ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

นาย กิติพงศ์ พงศ์สุรเวท รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการรวบรวมความเดือดร้อนของประชาชนชาวโคราช เกี่ยวกับการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ และมีการนำเข้าหารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ถึงสองครั้ง เพื่อนำเสนอเกี่ยวกับปัญหาโดยเฉพาะความเดือดร้อนของชาวโคราช หากมีการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่บนพื้นดิน เพราะจะทำให้การจราจรต้องเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากต้องมีการปิด จึงได้มีการหารือ ซึ่งก็ได้ข้อสรุปสุดท้ายว่า ทางรถไฟรางคู่นั้นต้องทำยกระดับเท่านั้น และเป็นการยกระดับสองประมาณ 7.5 เมตร ซึ่งจะเหลือระยะของช่วงการยกจะเป็นช่วงใด ทางเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นผู้ที่นำเสนอว่าต้องการให้ยกระดับไปจนถึงบ้านเกาะ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ตั้งแต่ศรีษะละเลิง บ้านใหม่ ข้ามสามแยกปักธงชัยไปจนถึงชุมทางรถไฟจิระข้ามหัวทะเล แล้วไปลงที่บ้านเกาะ ซึ่งทางการรถไฟเองก็ได้ชี้แจงแล้วว่าไม่สามารถก่อสร้างไปถึงบ้านเกาะได้ เพราะเส้นรถไฟจากบ้านเกาะนั้นเป็นสัญญาของบ้านเกาะไปจนถึง จ.ขอนแก่น ซึ่งได้มีการทำสัญญาไปแล้ว ฉะนั้นจะสามารถดำเนินการได้เพียงช่วงจากสามแยกปักธงชัยไปจนถึงหัวทะเลเท่านั้น และช่วงตั้งแต่หัวทะเลไปจนถึงบ้านเกาะทางรถไฟจะเริ่มลดระดับลงไปเรื่อยๆ ซึ่งมีระยะทาง ประมาณ 7 กิโลเมตรเมตร และในช่วงในเขตตัวเมืองเพียง 4 กิโลเมตร กำลังตรวจสอบว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไร แต่หากเป็นทางยูเทรินหรือเกือกม้าของการรถไฟซึ่งใช้งบประมาณ 60-90 ล้านบาท

หอการค้าโคราช   ยันรถไฟฟ้ารางคู่ต้องยกระดับเท่านั้น   เตรียมยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกประยุทธ์ ในวันที่ 21 ส.ค.นี้

ซึ่งหากตัดตรงนี้ออกไปก็สามารถนำมาชดเชยในส่วนที่เสนอ ซึ่งตรงนี้คิดว่าทางการรถไฟเองก็เข้าใจถึงปัญหาของคนโคราช และการรถไฟเองก็กำลังนำรายละเอียดไปหารือกับกรมทางหลวง ว่าหากมีการทุบสะพานตรงจุดข้ามหน้าโรงแรมสีมาธานี และสะพานข้ามตรงจุดหัวทะเล จะเกิดปัญหาหรือไม่ และมาตรวจสอบงบประมาณที่ต้องใช้ ซึ่งคาดว่าทางการรถไฟจะเร่งทำให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ ก็จะสามารถนำเสนอความต้องการของชาวโคราช เสนอต่อ ครม.ได้ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเอง ก็ได้มีการวางประเด็นไว้แล้วว่า จะขอให้เป็นอันดับหนึ่งที่จะขอให้กับเมืองโคราช เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งตนมั่นใจว่าทางการรถไฟเองก็จะดำเนินการให้ชาวโคราชอย่างเต็มที่

หอการค้าโคราช   ยันรถไฟฟ้ารางคู่ต้องยกระดับเท่านั้น   เตรียมยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกประยุทธ์ ในวันที่ 21 ส.ค.นี้

นาย กิติพงศ์  ยังกล่าวถึงกรณีที่  ชาวอำเภอบัวใหญ่มีการขับเคลื่อนเกี่ยวกับสถานรถไฟที่จะจอด  ซึ่งตามแผนต้องจอดอยู่ที่บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น  โดยชาวอำเภอบัวใหญ่ต้องการดึงเอาสถานีจอดให้ไปอยู่ที่อำเภอบัวใหญ่นั้น  นั้น เรื่องนี้ตนเห็นว่าเรื่องนี้ยังไม่เคยมีการนำเอาเข้ามาพูดคุยกันในเวทีนี้เลย   เพราะตรงนี้มีการขับเคลื่อนกันเพียงที่อำเภอสีคิ้วและในตัวเมืองโคราช ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดเท่านั้น และในช่วงสัญญาที่สอง ตั้งแต่บ้านเกาะ ไปนั้นยังไม่ได้มีการกล่างวถึงจุดตรงนี้  แต่อย่างไรกก็ตามหากพี่น้องชาวอำเภอบัวใหญ่เดือดร้อน  ทางหอการค้าเองก็จะรับฟังและนำมาศึกษาถึงความเป็นไปได้  ที่จะนำตรงนี้มาเสนอกับการรถไฟ  แต่โดยความเห็นส่วนตัวแล้วตนมองว่า   ช่วงสถานีรถไฟอำเภอบัวใหญ่เองก็มีความสำคัญไม่น้อย  เพราะอำเภอบัวใหญ่เป็นเมืองเศรษฐกิจที่อยู่ห่างจากตัวเมืองโคราช กว่า 100 กิโลเมตร  ซึ่งหากเปรียบเทียบก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัด และโซนแถบนี้เองก็มีหลายอำเภอมากในการดำเนินการ  ซึ่งหากนำสถานีจอดมาที่อำเภอบัวใหญ่ก็มีความเหมาะสมเช่นกัน 

 

ภาพ/ข่าว  ไพฑูรย์  คาบพิมาย  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครราชสีมา