รวบ 2 โจ๋ระเบิดหู ซิ่งจยย.ชิงโทรศัพท์เด็กประถม คุมตัวทำแผน ทำอาย ลั่น"เพิ่งทำครั้งแรก..ทำไมต้องเป็นข่าวดัง" (คลิป)

วันที่ 18 ต.ค.2560  ที่หน้าโรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สถ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย สวป. พ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ รอง ผกก.หน.พนักงานสอบสวน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัว 2 วัยรุ่นผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์โทรศัพท์มือถือของเด็กนักเรียนอายุ 11 ปีโรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมืองประกอบด้วยนายเสือ (นามสมมุติ)อายุ 18 ปี และนายสิงห์  (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากเมื่อช่วงเย็นวานนี้(  17 ต.ค.) ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงราวทรัพย์เด็กนักเรียนขณะยืนรอผู้ปกครองมารับกลับบ้าน หลังเลิกเรียนพิเศษ อย่างไรก็ตามหลังจากผู้ต้องหาก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับกุมตัวได้ทันควันบริเวณหน้าโรงพยาบาลมหาราช พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง

โดยระหว่างตำรวจควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำสารภาพ สร้างความสนใจให้กับประชาชนที่ขับรถผ่านไปมา จอดรถดูการทำแผนแน่นขนัด และวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเมื่อเห็นสภาพของ 2 ผู้ต้องหาแม้จะเป็นเยาวชนแต่กลับเจาะและระเบิดหูเป็นรูกว้าง  และยังสักตามอวัยวะส่วนต่าง ๆ เต็มไปหมด โดยเฉพาะนายเสือ ที่ระเบิดหูข้างขวาเป็นรูขนาดใหญ่จนสามารถนำขวดเครื่องดื่มชูกำลังสอดเข้าไปได้ รวมทั้งสักบริเวณใบหน้าและคิ้วข้างขวาเป็นอักษรภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตามระหว่างการทำแผนรับสารภาพ 2 ผู้ต้องหาถึงกับหน้าซีดถอดสีอย่างเห็นได้ชัด เมื่อพบว่ามีผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักพยายามถ่ายภาพและสอบถามเรื่องที่เกิด  แต่ผู้ต้องหาทั้งสองกลับเงียบสนิทไม่พูดใดๆ  ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวไปทำแผนเพิ่มเติมที่หน้าโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช  ในขณะที่นายเสือ หนึ่งในผู้ต้องหา หันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยความไม่พอใจว่า ตนเพิ่งทำเป็นครั้งแรก ไม่ต้องถ่ายภาพทำข่าวให้ใหญ่โต

พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สถ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาทั้งสอง มีประวัติวิ่งราว ชิงทรัพย์ และลักทรัพย์มาอย่างโชกโชน ในส่วนรถจักรยานยนต์ที่สองผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ โดยจะขับรถจักรยานยนต์ตระเวนหน้าโรงเรียนต่าง ๆ และอาศัยช่วงจังหวะที่เด็กนักเรียนเลิกเรียน และกำลังยืนเล่นโทรศัพท์ริมถนนรอผู้ปกครองรับกลับบ้าน ซึ่งผู้ต้องหาจะเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กนักเรียนระดับประถม  ก่อนขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดแล้วลงข่มขู่ชิงเอาโทรศัพท์ และเงินสด หากเด็กนักเรียนไม่ให้หรือขัดขืนจะทำร้ายร่างกายด้วยการตบตี  ทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัวไม่กล้าขัดขืน ส่วนโทรศัพท์มือถือที่ได้จะนำไปขายเพื่อนำเงินไปเที่ยวเตร่และซื้อยาเสพติดมาเสพ หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวกลับโรงพักเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.

(ขอบคุณภาพ/คลิป ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช)

ข่าว / ยุทธนะ เตมะศิริ    สำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครศรีธรรมราช