- 14 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.นาแก อ.วังยาง และ อ.เรณูนคร ที่ได้รับผลกระทบหนักจากปัญหาลำน้ำก่ำ ลำน้ำสาขาแม่น้ำโขง ที่รับน้ำมาจาก หนองหาร จ.สกลนคร เอ่อล้น ทะลักร่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือน มานานกว่า 20 วัน โดยเฉพาะพื้นที่ บ้านปากบัง และ บ้านพิมานท่า ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ได้รับผลกระทบหนักสุด เนื่อง จากเป็นพื้นที่จัดบรรจบของลำน้ำบัง มาบรรจบกับลำน้ำก่ำ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทำให้ระดับน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร เป็นเวลานานกว่า 20 วัน ล่าสุดระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ แต่มีปัญหาเรื่องพื้นที่นาข้าว ของเกษตรเกษตร ในพื้นที่ ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ได้รับความเสียหายเน่าตายเกือบ 5,000 ไร่ ไม่สามารถที่จะรอการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และไม่สามารถทำนารอบ 2 ได้ เนื่องจากมีปัญหาต้นทุน รวมถึง ฤดูฝนเริ่มหมด จะมีปัญหาเรื่องขาดแคลนน้ำในระยะยาว ต้องรอเพียงการพิจารณาดูแลช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม พบว่ามีพื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 40,000 ไร่
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องถนนสัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้าน ในพื้นที่ บ้านพิมานท่า เชื่อมไปยัง บ้านปาก บัง ต.นาแก อ.นาแก มุ่งหน้าสู่ ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก ถนนลูกรังเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ระยะทางประมาณเกือบ 5 กิโลเมตร หลังน้ำลดลง แต่ถนนได้รับความเสียหายเกือบทั้งสาย เป็นหลุมเป็นบ่อโคลน ขนาดใหญ่ รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ ผ่านได้เพียงรถจักรยาน และรถจักรยานยนต์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้เร่งสำรวจหาทางแก้ไข บรรเทาความเดอืดร้อน เร่งด่วน โดยทางชลประทานประตูน้ำก่ำตอนล่างที่ดูแลควบคุมน้ำก่อนลงสู่น้ำโขง ยังคงเร่งระบายน้ำวันละประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนน้ำหนองหาร และลำน้ำก่ำ ระดับน้ำลดต่อเนื่อง ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ เหลือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
โดยในส่วนของพื้นที่ จ.นครพนม จากการสรุปผลกระทบ หลังมีการประกาศ พื้นที่ ประสบภัยพิบัติ รวม 10 อำเภอ มีนาข้าวได้รับความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 2 แสนไร่ ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 20,612 ครัวเรือน รวม 62,561 คน มีถนนสัญจรได้รับความเสียหาย กว่า 60 สาย และอยู่ระมหว่างการตรวจสอบ ให้การช่วยเหลือต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นที่ ลุ่มน้ำอูน น้ำสงคราม เขต อ.ศรีสงคราม อ.นาหว้า และ อ.ท่าอุทน ยังมีปัญหาระดับน้ำยังทรงตัว อยู่ที่ระดับประมาณ 12 เมตร ยังเกินความจุ ประมาณ 1เมตร แต่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง เพราะฝนไม่ตกมาหลายวัน ส่วนหมู่บ้านที่มีปัญหาน้ำท่วม ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว สามารถเดินทางสัญจรได้ พร้อมเร่งฟื้นฟู คือ พื้นที่ ต.นาคูณ อ.นาหว้า จ.นครพนม ยังเหลือเพียงบ้านท่าบ่อ ต.ท่าบ่อสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ที่ยังมีน้ำท่วม ขัง และเฝ้าระวัง เนื่องจากอยู่ติดกับลำน้ำสงคราม มีบ้านเรือนเสี่ยงได้รับผลกระทบกว่า 500 หลังคาเรือน
ด้าน นายคำพอง พ่ออามาตย์ ผู้ใหญ่บ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ หลังระดับน้ำลด พบว่าปัญหาใหญ่ของชาวบ้าน คือ เรื่องของ ที่นาถูกน้ำท่วมขัง เนื้อที่เกือบ 5,000 ไร่ ชาวบ้านเกือบ 200 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากเป็นนาปีที่ปักดำแล้วเสร็จประมาณ 2 เดือน แต่น้ำท่วมขังหลายวัน ทำให้ต้นข้าวเน่าตาย คาดว่าเสียหายทั้งหมด เพราะระดับน้ำลดเฉพาะพื้นที่หมู่บ้าน แต่ทุ่งนายังท่วมขัง สิ่งที่ตามมาคือขาดทุน ภาระหนี้สิน ขั้นต่ำลงทุนไม่ต่ำกว่าไร่ละ 2,000 บาท เพราะต้นทุนสูง แต่น้ำท่วมตายอีก ขาดทุนหนักซ้ำ ต้องอาศัยรอความหวังภาครัฐหาทางช่วยเหลือเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีถนนหนทางระหว่างหมู่บ้าน เสียหายทั้งหมด ถูกน้ำกัดเซาะ ตัดขาด เละเป็นโคลนตม รถยนต์ยังสัญจรไม่ได้ ต้องใช้รถไถการเกษตร ลูกหลานไม่สามารถไปเรียนได้ เกือบครึ่งเดือน วอนหน่วยงานภาครัฐ ผุ้มีอำนาจ เร่งเยียวยาช่วยเหลือ ที่สำคัญยอยากให้แก้ไขปัญหาถาวร เพราะ ตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้านมากว่า 120 ปี ต้องทนทุกข์ น้ำท่วมเกือบทุกปี แต่ยังไม่มีการสนับสนุนงบประมาณแก้ไขจริงจัง มีเพียงการเยียวยาหลังน้ำลด พอถึงหน้าฝนเจอมปัญหาซ้ำซากอีก โดยในการสรุปเบื้องต้นเฉพาะบ้านปากบังคิดค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ถือว่าหนักที่สุดในรอบหลาย 10 ปี
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล สำนักข่าวทีนิวส์ นครพนม