ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้ 11 ก.ย.60 ชาวบ้านหมู่ 3 ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี นำโดยนางชำเรือง เกียรติกำแหงอายุ 69 ปี เลข

ที่ 193 หมู่ 3 ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พร้อมเพื่อนบ้าน ได้เข้าร้องทุกข์กับพ.ต.ต.ประสิทธิ์ ภัคดี พนักงานสอบสวน สภ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  สาเหตุประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลนาดี และเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลนาดี (ส.ท.)  คือนายเอกภพ มารมณ์ ทุจริตเงินสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลนาดี  ซึ่งอ้างตามที่รัฐบาลสนับสนุนการดำเนินงานสวัสดิการของชุมชน ให้ประชาชนออมทรัพย์ร่วมกันจัดตั้งเป็นกองทุน

สวัสดิการชุมชน เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงของชุมชนฐานรากและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และสังคมในการพัฒนาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีด้วยหลักการประชาชนออม 1 ส่วน องค์กรปก

ครองส่วนท้องถิ่นสมทบ  1 ส่วน รัฐบาล 1 ส่วน

 

โดยมอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับผิดชอบดำเนินการนั้น   เนื่องด้วยกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาล ต.นาดี โดยนายเอกภพมารมณ์ (ประธาน) ได้นำโครงการมาชักชวน

ชาวบ้าน ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนเก็บออมเพื่อสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ได้ดำเนินการก่อตั้ง เมื่อวันที่1 ก.ค.53 มีสมาชิกทั้งหมด 6 หมู่บ้าน และมีสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ 1,102 คน ซึ่งมีนายเอกภพ มารมณ์ เป็นประธาน และคณะกรรมการจำนวน 12 คน ตั้งแต่มีการจัดตั้งกองทุนฯ ได้รับเงินสมทบหรือสนับสนุนจากภาครัฐ คือกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จำนวน 2 ครั้ง 

  วางแผนมาโกง!! ชาวบ้านแค้นจัด ปธ.กองทุน หลอกชาวบ้านออมเงิน ตุ๋นทั้งรัฐ ตุ๋นทั้งชาวบ้าน ฟาดเงิน 2 ล้านบาท หนีหาย (ชมคลิป)

ครั้งที่ 1 เงินสมทบจากภาครัฐเมื่อวันที่30 ม.ค.56 (100,000 บาทถ้วน) ครั้งที่2 จำนวน 243,820 บาทถ้วน รวมเป็นเงิน 2 ครั้งที่สมทบและสนับสนุนมาจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เป็นเงินทั้งสิ้น 343,820 บาท(สามแสนสี่หมื่นบาทพันแปดร้อยยี่สิบบาทถ้วน)

 

และได้มีการเก็บเงินจากสมาชิกกองทุนฯ จำนวน6 หมู่บ้านสมาชิกทั้งหมด1,102 คน ถึงปัจจุบันเก็บเงินจากสมาชิกได้จำนวน1,723,305 บาท(หนึ่งล้านเจ็ดแสนสองหมื่นสามพันสามร้อยห้าบาทถ้วน) ตั้งแต่มีการจัดตั้งกองทุนมา จากวันที่ 1 ก.ค. 53 จนถึงวันที่พ.ย.59 ได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯ 2 ครั้งรวมกับเงินสมาชิกทั้ง 2 ยอดเป็นเงินทั้งสิ้น 2,067,125 บาท (สองล้านหกหมื่นเจ็ดพันหนึ่งร้อยยี่สิบห้าบาทถ้วน)

 

โดยนายเอกภพ มารมณ์(ประธาน) ทำโครงการอันเป็นเท็จ ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง และได้นำรายชื่อสมาชิก(ประชาชน) เพื่อขอรับเงินสนับสนุนจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นายเอกภพ มารมณ์ ไม่เคยมีการจัดประชุมชี้แจงเกี่ยวกับเงินสวัสดิการกองทุนฯ นับตั้งแต่ปี 53-59 พร้อมไม่นำเงิน

