- 18 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 18 ส.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า บนเนื้อที่ เพียง 2 ไร่ ของนายทะนงศักดิ์ เรืองไพศาล ข้าราชการบำนาญ ณ บ้านเลขที่ 101 ม.4 บ้านอังกอล ต.บ้านจารย์ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยนับตั้งแต่ พ.ศ. 2517 เป็นต้นมา และถูกพูดถึงอย่างชัดเจนในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 ให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ได้รับการเชิดชูจากองค์การสหประชาชาติ ว่าเป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ และสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกยึดเป็นแนวทางสู่การพัฒนาแบบยั่งยืน
โดยนายทะนงศักดิ์ เรืองไพศาล ข้าราชการบำนาญ ได้ใช้แนวคิด "3 ห่วง 2 เงื่อนไข" "พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน" บนเงื่อนไข "ความรู้" และ "คุณธรรม" มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตตลอดมา หลังเกษียณอายุราชการ หันประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน และใช้จ่ายเงินให้ได้มาอย่างพอเพียงและประหยัด ปราศจากการกู้หนี้ยืมสิน และถ้ามีเงินเหลือ ก็แบ่งเก็บออมไว้บางส่วน ช่วยเหลือผู้อื่นบางส่วน ด้วยการเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐ์กิจพอเพียง บนที่ดิน 2 ไร่แห่งนี้ ด้วยแนวคิด กินทุกอย่างที่ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กิน เกษตรกรจากต่างจังหวัด และพื้นที่ใกล้เคียง เดินทางมาดูงานไม่ขาดสาย สร้างงาน สร้างรายได้ เลี้ยงดูครอบครัวเป็นอย่างดี
นายวงเดช วงศ์รัตนโชติ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสังขะ/หัวหน้าหน่วยกู้ภัยจุดอำเภอสังขะ กล่าวว่า จากการเข้ามาศึกษาการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐ์กิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 พบว่าพืชที่กินได้ อย่างเช่น เสาวรส รสชาติ เปรี้ยว หวาน อร่อยเป็นธรรมชาติมาก การก้าวตามรอยพ่อ รัชกาลที่ 9 ดีมาก เพราะไม่มีการใช้สารเคมี ประชาชนได้เดินตามหลักปรัชญาเศรษฐ์พอเพียง ตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ 9 หากทุกคนทำได้จะดีมากๆ
ด้าน นายทะนงศักดิ์ เรืองไพศาล กล่าวว่า ตามที่ตนได้ น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐ์กิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาใช้ในชีวิตประจำวัน มองว่าประเทศไทย หลากหลายผู้คน ต้องมามีหนี้ มีสิน และมีการใช้สารเคมีทางการเกษตรอย่างมหาศาล เป็นภัยกับประชากรของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสารเคมี ระบบทุนนิยม จึงคิดและขอน้อมนำเอาศาสตร์พระราชา เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยการทำไปและเรียนรู้ไป เป็นแนวคิดที่ดี ทำให้ตนและครอบครัวมีภสพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นการปลูกป่า 4 อย่างใช้ 3อย่าง นำป่า นำพืชผักมาอยู่ในบ้าน คล้ายๆกับว่า ยกป่ามาอยู่บ้าน
ถ้าหากไม่มี ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชดำริ ปรัชญาเศรษฐ์กิจพอเพียง ชีวิตของตนคงจะย่ำแย่เป็นอย่างมาก จะเป็นหนี้เป็นสิน และคงจะวิ่งตามแต่ระบบทุนนิยม ทำให้ตัวเองไม่มีความสุข ฝากถึงพี่น้องเกษตรกร ให้ลดละ หนี้ลง และมาเดินตามรอยบาท ศาสตร์พระราช รัชกาลที่ 9 น้อมนำเอาปรัชญาเศรษฐ์กิจพอเพียง มาทำปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก ส่วนที่เหลือก็ขาย ทำจากน้อยๆไปหามาก และอย่าทำเกินตัว จนเกิดกำลัง ค่อยๆทำที่ละนิด ที่ละหน่อย แบบผสมผสาน เราก็จะมีสัตว์เลี้ยง มีพืชผัก ในพื้นที่อันน้อยๆของเรา เราก็จะอยู่อย่างมีความสุข จึงให้เกษตรกรตระหนักว่า ทุกวันนี้ มีนา 50-60 ไร่ แต่ทำไม เกษตรกรต้องไปเป็นหนี้ เป็นสิน เป็นแสน แต่ทำไม ไม่ทำทีละนิด ทีละหน่อย คนพื้นที่หน่อยทำไม เขาอยู่ได้อย่างมีความสุข อย่างตนมีที่ดิน 2 ไร่ ปลูก ผัก ปลูกกล้วย มีหน่อไม้ มีพริก มีมะเขือ อยู่ในพื้นที่ ก็มีผักกินโดยไม่ต้องไปซื้อเขา เป็นความสุขที่ดี มีมะนาว พืชผักผลไม้ ตามฤดูกาล ส่วนสัตว์ พวกไก่ ไม่ได้เลี้ยงเพราะพื้นที่จำกัด
ภาพ/ข่าว รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสุรินทร์