บรรยากาศการเริ่มออกทุกข์ พสกนิกรชาวปราจีนบุรี หลัง คสช.มีมติอนุมัติขยายเวลาการไว้ทุกข์ และการลดธงครึ่งเสาในช่วงงานพระบรมศพ (คลิป)

วันนี้ 28  ต.ค.60  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี  รายงานบรรยากาศการออกทุกข์   หลัง คสช.มีมติอนุมัติขยายเวลาการไว้ทุกข์และการลดธงครึ่งเสาในช่วงงานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย  ขยายเวลาการไว้ทุกข์ของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จากเดิมขยายวันที่ 13 ต.ค.60 ไปจนถึงวันที่ 29 ต.ค.60 รวม 17 วัน  , ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา และสถานที่ทำการของรัฐทั้งในและต่างประเทศลดธงครึ่งเสา จากเดิม ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.60 ไปจนถึงวันที่ 29 ต.ค.60 รวม 17 วัน  ,  ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐจากเดิมออกทุกข์ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.เป็นต้นไป เป็นออกทุกข์ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.เป็นต้นไป ,  ให้เริ่มเก็บผ้าระบายที่เป็นผ้าแพรสีขาวดำเพื่อไว้ทุกข์ ป้ายส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยตามสถานที่ต่างๆ จากเดิม ตั้งแต่คืนวันที่ 27 ต.ค.60 เป็น ตั้งแต่คืนวันที่ 29 ต.ค.60 ให้แล้วเสร็จในคืนนั้นเพื่อออกทุกข์ในเช้าวันที่ 30 ต.ค. 2560  นั้น

 

ที่ศูนย์ราชการใหม่ ต.ไม้เค็ด อ.เมืองปราจีนบุรี สถานที่ตั้งพระเมรุมาศจำลอง และจิตกาธาน  พบว่าไดมีการรือจิตกาธานแล้ว  เหลือเพียงพระเมรุมาศจำลอง ที่ประดับตกแต่งด้วยต้นดาวเรืองกำลังชูช่อสีเหลืองอร่ามงดงามกว่า 10,000 ต้น ด้านหน้าเป็นสัญลักษณ์โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโสมง หรือ อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา โครงการชลประทานขนาดใหญ่แห่งสุดท้ายในพระราชดำริ   ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  เป็นรูปใบดอกปีบประกอบหยดน้ำ และฝั่งด้านข้างเป็นโครงการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง  อ.บ้านสร้างที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเสด็จมาทรงเกี่ยวข้าวด้วยพระองค์เองเมื่อวันที่ 18 พ.ย.2541  ส่วนผ้าระบายสีขาว-ดำไว้ทุกข์ รอบๆกำแพงศูนย์ราชการยังคงไว้ และธงชาติยังคงลดครึ่งเสา  ขณะที่ป้ายส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรียังพบติดตั้งอยู่

 

พบประชาชนจำนวนมากเดินทางมาเก็บภาพพระเมรุมาศจำลอง  ไว้เป็นที่ระลึก อาทิ  นางรัชนีวัน สืบจากป้อง อายุ 38 ปี กล่าวว่า  “เดินทางมาพร้อมครอบครัวจาก อ.ศรีมหาโพธิ ได้มาบันทึกภาพเก็บไว้  ที่ผ่านมาได้น้อมแนวพระราชดำริพ่อหลวง  นำมาใช้ ในชีวิตประจำวันแบบพอเพียง ใช้จ่ายแบบพอเพียง ซื้อของมาไม่ให้เหลือใช้  หรือใช้งานที่จำเป็น”นางรัชนีวันกล่าว

ขณะที่  นายบรรจง  จันทร์แดง อายุ 63 ปี  กล่าวว่า “อยู่ที่ ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี  ได้พาครอบครัวเดินทางมาถ่ายภาพพระเมรุมาศจำลองเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก  ที่ผ่านมาได้น้อมนำแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตคือ การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เนื่องจากที่บ้านทำสวนผลไม้  ปลูกพืชผสมผสานในสวนผลไม้หลายอย่าง  ทั้งไม้ผล ,ไม้รั้ว พืชสวนครัว และใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ และเน้นความมีเหตุมีผลในการดำเนินชีวิต”นายบรรจง  กล่าว

 

 ส่วนในพื้นที่หน้าที่ว่าการอำเภอกบินทร์บุรี   ที่หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายดอกไม้จันทน์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลบเดชเสร็จสิ้น ในคืนวันที่26ต.ค.ที่ผ่านมา   อำเภอกบินทร์เร่งเก็บใบผ้าระบายไว้ทุกข์ขาว – ดำ  เพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายดอกไม้จันทน์เมื่อค่ำวานนี้ (27 ต.ค.) พร้อมกับได้รื้อเตาเผาพระจิตกาธาน   ในส่วนพระบรมฉายาลักษณ์นั้น  ยังคงให้คงไว้ถึงสิ้นเดือน ต.ค.60

 

 

 

นอกจากนี้   ตามสถานที่หน่วยงานราชการต่างๆในพื้นที่  เช่น   สถานีวิจัยและพัฒนาสัตว์ปีกแห่งชาติกบินทร์บุรี  ได้ปลดพระบรมฉายาลักษณ์-ป้ายส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ร.9 ออก    และนำพระบรมฉายาลักษณ์ ร.10  ขึ้นประดับแทน

 

หรือในส่วนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.กบินทร์บุรี ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ ร.10 ติดตั้งคู่กับ ร.9   และรถธงลงครึ่งเสาตามมติของรัฐบาล  

 

ในส่วนของประชาชนทั่วไปการออกทุกข์  ยังคงพบแต่งกาย ไว้ทุกข์ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่30 ต.ค.  ตามประกาศมติ ครม.ให้คนไทยไว้ทุกข์ไปจนถึง29 ต.ค.และออกทุกข์ วันที่ 30 ต.ค.  60 

 

***ภาพ-ข่าว  มานิตย์  สนับบุญ/ณัฐนันท์/ผู้สื่อิข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.ปราจีนบุรี***