ที่เก็บจากสมาชิกเข้าฝากธนาคารแต่ประการใด (แต่กลับนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว)เมื่อมีสมาชิก เกิด เจ็บ

ป่วย หรือตาย นายเอกภพ ไม่ได้นำเงินที่เก็บจากสมาชิกมาจ่ายให้กับผู้ที่ เกิด เจ็บป่วย และตายแต่ประการใด

เลย แต่กับไปใช้นำเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมาจ่ายแทนและไม่ได้ตดทะเบียนให้ถูกต้อง เท่ากับเป็นการหลอกภาครัฐบาลและประชาชนไปพร้อมๆกัน

 

จนถึงวันที่ 24 ก.ย.59คณะกรรมการและสมาชิกสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลนาดี ได้รู้ว่ามีการทุจริตสมาชิกได้ขอตรวจสอบบัญชีเงินฝาก ธกส.แต่นายเอกภพ ไม่ยอมให้สมาชิกดูบัญชีเงินฝาก 

 

ต่อมานางคำนาง โสพรมเป็นกรรมการเบิกจ่ายเงิน ได้นำบัญชีมาให้สมาชิกดูถึงได้รู้ว่านายเอกภพ มารมณ์ ทุจริตนำเงินที่เก็บสมาชิกไปใช้จ่ายส่วนตัว ไม่ได้นำเงินเข้าบัญชีธนาคารแต่อย่างใด เมื่อสมาชิกได้แจ้งที่หน่วยงานกองทุนสวัสดิการชุมชนที่จังหวัด แต่หน่วยงานไม่มีความสามารถจัดการกับนายเอกภพได้สมาชิก

จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่สภ.นาดี และกล่าวโทษต่อนายเอกภพ และคณะกรรมการ ปรากฎว่าเรื่องได้นำเนินการถึงศาลและสำนักงานอัยการจังหวัดกบินทร์บุรีแจ้งว่ามีคำสั่งให้ยุติการดำเนินคดี เนื่องจากคดีขาดอายุความร้องทุกข์ จึงขอความอนุเคราะห์จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ช่วยลงมาตรวจสอบเพื่อความถูกต้องโดยเร่งด่วน

 

นอกจากร้องไปยังสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนยังได้ร้องไปยังศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอ/จังหวัดให้ช่วยตรวจสอบ และมีหนังสือตอบรับให้ทราบแล้วแต่ก็ยังเงียบอยู่

นายนพพร เงินมหาสาล อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่533 ม.3 ต.นาดี หนึ่งในสมาชิกกล่าวว่าตนกับพ่อแม่พี่น้อง ติดต่อทวงถามเงินจากนายเอกภพก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด และยังหลบหน้าเสมอนางกาญจณา

ปุ่มฤทธิ อายุ 47 ปี เลขที่ 432/3 ม.3 ก็มีปัญหาเรื่องเงินที่จะได้มาใช้ในการเสียชีวิตของแม่แต่ก็มาประจบ

กับการมีเรื่องกันพอดีและนายเอกภพบอกว่าขาดส่งไม่ได้เงินช่วยเหลือ แต่ทุกคนก็รู้ก็เห็นว่าครอบครัวนางกาญจณาจ่ายเงินไปแล้วจริงเมื่อเรื่องแดงขึ้นมานายเอกภพได้นำเงินบางส่วนไปคืนให้สมาชิกบางหมู่สมาชิกหมู่ 4 จำนวน169คนได้พากันลาออกจากการเป็นสมาชิกแล้ว

 

นางจำเรืองกล่าวต่ออีกว่านายเอกภพได้บอกว่าจะคืนเงินให้โดนจะแบ่งชำระเป็นรายเดือนเดือนละห้าพันบาทแก่สมาชิกคนหนึ่งแต่ก็จ่ายให้แค่ไม่กี่เดือนก็ไม่จ่ายให้อีก

 

