อธิบดีกรมป่าไม้ลงตรวจพื้นที่ปลูกยางพาราของนายทุน พบถูกบุกรุกเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ สั่งคุมเข้ม ยุติการกรีดยางพาราที่รุกเขตป่าสงวน!? (คลิป)

วันที่ 15 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคเหนือที่ 3 หมู่ 13 บ้านวังกระบาก ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นายชลธิศ  สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายอรรถพล  เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า นายชีวะภาพ  ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร ลงพื้นที่ร่วมกับ กอ.รมน. ฝ่ายทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ประชุมรับฟังปัญหาการบุกรุกป่าไม้เพื่อปลูกยางพาราในพื้นที่ จ.พิษณุโลก การบังคับใช้กฎหมายต่อแปลงยางพาราของกลุ่มทุน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการหารือร่วมกัน ต่อจากนั้นจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบแปลงตรวจยึดการดำเนินคดี พื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกปลูกยางพาราในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง หมู่ที่ 5 บ้านเกษตรสุข ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก  พร้อมกับร่วมปล่อยแถวกำลังพลชุดพยัคฆ์ไพร ออกปฏิบัติการตามมาตรการหยุดยั้งการบุกรุกปลูกยางพารา จำนวน 6 ชุด ตามพื้นที่เป้าหมาย

 

ด้าน นายชลธิศ  สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ลงพื้นที่ปฏิบัติการเชิงรุกในการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มนายทุน ที่บุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกยางพาราในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มาตั้งแต่ปี 2558 จากการตรวจสอบพบว่าในภาคเหนือมีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในความรับผิดชอบขอกรมป่าไม้ถึง 32,450,386 ไร่ ถูกบุกรุกเพี่อปลูกยางพาราจำนวน 696,674 ไร่ โดยเฉพาะใน จ.พิษณุโลก แม้จะมีพื้นที่ป่าจำนวน 1,356,493 ไร่ ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าอีกหลายจังหวัดในภูมิภาคเดียวกัน แต่กลับถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพาราถึง 158,615 ไร่ เมื่อนำพื้นที่การปลูกยางพารามาคิดเปรียบเทียบกับสัดส่วนของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่มีอยู่ พบว่าพื้นที่ป่าของ จ.พิษณุโลก ถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพาราในอัตราสูงที่สุดในภาคเหนือถึงร้อยละ 11.7 โดยคาดว่าเป็นการบุกรุกของกลุ่มนายทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ไร่ ทั้งนี้ได้ดำเนินการตรวจยึดดำเนินคดีแล้วจำนวน 23,173 ไร่ และได้ดำเนินการรื้อถอนตามมาตรา 25 จำนวน 4,394 ไร่ รวมทั้งดำเนินการปลูกฟื้นฟูป่าในพื้นที่ตัดฟันแล้ว สำหรับแปลงที่เข้าดำเนินการในครั้งนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขากระยาง ซึ่งเป็นของกลุ่มนายทุนที่ได้ดำเนินการตรวจยึดไว้เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อที่จำนวน 113 ไร่

หลังจากนี้ทางกรมป่าไม้จะเร่งดำเนินการตามมาตรา 25 และปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ พร้อมดำเนินตามมาตรการเชิงรุกในการควบคุมการกรีดยางพารา และการผลิตน้ำยางของกลุ่มนายทุนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อปกป้องพื้นที่ป่าไม้ไม่ให้ถูกทำลายซ้ำอีก ส่วนประชาชนผู้ยากไร้ที่ไร้ที่ทำกิน รัฐบาลมีนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ขณะนี้มีเป้าหมายที่จะจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) กว่า 70,000 ไร่ ทั่วประเทศต่อไป 

ภาพ/ข่าว กรรณิการ์  สิงหะ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดพิษณุโลก