พ่อแม่ไม่เชื่อน้องบุ๋มจะฆ่าตัวตาย หลังพบผูกคอดับในห้องบ้านเพื่อน ปักใจต้องมีเบื้องหลัง พร้อมแฉหลักฐานเด็ด แถม 1 ในผู้ต้องหาเป็นลูกตร.

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 60  ที่ผ่านมาด้าน ร.ต.อ. จตุพล สุวรรณจักษ์ รอง.สว.(สอบสวน) สภ. หนองแค จ. สระบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนผูกคอเสียชีวิตในบ้านเลขที่ 46/1 ซ. 1 หมุ่บ้านเมืองแก้ว ถ.พลหลโยธิน สายใน ต.หนองแค อ.หนองแค จ. สระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างรัตนตรัยสระบุรี ที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งในที่เกิดเหตุ นั้น เป็นชั้นที่ 2 โดยภายในห้องชั้น 2 เจ้าหน้าที่ พบศพ นส. นิศากร พุ่มพงษ์ อายุ 24 ปี เลขที่ 159/1 ม.4 ต. ทุ่งนางงาม อ.ลานสัก จ. อุทัยธานี สภาพศพนอนเสียชีวิตผู้ตายสวมเสื้อยืดสีดำแขนสั้นกางเกงสีดำขาสั้นนั่งหลังพิงอยู่กับประตูห้อง โดยที่ลำคอมีสายโทรศัพท์ ยาวประมาณ ร่วม 2 เมตร มัดคอพ่วงกับลูกปิดประตูไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานพร้อมนำศพส่งตรวจสถาบันนิติวิทยาศาตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิตหลังจากนั้นก็ได้นำร่างผุ้ตายหลังตรวจเสร็จได้มอบให้ทางญาติรับไปดำเนินการทางศาสนาต่อไป

จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทางด้าน นาย สมพร พุ่มพงษ์ อายุ 56ปี เลขที่ 159/1 ม.4 ต. ทุ่งนางงาม อ.ลานสัก จ. อุทัยธานี และนาง มะยอง บัวทอง อายุ 55ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของผุ้ตายหลังจากที่ลูกสาวเสียชีวิตในวันดังกล่าวแล้วนำศพกับมาดำเนินการทางศาสนาที่วัด ซึ่งในระหว่างดำเนินการทางศาสนาทาง ทางพ่อแม่และญาติพี่น้องไม่เชื่อว่าลูกสาวจะเป้นการฆ่าตัวตาย จนกระทั่งมีการเผาร่างวันที่ 17 ส.ค.ผ่านไปโดยทางผู้เป็นพ่อแม่และญาติพี่น้องเกรงว่าเรื่องดังกล่าวซึ่งทางญาติไม่เชื่อจะเป็นการฆ่าตัวตายของลูกสาว จึงได้เดินทางมาสอบถามด้านคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงความคืบหน้า ว่ามีการดำเนินการไปทางทิศทางใดซึ่งส่วนตัวของตนไม่ปักใจเชื่อว่าลูกสาวของตนผูกคอเสียชีวิต ซึ่งตนขอให้มีการเร่งสอบสวนเพื่อหาคนผิดเพราะว่าในวันที่เกิดเหตุนั้นมีผู้ชายอยุ่ด้วย 4 คน ซึ่งตนเชื่อเป็นการฆาตกรรมและข่มขืนลูกของตน ไม่เชื่อลูกผูกคอตายจึงขอให้ตำรวจเร่งสอบสวนหาคนผิด จากนั้นจึงเดินทางกลับบ้าน

