แพทย์และพยาบาลละเลยหน้าที่!! สามี โร่ ร้องขอความเป็นธรรมหลังเมียช็อกตายคาโรงพยาบาล (มีคลิป)

                   เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 22 ก.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ญาติของนางจิราภรณ์  อิ่มใจ อายุ 32 ปี ผู้เสียชีวิตจากการเข้ารับการรักษาใน รพ.ศูนย์ในจังหวัดสระแก้ว และถูกปล่อยทิ้งไว้ในห้องฉุกเฉินกว่าครึ่งวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-17.00 น.ของวันศุกร์ที่ 1 ส.ค.60 จนกระทั่งมีอาการช็อกและเสียชีวิตในช่วงมืดอีกวัน ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้นัดญาติของผู้เสียหาย มาร่วมพูดคุยสอบถามข้อมูลและข้อเท็จจริง เมื่อบ่ายวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา และยังไม่มีข้อสรุปโดยให้รออีก 2 เดือนนั้น  

                 ล่าสุดวันนี้ นายดำรงศักดิ์ เทพทอง อายุ 44 ปี สามีของผู้ตาย ,นายกฤษณะ  สุขน้อย อายุ 33 ปี พี่เขย ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว และยุติธรรมจังหวัดสระแก้ว เพื่อขอความช่วยเหลือติดตามกรณีดังกล่าว เนื่องจากไม่มั่นว่า จะได้รับความเป็นธรรมจากกรณีการเสียชีวิตของญาติ เนื่องจากการพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯและเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็สามารถพิจารณาการเยียวยาได้แล้ว  โดยมีนายเถลิงรัฐ ทาวุฒิ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ เป็นผู้รับเรื่อง  

               นายกฤษณะ  สุขน้อย  กล่าวว่า การเข้าร้องกับศูนย์ดำรงธรรมฯ-ยุติธรรมจังหวัด เพราะกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสาธารณสุขและคณะอนุกรรมการพูดเหมือนให้รอไปอีก 2 เดือน โดยคณะอนุกรรมการเอาเพียงข้อมูลหนังสือจาก รพ.เข้าไปพิจารณา โดยบอกกับสามีและญาติว่า เรียกมาสอบถามเพื่อเอาข้อมูลไปประกอบการพิจารณาเยียวยา ซึ่งดูจากการพิจารณาแล้วมีความรู้สึกไม่เป็นธรรมสำหรับตัวเอง ซึ่งเป็นผู้สูญเสีย  เช่น บางกรณีถามว่า ก่อนหน้านั้นเข้า รพ.อยู่ 4 วันใช่ไหม และกรณีที่คนไข้เข้าไปนอนรออยู่ที่ห้องฉุกเฉินตั้งแต่ 12.00-17.00 น.ทั้งที่เป็นคนไข้วิกฤติ เขาก็ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพิจารณา  

             นายกฤษณะ กล่าวอีกว่า ญาติคนไข้ถามและแจ้งเจ้าหน้าที่่ แต่ได้รับการตอบกลับด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพยาบาล ช่วงที่ทิ้งคนไข้ไว้จนน้ำเกลือหมดและเลือดไหลย้อนกลับ ก็ไม่มีการพูดถึง  เมื่อคนไข้ถูกนำไปเอ็กเรย์และนำกลับมาที่ห้องพักรวมจน 06.00 น.และคนไข้เกิดช็อก และสามีไปเรียกพยาบาล พยาบาลก็ยังไม่มา ทิ้งระยะไปกว่า 10 นาที จนเสียชีวิตแล้วจึงมาและปั๊มหัวใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพูด  ส่วนใหญ่จะเอาหลักฐานและสำนวนของทาง รพ.ที่ชี้แจงมา มาอธิบายเท่านั้น ส่วนสิ่งที่เราพูดเราบอก ไม่ได้หยิบยกเอามาพิจารณาเลย เราจึงมีความรู้สึกว่า กรณีแบบนี้ไม่เป็นธรรม  จึงมาขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐอื่นที่จะช่วยติดตามและสอบถามเรื่องนี้ได้  

            "ใจเราโดนกระทำ แต่ไม่เอาข้อมูลของเราไปพิจารณา ซึ่งเราไม่ทราบเลยว่า ระยะเวลาที่หน่วยงานกำหนด จะต้องเป็นไปตามองค์ประชุม กี่วันกี่เดือน เราไม่รู้เลย เพราะเขาไม่บอกเราว่า ประชุมอย่างไร จะพิจารณาวันไหน บอกแค่ว่า ให้รออีกประมาณ 2 เดือนเท่านั้น หากพ้นกำหนดที่เราจะร้องเรียน เราเป็นเพียงชาวบ้านจะไปสู้หน่วยงานของรัฐได้อย่างไร " นายกฤษณะกล่าว  

            ทางด้าน นายแพทย์อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงกรณีนี้ว่า คณะกรรมการที่ทางสาธารณสุขจังหวัดตั้งขึ้น เป็นเพียงคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากกรณีการร้องเรียน ดังนั้นข้อมูลส่วนไหนที่มีแล้ว หรือรับรู้แล้วจากข่าวสารหรือทางอื่น ก็จะไม่มีการนำมาพูดถึงอีก ส่วนใหญ่จะถามข้อมูลเพิ่มเติมอื่นที่ยังไม่มีเท่านั้น จากนั้นคณะกรรมการจะส่งข้อมูลและเอกสารทั้งหมดไปให้คณะกรรมการกลางของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เพื่อพิจารณา 

           นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า กรณีที่ญาติข้องใจอาจเป็นเพราะข้อมูลมีอยู่แล้ว จึงไม่ถามซ้ำ แต่ไม่ได้อธิบายให้ญาติเข้าใจ  ซึ่งระยะเวลาในการตัดสินก็จะอยู่ที่คณะกรรมการกลางว่า จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาเมื่อไหร่ ซึ่งเรามีหน้าที่ทำให้เร็วที่สุด หากไม่ทันการนำเข้าพิจารณาครั้งต่อไป ก็ต้องเป็นครั้งหน้า ซึ่งอาจทำให้เวลาเลื่อนออกไป ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่แจ้งไว้ว่า ให้รอประมาณ 2 เดือน ก็อยู่ในเกณฑ์ระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ หากคณะกรรมการกลางมีข้อสงสัยในรายละเอียดเพิ่มเติมอีก อาจจะสอบถามมากลับมาที่คณะอนุกรรมการระดับจังหวัดอีกครั้งก็ได้