ผู้สื่อข่าวได้คิดต่อสอบถามผู้บริหารของสำนักงานเทศบาลตำบลนาดีได้ให้ข้อมูลว่า นายเอกภพได้ทำเอกสารปลอมขึ้นมาและยักยอกเงินสมาขิกไปจริงและได้ตั้งคณะสอบสวนแล้วตามที่ทางอำเภอสั่งการมาอยากให้นายเอกภพได้ออกมาชี้แจงกับสมาชิกตามความเป็นจริง และนายเอกพภเองก็ยอมรับผิดแล้ว แต่ยังติดต่อทาง

โทรศัทพ์ไม่ได้ติดต่อไม่ได้ปิดมือถือ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อทางโทรศัพท์ก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน

 

นางชำเรืองกับสมาชิกจะพากันมาแจ้งความใหม่ไม่ทราบว่านายเอกภพจะออกมาขี้แจงหรือมาทำความเข้าใจและจะชดใช้คืนเงินให้สมาชิกทางไหนได้บ้างทุกคนก็เดือดร้อนจากการกระทำของนายเอกภพอยากให้มีความรับผิดชอบในการกระครั้งนี้ ประชาชนในหมู่บ้านมีอาชีพทำนาทำไร่รับจ้างทั่วไปเงินที่นำมาจ่ายในกองทุนหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงกลับมาเจอเรื่องแบบนี้รู้สึกว่าท้อแท้และไม่เป็นธรรมตัวเองเป็นผู้นำหมู่บ้าน

ไม่น่ามาทำเรื่องแบบนี้กับประชาชนในหมู่บ้านที่เลือกมาเป็นผู้นำ ผู้นำไม่น่าทำแบบนี้เลยเสียใจเสียความรู้สึกที่ดีๆที่มีให้

 

ต่อมา  พ.ต.อ.จิรโรจน์ โรจน์ภานุพัชน์ผกก.สภ.นาดี  ได้ เรียก พ.ต.ท.ถาวร สุขสารพันธ์ รองผกก.สอบสวน.สภ.นาดี และ  พ.ต.ต.ประสิทธิ์ ภัคดี สว.สอบสวน สภ.นาดี เข้าหารือและสอบถามเรื่องที่เกิด

ขึ้นเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือทางคดี โดยรวมกันรับฟังเรื่องราวนานหนึ่งชั่วโมง โดยสรุปว่าเรื่องคดีความนั้นที่ผ่านมากลุ่มชาวบ้านได้มาแจ้งความไว้แล้ว แต่ทางคดีความหมดอายุลงเนื่องจากว่า ร้อยเวรได้ส่งสำนวนส่งอัยการแล้วแต่ว่าระยะเวลาหมดอายุก่อน(สามเดือน) และวันนี้กลุ่มชาวบ้าน 9 รายพากันมาแจ้งความใหม่

ในเรื่องเดิมนั้นไม่วามารถทำได้ 

 

และหาทางออกให้เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายวันที่ 15 ก.ย.ที่จะถึงนี้ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะลงมาตรวจสวบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ประสิทธิ์ ภักดี เจ้าของคดีในขณะนั้น ไปร่วมรับฟังและทำสำนวนคดีใหม่และตอบตำถามให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรู้อย่างชัดเจนทุกคำถาม และหากพบว่าผู้ถูกกล่าวหามีมูลความผิดใดให้ทำสำนวนอย่างตรงไปตรงมา ชาวบ้านจึงพอใจและพากันเดินทางกลับ  โดยหากยังไม่สามารถหาทางยุติได้จะร้องทุกข์ถึงสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป

  วางแผนมาโกง!! ชาวบ้านแค้นจัด ปธ.กองทุน หลอกชาวบ้านออมเงิน ตุ๋นทั้งรัฐ ตุ๋นทั้งชาวบ้าน ฟาดเงิน 2 ล้านบาท หนีหาย (ชมคลิป)

ภาพ/ข่าว  มานิตย์   สนับบุญ / ทองสุข  สิงห์พิมพ์   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ. ปราจีนบุรี