ล่าสุดเวลา 09.00 น.  วันที่ 1 ก.ย. 60   นาย สมพร และ นาง มะยอง พร้อมด้วย ทนาย นาย รณณรงค์ แก้วเพ็ชร ได้เดินทางพร้อมญาติและนำลูกสาวผู้ตาย วัยขวบเศษมาด้วยและนำรูปถ่าย ผู้ตาย นส. นิศากร มาด้วยเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี จากนั้นเมื่อมาถึงก็ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ. ฉัฐวัชร วงศ์วาสน์ ผกก. สภ.หนองแค จ. สระบุรี พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ที่ห้องประชุม โดยไม่ยินยอมให้ผู่สื่อข่าวเข้าไปทำการถ่ายภาพแต่อย่างใด จนกระทั่งประมาณ 1 ชม. ก็ได้ลงมา ด้าน นาย รณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โดยวันนี้ตนเองได้เดินทางมาร่วมกับพ่อและแม่ของผู้ตายเพราะว่า ทางญาติได้มาขอความช่วยเหลือตนเพราะว่า ในเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทางญาติยังติดใจในการตายของลูกสาวตน โดยไม่เชื่อว่าลูกสาวจะเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะว่า ในวันที่เกิดเหตุนั้น วันที่ 14 ส.ค.  ตนทราบมาว่าวันเกิดเหตุ ผู้ตายได้อยุ่กับเพื่อนชาย รวม 4 คน และมีการนั่งกินเหล้ากันชั้นล่าง จนกระทั่ง เวลา บ่าย 2 วันเดียวกันพบลูกสาวฆ่าตัวตายในห้อง  เพราะว่าในที่เกิดเหตุ มันเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างกลอนลูกบิดประตูก็ต่ำ จึงเชื่อว่าน่าจะมีการถูกฆ่าและนำมาแขวนไว้ และอีกอย่าง 1 ใน 4 คน นั้นก็เป็นลูกตำรวจ 1 คน ตนเกรงว่าจะไม่มีการรับความเป็นธรรมและตำรวจจะมีการช่วยเหลือชึ่งกันและกัน

 นายรณณรงค์เผยต่อว่าหลังจากสอบถามด้านทางคดีแล้วทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังดำเนินการสอบปากคำพยานและผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไปแล้ว และรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ว่าจะออกมาทิศทางใด โดยตำรวจเผยว่า น่าจะประมาณ 1 เดือน อย่างช้า ซึ่งในส่วนตัวเองนั้น คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ตำรวจน่าจะมีการเร่งทำงานมากกว่านี้ซึ่งมันเป้นคดีที่ญาติสงสัยในเหตุการณ์มันไม่น่าจะช้ากว่านี้ ทนายกล่าว  ส่วนด้าน นาย สมพร พ่อของผู้ตาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองนั้นตลอดเวลาไม่เชื่อเลยว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตาย เพราะว่า หลังจากที่วันเกิดเหตุตนได้มารับลูกสาวเพื่อนำศพส่งตรวจที่ นิติวิทยาศสตร์ ตนเองได้เปิดดูศพลูกสาวตนเองพบว่าตามรอยแขนมีรอยเขียวช้ำ และที่ท้ายทอยก็เขียวช้ำ และ ตนเองยังทราบจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่มาเข้าเก้บศพวันแรกว่ามีการพบถุงยางอนามัยตกอยู่ในห้องอีกด้วย ขณะเดียวตนก็พบที่ร่องรอยอวัยวะเพศลูกสาวตนมีร่องรอยอสุจิและรอยบวมด้วย ตนเองจึงเชื่อมันในตัวเองว่าลูกสาวน่าจะถูกฆาตกรรมข่มขืนและนำศพมาแขวนคอโดยไม่เชื่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกสาวผูกคอตายตนจึงต้องตามมาขอความป็นธรรมในการหาตัวคนผิดในครั้งนี้

