ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2560  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม หลังสถานการณ์ น้ำก่ำที่เอ่อล้นมานานนับเดือน ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน   รวมพื้นที่การเกษตรเสียหาย หลังน้ำลดชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบนาข้าวเสียหาย ต่างเร่งปรับเตรียมพื้นที่ เพื่อลงทุนใหม่ทำการปักดำนารอบสอง เนื่องจากนาข้าว ที่พึ่งปักดำได้ประมาณ 2 เดือน ถูกน้ำท่วม เน่าเสียหายหมด  สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านต้องประสบปัญหาขาดทุนหนัก  บางรายต้องยอมไปกู้ยืมเงินนอกระบบ มาลงทุนทำนารอบสอง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีผลผลิตข้าวไว้กินในระยะยาว ยอมเสียดอกเบี้ยนอกระบบ ดีกว่า ไปซื้อข้าวกิน  ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ ไม่เพียงพอ เนื่องจากมีการพิจารณาจ่ายเพียงไร่ละ ประมาณ 1,100 บาท  แต่ต้นทุนที่ปักดำไป ตกไร่ละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท  นอกจากนี้ในส่วนของการช่วยเหลือด้านสินเชื่อจากธนาคาร พบว่า มีขั้นตอนยุ่งยาก และให้วงเงินต่ำ ไม่เพียงพอใช้จ่าย ต้องรอขั้นตอนการตรวจสอบ พิจารณา หลายขั้นตอน ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ยอมกู้เงินนอกระบบ รวมถึงนำทรัพย์สินบางส่วนไปขายมาลงทุน 

เช่นเดียวกับชาวบ้าน ในพื้นที่ บ้านพิมานท่า และบ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก จ.นคพนม ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม มานานเกือบ 1 เดือน เนื่องจากมีพื้นที่ตั้งอยู่ในจุดบรรจบของลำน้ำบัง กับลำน้ำก่ำ แม่น้ำ สาขาสายหลัก ของแม่น้ำโขง ทำให้ได้รับผลกระทบหนักสุด หลังบ้านเรือน เกือบ 300 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมขังมานานเกือบ 1 เดือน ลดสู่ภาวะปกติ แต่นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 5,000 ไร่  ชาวบ้านต้องยอมกู้เงินลงทุนอีกรอบ เพื่อเร่งปักดำนารอบสอง เพื่อหวังเก็บผลผลิตไว้กินตลอดปี เพราะไม่มีรายได้จากอาชีพอื่น  บางรายต้องเป็นภาระหนี้สินเพิ่ม 

รอแล้วจะเอาอะไรกิน?! น้ำท่วมนาข้าวยับ ยอมกู้เงินนอกระบบลงทุนดำนารอบสอง เปิดใจรอชดเชยไม่ไหว สินเชื่อธนาคาร..ขั้นตอนจะยุ่งยากไปไหน?!

รอแล้วจะเอาอะไรกิน?! น้ำท่วมนาข้าวยับ ยอมกู้เงินนอกระบบลงทุนดำนารอบสอง เปิดใจรอชดเชยไม่ไหว สินเชื่อธนาคาร..ขั้นตอนจะยุ่งยากไปไหน?!

ด้าน  นายสุรักษ์  โพนเมืองหล่า อายุ55 ปี ชาวบ้านพิมาน หมู่ 1 ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม กล่าวว่า ปีนี้ เดือดร้อนมาก นาข้าว จำนวนกว่า 10 ไร่ ถูกน้ำท่วมเน่าตายหมดไม่เหลือเพราะน้ำท่วมขังนาน ระดับน้ำสูง  อีกทั้งเป็นต้นข้าวที่เริ่มปักดำได้ ประมาณ 2 เดือน ทำให้เสียหายเร็ว  หลังน้ำลดตนต้องยอมไปกู้เงินนอกระบบจากคนรู้จักมาลงทุนดำนารอบ 2  ยอมไปซื้อต้นกล้าข้าวต่างจังหวัด ราคามัดละ 5 บาท มาปักดำใหม่อีกรอบ เนื่องจากช่วงนี้พ้นฤดูการปักดำ ทำให้ต้นกล้าข้าวปักดำหายาก   ถึงจะขาดทุนแต่ต้องยอม เพราะไม่มีอาชีพอื่นหวังเพียงได้ผลผลิตไว้กินตลอดปี ดีกว่าไปซื้อข้าวกิน เผื่อโชคดีราคาข้าวดี จะได้ขายบรรเทาความเดือดร้อน   และใช้แรงงานในครอบครัวชาวบ้านช่วยกัน  ส่วนการช่วยเหลือภาครัฐถือเป็นเรื่องดี แต่ยอมรับว่าได้บางส่วนเท่านั้น เพราะลงทุนสูงไร่ละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท  แต่การช่วยเหลือได้ไร่ละประมาณ 1,000 กว่าบาท  นอกจากนี้ในส่วนของการช่วยเหลือให้กู้เพิ่ม ในเรื่องสินเชื่อธนาคาร ต้องยอมรับว่าขั้นตอนยุ่งยาก ต้องมีการตรวจสอบพิจารณาคุณสมบัติ  หลายขั้นตอน อีกทั้งวงเงินกู้ได้น้อย บางรายมีปัญหาเพราะมีหนี้สินเก่าอีก ต้องยอมกู้นอกระบบ เพราะรวดเร็ว ไม่ต้องรอยอมเสียดอกเบี้ย หากเป็นไปได้ อยากให้รัฐบาลหาทางช่วยเหลือ ในรูแบบอื่นด้วย เพราะการกู้สินเชื่อกับธนาคาร เป็นเรื่องยากสำหรับชาวบ้าน หลักทรัพย์ก็ไม่มี  วอนพิจารณาหาทางช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สำหรับแนวทางการช่วยเหลือเบื้องต้นทางด้าน จังหวัดนครพนม ได้มีการประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัย ทั้งหมด 11 อำเภอ  มีพื้นที่นาข้าวเสียหาย มากกว่า 2 แสนไร่ อยู่ระหว่างการพิจารณาช่วยเหลือจ่ายเงินชดเชยตามความเป็นจริง ไร่ละประมาณ 1,100 บาท  แต่เกินคนละ 30 ไร่  ส่วนทางด้านธนาคาร ให้มีการพิจารณา ช่วยเหลือปล่อยสินเชื่อเพิ่ม ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทั้งในเรื่องของ ฟื้นฟูที่อยู่อาศัย รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงช่วยเหลือด้านการลงทุนแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ  ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการช่วยเหลือคาดว่าพื้นที่ จ.นครพนม มีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท

รอแล้วจะเอาอะไรกิน?! น้ำท่วมนาข้าวยับ ยอมกู้เงินนอกระบบลงทุนดำนารอบสอง เปิดใจรอชดเชยไม่ไหว สินเชื่อธนาคาร..ขั้นตอนจะยุ่งยากไปไหน?!

ประทีป วชิระธัญญากุล   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.นครพนม