นี่รร.หรือค่ายกักกัน!!พ่อจูงมือลูกชาย ร้องสื่อ หลังลูกขโมยมือถือเพื่อนไป ครูจับได้จึงพามาให้รุ่นพี่ขาโหดซ้อม เลือดออกหู ขอเอาผิดให้ถึงที่สุด

นายเกียรติศักดิ์  เขียวเหลือ  อายุ  35  ปี  อยู่บ้านเลขที่  38/1 ม.8  ต.คลองทราย อ.นาทวี  จ.สงขลา  จูงน้องใหม่ เด็กนักเรียน ม.1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จังหวัดพัทลุง เข้าร้องกับสื่อมวลชนที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองพัทลุง  กรณีครูจ้างสอนพร้อมด้วยแก๊งมาเฟียในโรงเรียนดังกล่าวซ้อมทำร้ายร่างกายลูกชาย จนแก้วหูร้าวมีเลือดออกในช่องหู ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 18  กันยายน ที่ผ่านมา    และก่อนหน้านี้ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพัทลุงแล้ว  

 

น้องใหม่เล่าว่าประมาณต้นเดือนที่ผ่านมา ตนพร้อมเพื่อนอีก 3 คนได้เข้าไปขโมยโทรศัพท์ของเพื่อนนักเรียนที่ฝากไว้กับคุณครู จำนวน 9 เครื่อง  มาแบ่งกันใช้  จนครูจับได้และนำมาคืนให้กับเพื่อนไปแล้วจำนวน 6  เครื่อง  อีก 3 เครื่องถูกขโมยไปขณะชาร์ตแบตเตอรี่ไว้ในหอพัก และอยู่ระหว่างการติดต่อขอชดใช้ระหว่างผู้ปกครองด้วยกันในวันศุกร์ที่  22 กันยายน ที่จะถึงนี้ แต่เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ครูไกรได้พาตนขึ้นรถจักรยายนต์ไปค่ายมวยภายในโรงเรียน และสอบถามเรื่องโทรศัพท์พร้อมกับตบตนเข้าที่หูด้านซ้าย 3 ครั้ง  จากนั้นพาตนเข้าไปในห้องพักครู ถามถึงเรื่องโทรศัพท์อีกครั้งก่อนที่จะใช้เหล็กแหลมแทงเข้าไปที่สีข้างด้านซ้าย  1 ครั้ง จนเสื้อขาด ผิวหนังเป็นรอยช้ำบวม  และบอกให้ตนรอสักครู่หนึ่ง    จากนั้นก็มีเพื่อนรุ่นพี่จำนวน 3 คนเข้ามาถามเรื่องโทรศัพท์ พร้อมกับใช้เท้าถีบเข้าที่ใบหน้าตนอีก 3 ครั้ง  ก่อนที่ครูไกรจะเข้ามาในห้องบอกตนว่าพรุ่งนี้เจอกัน แต่ตนไม่รู้ว่าเจอกันยังไง เพราะที่ผ่านมาตนก็ถูกครูคนดังกล่าวตบตีมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ได้บอกพ่อ – แม่ จนครั้งนี้ตนปวดหูมากครูที่ปรึกษาจึงโทรไปบอกพ่อให้มารับตนไปหามอ

 

พ.ต.อ.วิชัย  วิชยานฤพล  ผกก.เมืองพัทลุงกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า  หลังจากนี้จะได้สอบเด็กผู้เสียหายร่วมกับนักวิชาการสหวิชาชีพ 3 – 4 ฝ่าย มาสอบร่วมและรอผลการตรวจร่างกายของเด็กอย่างละเอียดจากแพทย์อีกครั้ง  เพื่อจะได้เรียกครูคนดังกล่าวมารับทราบในข้อหาทำร้ายร่างกกาย  ส่วนเด็กที่ร่วมทำร้ายร่างกายก็มีความผิดเหมือนกัน  แต่ต้องสอบอีกทีว่ามีความผิดมากน้อยแค่ไหน นอกจานั้น  พ.ต.อ.วิชัย ฯยังกล่าวอีกว่าตามกฎหมายกรณีเด็กขโมยทรัพย์สิน กับการลงโทษเด็กด้วยการทำร้ายร่างกาย  มันเป็นต่างกรรมต่างวาระ   ตามจรรยาบรรณของครูควรจะเรียกเด็กมาว่ากล่าวตักเตือน  เรียกผู้ปกครองมาคุย กล่าวโทษ ไม่ใช่มาตัดสินพิพากษาด้วยการลงไม้ลงมือกับเด็ก  ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรและยังผิดกฎหมายอาญาด้วย

ทางด้านนายเกียรติศักดิ์  ฯพ่อของน้องใหม่กล่าวว่าตนและภรรยาต้องไปทำงานต่างจังหวัด ต้องนำลูกชายทั้ง 2 คน มาเรียนที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จังหวัดพัทลุง  สำหรับน้องใหม่มาเรียนตั้งแต่ ป. 1 – ม.1 รวม 7 ปี   ตนเสียใจในการกระทำของครูในครั้งนี้มาก  ไม่น่าจะทำกับเด็ก  จรรยาบรรณของครูก็มีมันหายไปไหน ที่ผ่านมาพาเด็กไปทำงานส่วนตัวที่บ้าน ก็พอยอมรับได้ แต่มีการพูดจาใช้คำด่าที่หยาบคาย ตนอยากถามว่านี่หรือจรรยาบรรณของครูโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จังหวัดพัทลุง

 

ภาพ / ข่าว  นางลัดดา มณีรัตน์  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.พัทลุง