โลมาหัวบาตรใกล้สูญพันธุ์ !! ชมรมรักษ์โลมาพัทลุงยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการพัทลุง หาแนวทางแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน (คลิป)

วันที่  30  ตุลาคม  2560   นายทวี   สมาชิกชมรมรักษ์โลมาจังหวัดพัทลุง  นำโดยนายทวี  ภูมิสิงหราช  อดีต สว.พัทลุง  ได้นำหนังสือแก้ปัญหาโลมาล้มตายหวั่นจะสูญพันธุ์จากทะเลสาบสงขลา  ซึ่งลงนามร่วมกันของ  นายนิพิฏฐ์   อินทรสมบัติ   รอง  หน.พรรค  ปชป. นายนริศ  ขำนุรักษ์     น.ส.สุพัชรี  ธรรมเพชร  อดีต  ส.ส.พัทลุงและนายทวี  ภูมิสิงหราช   เข้ายื่นต่อนายกู้เกียรติ   วงศ์กระพันธุ์    ผวจ.พัทลุง   บริเวณหน้าห้อง  ผวจ.พัทลุง   ทั้งนี้   หลังจากที่ศูนย์เฝ้าระวังโลมาอิรวดี  และซั้งบ้านปลา ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณ “ ลับห้า “ พื้นที่รอยต่อระหว่าง ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง กับพื้นที่ ต.เกาะใหญ่   อ.กระแสสินธุ์  จ.สงขลา ในทะเลสาบสงขลา ถูกพายุพัดพังเมื่อปลายปี  พ.ศ. 2559   ทำให้โลมาที่อาศัยพื้นที่ดังกล่าว เสียชีวิตมาแล้วจำนวนมาก   โดยสาเหตุมาจากการอิดอวนชาวประมงที่ลักลอบลงจับปลาบึก ปลากะพง และจากหลายสาเหตุ

 

อย่างไรก็ตามการยื่นหนังสือในครั้งนี้ ได้เรียกร้องให้ทางจังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา และกระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาการเสียชีวิตของโลมาฯ  ประกอบด้วย   (1)ให้ยกระดับโลมาฯจากสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นสัตว์ป่าสงวน  ( 2) ให้ประกาศเป็นเขตรักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำในบริเวณที่อยู่อาศัยของฝูงโลมาฯ   (3) ให้เร่งก่อสร้างศูนย์เฝ้าระวังโลมาฯที่ถาวร  (4) ให้ออกประกาศห้ามใช้ยาฆ่าแมลง  ยาฆ่าหญ้า บริเวณต้นน้ำ  เพื่อแก้ปัญหามลพิษในทะเลสาบสงขลา  ( 5) ให้ทำหนังสือถึงสัตวแพทย์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   เพื่อดำเนินการผสมเทียมข้ามสายพันธุ์  เพื่อขยายจำนวนโลมาฯในทะเลสาบสงขลาให้เพิ่มขึ้น

นายกู้เกียรติฯ เผยว่า   สิ่งที่สามารถทำได้โดยทันทีของหนังสือดังกล่าวนี้   คือ  ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปตนจะได้สั่งการไปยังฝ่ายปกครอง   ตำรวจ   ในพื้นที่  อ.ควนขนุน   อ.เมืองพัทลุง   อ.เขาชัยสน   และ  อ.บางแก้ว   เข้าไปตักเตือน  พูดคุย  กับชาวประมงที่นำอวนตาขนาดใหญ่ลงจับสัตว์น้ำในทะเลสาบฯจนติดโลมาฯจนเสียชีวิต   ซึ่งทราบว่าหน่วยงานรัฐมีรายชื่อบุคคลดังกล่าวอยู่แล้วในมือแล้ว   และมอบหมายให้สำนักงานประมงจังหวัดพัทลุง   เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวงพัทลุง  - สงขลา   นำ  จนท.ออกป้องกันปราบปรามการลักลอบวางอวนปลาบึกเขตที่อยู่อาศัยของฝูงโลมาฯ   หากพบการกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด 

สำหรับการสร้างศูนย์เฝ้าระวังฯ  ปรับปรุงซั้งบ้านปลานั้นจะเร่งดำเนินการโดยเร่งด่วน   คาดว่าจะใช้เงินในการดำเนินการประมาณ   5-6   แสนบาท   ส่วนการประกาศให้บริเวณที่อยู่อาศัยของฝูงโลมาฯให้เป็นเขตรักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำนั้นจะต้องทำประชาพิจารณ์กับชาวบ้านเสียก่อน   ส่วนด้านอื่นๆทางจังหวัดฯจะเร่งดำเนินการเช่นกัน  นอกจากนั้นชมรมรักษ์โลมาฯยังเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการ  จ.สงขลา  เพื่อ เข้ามาแก้ปัญหาร่วมกับจังหวัดพัทลุง  และจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ  รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และ  หน.คสช.  เพื่อยกปัญหาเข้าสู่ระดับชาติในเร็วๆนี้ต่อไป

ภาพ/ข่าว  นางลัดดา มณีรัตน์  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์    จ.พัทลุง