ต่อมา เวลา 10.30 น. ทางด้าน นาย สมพร และทางทนายความพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ พากันมาดูสถานที่เกิดเหตุที่บ้านดังกล่าว ซึ่งมี นาย สมนึก อภิญญากุล อายุ 60ปี เจ้าของบ้าน ในที่เกิดเหตุได้นำเข้ามาดูในที่เกิดเหตุ ซึ่งปรากฏว่า ในที่เกิดเหตุ นั้นมีการทำความสะอาดไปหมดแล้ว หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ ส่วน นาย สมนึก เผยว่า ในวันที่ เกิดเหตุนั้น ตนเองไม่อยุ่ไปธุระที่ประเทศเพื่อนบ้าน ปล่อยให้ลูกชายตนอยุ่ แต่ตนทราบว่า วันเกิดเหตุมีเพื่อน ๆลูกชายมานั่งกินเหล้าและสั่งหมูกะทะมากินกัน รวม ทั้งหมด 5คน ผุ้ตายเป็นหญิงคนเดียว ที่เหลือเป็นชาย 4คน จนช่วง 4โมงเย็นวันที่ 14 ลูกชายบอกว่า มีเพื่อนผู้หญิงผูกคอตายในห้องนอน ตนจึงเดินทางกลับมาบ้าน ถึงช่วง 5ทุ่ม ด้านนาย สมนึก เผยต่อว่า ที่ผ่านมาเท่าที่ทราบตัวผุ้ตายนั้น รู้จักกับลูกชายตนมาประมาร ร่วม 2-3 อาทิตย์ และ เคยมาบ้านตนได้ 1 ครั้ง แต่ตนไม่ได้สนใจอะไรนึกว่าเป้นเพื่อนลูกชายตน จนกระทั่งในวันเกิดเหตุนั้นตนเองไปธุระประเทศเพื่อนบ้าน จนลูกชายโทรมาว่ามีน้องเขาผูกคอตายในห้องนอน และตนเองก็ได้สอบถามลูกชายและเพื่อนด้วยว่า เป็นไปมาอย่างไรเรื่องดังกล่าว ลูกและเพื่อนบอกว่า นส.นิศากร เขาแอบไปผูกคอเสียชีวิตในห้องนอนเองหลังจากินเหล้าเสร็จ

  

ด้าน.พ.ต.อ. ฉัฐวัชร วงศ์วาสน์ ผกก.เปิดเผยว่าจากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น หลังจากในวันที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสอบสวนได้ลงตรวจในพื้นที่เกิดเหตุพร้อมทั้งรวบรวมเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุและมีการสอบพยานในที่เกิดเหตุซึ่งคาดอาจมีการเกี่ยวข้องกับผุ้ตายจนหมด หลังจากนั้นก็นำศพผุ้ตายส่งไปพิสูตรเพื่อหาหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุอะไรในการเสียชีวิต โดยต้องรอผลทางนิติวิยาศาตร์โรงพยาบาลธรรมศายตร์ส่งกลับมาจึงจะทราบผล ซึ่งถ้าผลลงมาว่าเป็นการถูกฆาตรกรรมทำร้ายหรือข่มขืนจนให้ผุ้ตายเสียชีวิต ตนก็นำตัวผุ้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหานำตัวดำเนินคดีส่งฟ้องศาลต่อไป  ขณะเดียวกัน นาย สมพรพ่อผุ้ตาย ยังได้เปิดเผย กับผุ้สื่อข่าวว่า อย่างไรตนเองก็ยังเชื่อมั่นว่า ลูกสาวถูกฆาตกรรมอย่างแน่นอน โดยเพราะที่ผ่านมาหลังจากมีการเผาร่างลูกสาวเสร็จ ลูกสาวได้มาเข้าฝันบอกตนว่า “ พ่อมีคนมาข่มขืนหนูโดยมีผุ้ชาย สองคนจับมือหนูสองข้าง ส่วนผุ้ชาย อีก 3 คน ข่มขืนหนูแล้วฆ่าตาย” ตนกระทั่งตนตื่นขึ้นมา ซึ่งการฝันอย่างนี้ตนเองจึงเชื่อมั่นลูกสาวตนถูกฆ่าตาย แน่นอน และตนเองจะขอยืนยันว่าจะดำเนินการร้องขอความเป้นะรรมให้ถึงที่สุดที่จะได้ตัวคนร้ายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่า ผุ้ต้องสงสัย จำนวน 4 คน  1 ใน นั้น มีพ่อเป้นตำรวจก็ตาม

         

  ภาพ/ข่าว สมพงษ์ ปานรุ่ง  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค    สำนักข่าวทีนิวส์   จ.สระบุรี