จนท.EOD เอ็กซเรย์ลูกลอยทุ่นประกอบระเบิด พบภายในกลวง ย้ำปลอดภัย 100 % ส่งมอบให้ทร.ภาค 3 เก็บกู้

ความคืบหน้ากรณีมีชาวบ้านพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายตอร์ปิโด บริเวณหน้าหาดในยาง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากที่ช่วงเช้าของวันที่12 ต.ค.60 เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากกองบัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด นำโดย น.ต.ธารไชยยันต์ ตันติอำนวย ประจำแผนกยุทธการและข่าว กองบัญชาการกองเรือทุนระเบิด และเป็นหัวหน้าชุดตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ 4 นาย เข้าตรวจสอบพร้อมระบุว่า ตามที่ได้มีการตรวจพบวัตถุต้องสงสัย ว่า วัตถุดังกล่าวเป็นลูกลอย (Float) ประกอบเครื่องกวาดทุ่นระเบิด โดยอาศัยการเปรียบเทียบขนาด และลักษณะทางกายภาพ ของวัตถุดังกล่าวกับข้อมูลตามบรรณสารด้านสงครามทุ่นระเบิดแล้ว พบว่ามีลักษณะใกล้เคียงกับลูกลอยขนาด 1 ซึ่งไม่มีส่วนประกอบของวัตถุระเบิด โดยลูกลอยมีหน้าที่ในการพยุงไม่ให้สายกวาดและอุปกรณ์อื่นๆ จมลงไปในทะเลทั้งหมดไปพร้อมกัน รวมทั้งบ่งบอกว่าปลายสายกวาดอยู่ที่ใด และบ่งบอกการปฏิบัติงานของเครื่องรักษาระดับ 

สำหรับการกวาดทุ่นระเบิดแบบกลไกแบบ Oropesa นั้น เริ่มมีประวัติการใช้งานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ.1919 โดยชื่อ Oropesa เป็นชื่อที่ตั้งเพื่อให้เป็นเกียรติกับเรือที่คิดค้นเทคนิคการกวาดทุ่นระเบิดดังกล่าว  ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันนี้18 ต.ค.60 เจ้าหน้าที่ชุดถอดทำลายอมภัณฑ์ กองปฏิบัติการใต้น้ำเเละถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือ นำโดยเรือโท ฤทธิพงศ์ เขียวอ่อน หัวหน้าชุด ซึ่งเดินทางมาจากฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมด้วยน.ท.สมบัติ แสงชัยภูมิ หัวหน้าแผนเเละยุทธการ ทัพเรือภาค3 นายทหารควบคุมพื้นที่   เรือโท ธนกฤต แจ่มจิต หัวหน้าชุดถอดทำลาย อมภัณฑ์ทัพเรือภาค 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สาคู จนท.ทหารชุด กองกำลังรักษาความสงบ ทัพภาค4 บก.ควบคุม พล.ร 5 และเจ้าหน้าที่อุทยานฯแห่งชาติสิรินาถฯเข้าตรวจสอบ ลูกลอยฯ(วัตถุต้องสงสัย)ที่พบอีกครั้ง โดยมีการปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ประชาชนและนทท.เข้ามาในพื้นที่ของอุทยานฯเพื่อความปลอดภัย ก่อนใช้เครื่องเอ็กซเรย์วงจรวัตถุระเบิดเข้าทำการติดตั้งและเริ่มการเอ็กเรย์ เพื่อความชัดเจน 

โดยหลังทำการเอ็กซเรย์  เรือโท ฤทธิพงศ์ เขียวอ่อน หัวหน้าชุดถอดทำลายอมภัณฑ์ กองปฏิบัติการใต้น้ำเเละถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือ เปิดเผยว่า จากภาพที่ปรากฏจากเครื่องเอ็กซเรย์ปรากฏเป็นภาพมิติเดียว คือ วัตถุดังกล่าว ภายในมีลักษณะเป็นผิวชั้นเดียว ขรุขระ จากการถูกกัดกร่อน กระเทาะออก ไม่มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์  หรือวัตถุอันตรายใดๆ ซึ่งถือว่าหมดหน้าที่ ของกรมสรรพาวุธ จากนี้ จะส่งมอบให้ทัพเรือภาคที่ 3 ดำเนินการต่อ   ด้าน น.ท.สมบัติ แสงชัยภูมิ หัวหน้าแผนเเละยุทธการ ทัพเรือภาค3 นายทหารควบคุมพื้นที่ เปิดเผยว่า เมื่อทุกอย่างมีความชัดเจนว่าวัตถุดังกล่าวไม่เป็นอันตราย ก็จะต้องเร่งคืนพื้นที่ให้อุทยานฯ หลังจากนี้จะรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาให้ทราบ และขออนุมัติคำสั่งเคลื่อนย้าย ก่อนจะดำเนินการเก็บกู้ลูกลอยฯดังกล่าวเพื่อนำกลับไปยังฐานทัพเรือพังงาอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับยกและรถที่ใช้บรรทุก ก่อนจะดำเนินการในขั้นต่อไป  ทั้งนี้ในส่วนของทุ่นนั้นยังไม่ทราบว่าจะนำไปไหนต่อแต่คาดว่าจะมี 2 แนวทางคือเก็บไว้ที่ฐานทัพเรือพังงา หรือ ส่งมอบให้กองบัญชาการกองเรือทุ่นระเบิดกลับไปใช้ศึกษาหาที่มาว่าเป็นของประเทศใด

 

อุทัย  แสงสุวรรณ  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.ภูเก็ต