ชาวนาอุดรฯ พลิกชีวิตหันมาทำนาบัวสร้างรายได้อย่างงาม ลูกค้าฝั่งลาวยังข้ามมาซื้อไปขายในช่วงเทศกาลออกเทศกาลออกพรรษา (ดูคลิป)

เวลา 15.00 น. วันที่ 3 ตุลาคม 60 ที่นาบัว บ้านหนองฮาง  หมู่4 ตำบลเชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี นายไพรี  ภูหนองโอง  อายุ 47 ปี  พร้อมกับญาติ  ได้เร่งเก็บดอกบัวที่อยู่ในสระแล้วทำการมัดใส่ถุง ส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ จ.อุดรธานี และ ลูกค้าชาวลาว สร้างรายได้อย่างงามเป็นกอบเป็นกำ ในช่วงนี้ เนื่องจากใกล้วันเทศกาลออกพรรษาหรือวันพระใหญ่ ที่จะถึงนี้ ซึ่งราคาดอกละ 1 บาท

นางไพรี  ภูหนองโอง   เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตนทำนาปลูกข้าว แต่เมื่อ3 ปีที่แล้ว น้ำท่วมนาข้าวเสียหาย ขาดทุนมาตลอด จึงได้พลิกชีวิตหันมาทำนาบัวแทน  ในพื้นที่ 13 ไร่ โดยสัปดาห์หนึ่งจะเก็บดอกบัวขายจำนวน 2 ครั้ง ในราคาดอกละ 75-80 สตางค์ แต่ในช่วงเดือนไหนมีวันพระหรือวันสำคัญทางพุทธศาสนา เป็นที่ต้องของตลาด จะมีราคาสูงขึ้นถึงดอกละ1 ดอก ในแต่ละครั้งที่เก็บดอกบัวจะ ได้ จำนวน 3-4 พันดอก สร้างรายได้ ต่อเดือน 15,000-20,000 บาท   สำหรับพื้นที่บัวที่ปลูกนั้นดูแลรักษานาบัวเหมือนกับการปลูกพืชทั่วไป หากมีแมลงเจาะดอกบัว ก็จะฉีดพ่นยา และหว่านปุ๋ยบำรุงดินให้ดอกบัวออกดอกมากและสวยงาม ส่วนวงจรชีวิตของต้นบัวจะให้ดอกนานถึง 3 เดือน จากนั้นก็จะตายและเกิดต้นใหม่ขึ้นมาแทน หลังจากทำนาบัวมาจนถึงปัจจุบันนี้ ทำให้ฐานะทางบ้านของตนดีขึ้นมาเรื่อยๆ

ส่วนนางเพชร  พรมจันทน์  อายุ 37 ปี ชาว นครหลวงเวียงจันทน์  สปป.ลาว.  กล่าวว่า ตนมารับซื้อดอกบัว ที่นาบัวแถวนี้ มาได้ประมาณ 5 ปี แล้วนำไปขายต่อ ในตลาดเช้า ที่สปป.ลาว ในวันนี้ ได้สั่งเอาไว้จำนวน 2,000 ดอก  เนื่องจากที่ฝั่งลาว ดอกบัวไม่เพียงพอ ต่อความต้องการของตลาดที่นั้น ยิ่งใกล้จะถึงเทศกาลออกพรรษา ต้องการใช้ดอกบัวไปลอยกระทง เป็นจำนวนมาก ซึ่งในตอนนี้ราคาดอกบัวที่ฝั่งลาวดอกละ 2 บาท ถึง 2.50 บาท ดังกล่าว
 

กฤษดา จันทร์ดวง   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์    จ.อุดรธานี