- 23 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้รับมอบตัว ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี เพื่อดำเนินคดีใน 4 ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งผู้กองเหน่งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ล่าสุดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ศรีสะเกษ ตรวจพบคราบเลือดที่เบาะหลังรถเก๋งของ น.ส.จุฑาภรณ์ ที่ขับขี่ก่อนหายตัวไป และได้มีการส่งรถไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้ว นั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2560 ที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ร้อยเอกศุภชัย หรือ ผู้กอง เหน่ง ภาโส ตำแหน่ง ผบ.ร้อยอาวุธเบาที่ ๒ กองพันทหารราบที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๖ ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาคดีนี้ พร้อมด้วย พันโทสุวิทย์ ขำคม นายทหารพระธรรมนูญ และ พันโทวันชัย ปรีวัน เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจที่ ๑ ได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.ชัย ไชยพันธ์นา ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ตามนัด และเป็นการรายงานตัวครั้งที่ ๑ ในรอบ 12 วัน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้จัดให้ ร้อยเอกศุภชัย หรือ ผู้กอง เหน่ง ภาโส พิมพ์ลายนิ้วมือทั้งสองข้าง เพื่อจะได้ส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานตรวจเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือแฝง กับวัตถุพยานสำคัญ และรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ จากนั้น ผู้กองเหน่งและคณะ ได้เดินทางกลับไปทันที โดยใช้เวลาในการเข้าพบพนักงานสอบสวนประมาณ 20 นาทีเท่านั้น
นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อาของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า จนถึงบัดนี้ บรรดาญาติพี่น้องและสามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ ยังคงติดตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดไปได้ค้นหาที่ ศรีสะเกษ เมื่อวานนี้ ได้ไปค้นหาที่ ร่องรอยหลักฐานของผู้สูญหาย ที่บริเวณห้วยผึ้ง ทิศตะวันตกของฐานปฏิบัติการชายชาญ และที่บริเวณสำนักสงฆ์เก่า ซึ่งเป็นบริเวณที่ จนท.ตร.ชุดสืบสวน ได้แจ้งว่าเป็นจุดสุดท้ายก่อนที่สัญญาณโทรศัพท์ของ น.ส.จุฑาภรณ์ จะขาดหายไป และจากคำทำนายตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ของญาติ ผลการค้นหา ไม่พบร่องรอยและหลักฐานของผู้สูญหายแต่อย่างใด ต่อมาญาติพี่น้องได้เดินทางไปที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยจันลา บ้านแข้ด่อน ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ. อุบลราชธานี หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการขุดหลุมฝังกลบและมีกลิ่นเหม็น จากการตรวจสอบกับ นายบุญเลิศ บัณฑิต ผญบ. ม.10 บ้านจันลา ต.โดมประดิษฐ์ แล้ว ทราบว่าเป็นหลุมฝังวัวที่ตายจากการป่วยเป็นโรค จึงได้ร่วมกับชาวบ้านนำมาฝังกลบที่บริเวณดังกล่าวไม่ใช่เป็นศพของคนแต่อย่างใด
ภาพ/ข่าว ชยงค์ มณีพันธุ์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ศรีสะเกษ