ยายคำผง กล่าวและกล่าวต่อไปว่า “สำหรับนางวัญเพ็ญนั้น ก่อนหน้ามีสามี แต่ได้กลายเป็นคนพิการขาด้วน เนื่องจากเกิดจากอุบัติเหตุ ส่วนนางวัญเพ็ญหลังป่วยเส้นเลือดแตกในสมองเคลื่อนไหวไม่ได้ เป็นคนไข้ติดเตียง ครอบครัวของนางวัญเพ็ญ จึงตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เนื่องจากมีลูกด้วยกันกับสามี ขาพิการ รวมถึง 3 คน บุตรคนโต เป็นผู้หญิงชื่อน้องกุ้งนาง น่าชม”
“เมื่อช่วงปี 2557 น้องกุ้งนาง ซึ่งเป็นหลานสาว ขณะที่มีอายุ 14 ปี ได้กลายเป็นเด็กยอดกตัญญู!!! ในพริบตา หลังจากมีสื่อมวลชน นำเสนอเรื่องราวของหลานสาวน้องกุ้งนาง กับพ่อขาด้วน และน้องๆขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปตามข้างทาง เพื่อเก็บหาของเก่าข้างทางมาขาย เพื่อเป็นการช่วยเหลือครอบครัว มีน้องกุ้งนางคอยดูแลแม่คือนางวันเพ็ญ ที่ป่วยนอนติดเตียงจากเส้นเลือดในสมองแตก โดยทุกวันต้องคอยหุงหาอาหาร ทำความสะอาดให้กับแม่ก่อนไปโรงเรียนและหลังเลิกเรียนแล้ว จนได้มีผู้ใจบุญบริจาคเงินสร้างบ้านปูนชั้นเดียวหลังที่นอนรักษาอาการดังกล่าวให้ และ นำเงินที่ได้รับบริจาคซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกให้”
แต่ภายหลังสร้างบ้านปูนหลังดังกล่าวนี้แล้วเสร็จ เมื่อปีที่ผ่านมา ตนเองได้คอยดูแล ในการให้อาหารทางสาย,ให้นม, อาบน้ำ ,เช็ดตัวทำความสะอาดให้กับนางวันเพ็ญตลอด ด้วยความห่วงใย ส่วนบุตรสาวนางวัญเพ็ญ คือน้องกุ้งนาง ก็ยังคงช่วยคอยดูแลในช่วงว่าง หลังจากการเล่าเรียนหนังสือเช่นเดิม แต่เนื่องจากปัจจุบัน น้องกุ้งนางใกล้จบชั้น ม.ปลายในขณะนี้แล้ว ตนจึงได้ทำหน้าที่ของแม่ เป็นผู้ดูแลลูกเองอย่างใกล้ชิดทุกวัน พร้อม ๆ กับการสานรำแพนไม้ไผ่ส่งขาย”ยายคำผง กล่าว
ด้าน น้องกุ้งนาง น่าชม กล่าวว่า “หลังจากกลายเป็นคนที่สังคมรู้จักทั่วประเทศ ได้มีผู้ที่บริจาคเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัว อย่างล้นหลามเมื่อมีเงินบริจาคเข้ามาในบัญชีนับล้านๆบาท แทนที่ครอบครัวจะสบายขึ้น แต่กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะว่าเงินที่ได้มา น้องกุ้งนางกับพ่อได้มีส่วนรับรู้บางส่วนเท่านั้นเนื่องจากมีผู้สื่อนักข่าวในพื้นที่ อ้างว่าเป็นกลุ่มสะพานบุญรับดำเนินการถือสมุดบัญชีไว้ไม่ยอมให้น้องกุ้งนางเบิกจ่ายเงินในบัญชี โดยอ้างว่าอายุยังไม่ครบ 18 ปี”
“ เมื่อทางน้องกุ้งนาง และยายคำผง ติดต่อสอบถามก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด บอก จะไปหาที่บ้านจะคุยเรื่องเงินฝากในบัญชี คนที่เป็นนักข่าวก็บอกไม่ว่างไม่อยู่บ้านและไม่คุยทางโทรศัพท์ด้วยนานแล้ว ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด สอบถามพ่อน้องกุ้งนางก็บอกไม่รู้เรื่อง แต่นักข่าวที่ชื่อ(ช)กับชื่อ(น)บอกว่าให้รอถึงอายุ18 ปีก่อนถึงจะมีสิทธิ์เบิกเงินมาใช้เป็นทุนการศึกษาได้ทางนี้ก็ได้แต่เชื่อตามที่บอก แต่จากความยากลำบากของแม่ที่นอนป่วยติดเตียง พ่อพิการขาด้วนหาเพียงของเก่าขาย จึงอยากได้บัญชีเงินฝากธนาคารที่นักข่าวคนดังกล่าวเก็บไว้ นำมาใช้จ่าย” น้องกุ้งนางกล่าว
และกล่าวต่อไปว่า “แม่คือนางวัญเพ็ญมีลูก 3 คน มีน้องกุ้งนาง น้องกาย และน้องก้อย น้องกุ้งนางเป็นคนโตต้องมาอยู่กับยายคำผงและดูแลแม่นางวัญเพ็ญที่บ้านยายคำผง ซึ่งที่ผ่านมานั้น พอได้เงินจากบัญชีอีกบัญชีหนึ่ง ที่นักข่าวเปิดบัญชีให้เป็นชื่อน้องกุ้งนาง และมีการเบิกเงินไปเป็นค่าทำขาเทียมร่วมแสนบาทแต่อยู่มาก็บอกว่าร้านขาเทียมปิดร้านหนีไปแล้ว คืนเงินให้มาสามหมื่นบาท ไม่มีเงินจึงได้โทรหานักข่าวคนนั้นคืนเงินอีกราวสามถึงสี่พันบาท จากนั้นก็ติดต่อยากมาก” น้องกุ้งนางกล่าวยืนยัน
และกล่าวต่อไปว่า “ส่วนอีกบัญชีหนึ่งเป็นบัญชีเงินฝากที่อยู่กับนักข่าวคนนั้น มีชื่อน้องกุ้งนางคนเดียวน้องกุ้งนางบอกว่าไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาถึงถือสมุดบัญชีนั้นไว้รอให้ถึงอายุ18ปี เวลานี้ยายกับน้องกุ้งนางถึงเวลาแล้วที่จะถามถึงสมุดเงินฝากที่อยู่กับนักข่าวคนนั้น เพื่อจะได้เอาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อยากับอาหารให้แม่ ไม่ต้องรอว่าเมื่อไหร่จะได้เงินจากสมุดเงินฝากเล่มนั้นมา แม้จะอ้างว่าเก็บไว้เป็ทุนการศึกษาของตัวเองกับน้องๆ แม้จะเงินส่วนนั้นจะหมดไปกับการซื้อนมซื้อของใช้ให้แม่ การเรียนของตัวเองและน้อง ๆจะไม่ได้เรียนสูงๆก็ไม่เสียใจ อยากให้แม่มีนมกิน ไม่ต้องเอาเงินเบี้ยยังชีพคนแก่มาใช้จ่ายตอนนี้อย่างทุกวันนี้ วิงวอนนักข่าวที่เอาสมุดบัญชีไป ให้เอามาคืนด้วย” น้องกุ้งนางกล่าว
สำหรับผู้ใจบุญสามารถบริจาคเงินช่วยเหลือยายคำผง ทองเล็ก ติดต่อสอบถาม ยายคำผงได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 087 321 4834 หรือน้องกุ้งนาง น่าชม 061 513 4094 หมายเลขบัญชีธนาคาร ธกส.สาขาประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เลขบัญชี 020 090 496842
***ภาพ - ข่าว มานิตย์ สนับบุญ / ทองสุข สิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.ปราจีนบุรี***