เร่งปิดคดี!? เงินหาย 7 แสน ขณะสาวร้านสะดวกซื้อขี่จยย.ล้ม ตร.สอบพลเมืองดี ยังมืดแปดด้าน จับมือใครดมยังไม่ได้ เร่งเค้นหาความจริง!!

วันนี้(19 ก.ย.60 )ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้า หลังจากเมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 18 ก.ย.60 ที่ผ่านมาแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย และสองสามีภรรยาพลเมืองดี เข้าพบตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยขโมยเงิน 7 แสนบาท จากพนักงานสาวร้านสะดวกซื้อคนหนึ่ง ที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม บริเวณถนนเลี่ยงเมือง ตำบลแสลงพันธ์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์

 

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ชีพนเรนทร 1669 เล่าว่า หลังได้รับแจ้งเหตุได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งขณะนั้นอาการสาหัส โดยไม่ได้สนใจทรัพย์สินของผู้บาดเจ็บ กระทั่งนำส่งผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาลแล้ว จึงได้ตรวจสอบพบถุงผ้าที่มีเงิน 1ปึก โดยไม่รู้จำนวนเท่าไหร่ จึงได้นำส่งให้ผู้บาดเจ็บ กระทั่งมารู้ภายหลังว่า เงินจำนวน 840,000บาทที่ผู้บาดเจ็บกำลังจะนำไปฝาก หายไป 7 แสนบาท

สำหรับกรณีนี้เบื้องต้นตำรวจได้สอบปากคำสองสามีภรรยาพลเมืองดีที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์และเป็นผู้โทรศัพท์แจ้งหมายเลข1669 โดยไม่ได้ลงจากรถ และสอบปากคำเพื่อนพนักงานสาวร้านสะดวกซื้อไปแล้วรวม 3 ปาก ยังเหลือเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์กว่า 20 ปาก แต่ยังไม่มีการเรียกชาวบ้านชุดแรกที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัยเช่นกันมาสอบปากคำหรือไม่ขณะเดียวกันมีการตั้งข้อสังเกตุว่า เหตุใดร้านสะดวกซื้อจึงเก็บเงินจำนวนมากไว้จึงนำไปฝาก และขณะนี้ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่าเงินจากต้นทางมีจำนวนกว่า 8 แสนบาทจริงหรือไม่

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (19 ก.ย.60) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ยศวัฒน์ งามสง่า ผกก.สภ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า คดีหนี้ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย เป็นผู้หญิง เป็นผู้จัดการร้านเซเว่น  สาขา ปตท.แกใหญ่ ว่าตนเองได้นำเงินประมาณ 840,000 บาทเศษ เพื่อจะนำไปเข้าธนาคารที่ห้างโรบินสันสุรินทร์ ซึ่งห่างจาก ร้านเซเว่น สาขา ของตนเองประมาณ 5 ก.ม. ระหว่างการเดินทางได้เกิดอุบัติ รถเบียดเฉียวชน ทำให้รถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ไปได้ล้มลง  หลังประสบเหตุ พลเมืองดีได้โทรศัพท์แจ้ง 1669 และได้มีการติดต่อทางร้านเซเว่น ให้ทราบ ในส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้เสียหาย ยังให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดียังไม่ได้ เนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บอยู่

 

แต่อย่างไรก็ตามในการติดตามเงิน ติดตามคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน พยานบุคคล ซึ่งปรากฏว่า พยานบุคคลในคดีนี้ มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ประสบเหตุ และผู้เข้าไปช่วยเหลือ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พนักงานเซเว่น ต่างๆ จะต้องมีการสอบสวนปากคำ เพื่อสืบสวน เพื่อจะหาตัวคนร้าย เพื่อจะหาเงินว่า เงินจำนวนนี้ ใครเป็นผู้เอาไป  ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เงินหายไปจากสาเหตุอะไร จากสาเหตุ จากผู้อื่น หรือ ผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือ ซึ่งตรงนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการสรุป ต้องมีการเรียกพยานบุคคลมาสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ได้ความจริงก่อน

ภาพ/ข่าว ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์