- 31 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 31 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบพื้นที่หมู่บ้านโนนงิ้ว หมู่ 6 ต.ขัวก่าย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่าจะมารวมตัวกันประท้วงผู้บริหารโรงเรียนหนองนาแซงโนนงิ้ว และครูบางคน ที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม และบริหารงานไม่โปร่งใส โดยเฉพาะระบุว่าผู้บริหารและครูบางคนนำสิ่งของรับบริจาคช่วยเหลือน้ำท่วมไปจำหน่ายประโยชน์ส่วนตัว จึงขอให้ย้ายออกนอกพื้นที่ หากเรื่องนี้ไม่คืบหน้าจะเหมารถเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมที่จังหวัด เพื่อขอความเป็นธรรม นอกจากนั้นยังมีการข่มขู่ชาวบ้านว่าจะฟ้องกลับ ฐานหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง อ้างมีแฟนเป็นตำรวจตำแหน่งใหญ่ ขณะที่ผู้บริหารออกมาโต้กลับชาวบ้าน พร้อมชี้แจงรายละเอียดทุกเรื่องและพร้อมให้ตรวจสอบ โดยอ้างว่าชาวบ้านบางกลุ่มไม่มาสอบถามข้อเท็จจริง และไม่เข้าใจระบบการทำงาน ทั้งนี้เชื่อว่าน่าจะไม่พอใจครูบางคนหรือปัญหาเรื่องอื่น จึงกลั่นแกล้งครูภายในโรงเรียนเพื่อเป็นข่าว ขณะที่ช่วงเช้ามีผู้บริหารระดับเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 3 ต้นสังกัดลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริง ให้รอวันเปิดเทอญคือวันพรุ่งนี้ (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560) คือจะแต่งตั้งอนุคณะกรรมการสอบเพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นให้คณะครูและผู้บริหาร โรงเรียนเตรียมเอกสารหลักฐานชี้แจง รวมถึงคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียน เสนอให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สกลนคร เขต 3 ทราบ
นางบุญเลี้ยง หินอ่อน อายุ 471 ปี ชาวบ้านโนนงิ้ว หมู่ 6 บอกว่า ปัญหาเกิดขึ้นจากครูภายในโรงเรียน 3 คน ประพฤติตัวไม่เหมาะสม พูดจาก้าวร้าวใส่แก่เด็กนักเรียน และกินเหล้ามึนเมา ขณะอยู่ภายในโรงเรียนชาวบ้านเห็นจนชินตา และทนเห็นพฤติกรรมไม่ไหวแจ้งผู้บริหารทราบแต่ก็ไม่ให้ความสำคัญ และทราบว่าการบริหารภายในโรงเรียนแทบจะทุกเรื่องก็ไม่โปร่งใส ที่สำคัญชาวบ้านทนไหวคือเรื่องสิ่งของบริจาคที่ได้รับมาจากช่วงน้ำท่วม มีมาจากหลายต่อหลายภาคส่วนนำสิ่งของมาบริจาคให้การช่วยเหลือมากมาย เช่นเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง ตลอดจนน้ำดื่มและยาเวชภัณฑ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรในพื้นที่ แต่ปรากฏว่ามีครูบางคนนำสิ่งของที่รับบริจาคไปเก็บไว้ที่บ้านเพื่อรอการจำหน่ายขาย ทั้งนี้ยืนยันจากเด็กนักเรียนชายชั้น ป. 3 ที่เรียนอยู่ และเป็นผู้ที่ขนลำเลียงนำสิ่งของขึ้นรถยนต์ครูอยู่หลายเที่ยว แล้วสิ่งของดังกล่าวนั้นหายไปไหนหมด และไม่มีการออกมาชี้แจงให้ชาวบ้านรับรู้ ส่วนนางแววตา ใจฟู อายุ 42 ปี ชาวบ้านหนองนางแซง หมู่ 1 บอกต่อว่า เรื่องนี้พวกเราได้เดินทางไปพบผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สกลนคร เขต 3 แล้ว เพื่อต้องการให้ท่านรับรู้กับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งยอมรับว่าชาวบ้านส่วนใหญ่เกือบทั้งหมู่บ้านที่ทราบเรื่องนี้ต่างไม่พอใจ ทำไมถึงซ้ำเติมความเดือดร้อนกันขนาดนี้ไม่ทราบ ถามผู้รู้กฏหมายมีคนเอาของบริจาคไปขายผิดกฏหมายหรือไม่ ? ซึ่งตอนนี้ทุกคนต้องการให้ครูและผู้บริหารที่ทุจริตย้ายออกจากโรงเรียนไปอยู่ที่อื่น นอกจากนั้นขอให้ตรวจสอบเรื่องอื่นๆที่ยังปกปิดกันอยู่ให้กระจ่าง แต่อย่างไรก็ตามหากเรื่องนี้ไม่คืบหน้าหรือไม่ดำเนินการใดๆ ชาวบ้านจะรวมตัวกันไปประท้วงที่สำนักงานเขต หรือ เข้ายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อขอความเป็นธรรม ต่อไป ด้านเด็กนักเรียนชายเรียนชั้น ป. 3 อีกหนึ่งคนพร้อมเพื่อนที่ถูกครูใช้ขนสิ่งของขึ้นรถระบุว่า สิ่งของนั้น มีข้าวสาร บะหมี่ ปลากระป๋อง และน้ำดื่มนำไปเก็บไว้ที่บ้านครูดังกล่าว (สงวนชื่อสกุล) ลำเลียงขนไปหลายรอบจนหมดเกลี้ยง
ส่วนนางเดือนเพ็ญ อัครจันทร์ ผอ.โรงเรียนบ้านหนองนาแซงโนนงิ้ว กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าชาวบ้านเข้าใจผิดกัน ทุกอย่างเราทำเป็นระบบและรัดกุมที่สุด รู้ว่าเวลานั้นทุกคนต่างได้รับความเดือนร้อน แม้กระทั่งโรงเรียนระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ข้าวของอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามตนเองและครูก็พร้อมที่จะชี้แจง และตรวจสอบความโปร่งใสในการทำงาน และความบริสุทธิ์ใจ ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่ามีชาวบ้านบางคนอาจจะมีอคติกับครูบางคนในโรงเรียน จึงหาเรื่องกลั่นแกล้งเพื่อให้ตกเป็นข่าว ดังนั้นหากไม่พอใจหรือไม่เข้าใจขอให้มาสอบถามข้อเท็จจริงโดยตรง ไม่คิดมาก่อนว่าจะทำแบบนี้ ที่ผ่านมาและรับตำแหน่งผู้บริหารอยู่ที่นี่ โรงเรียนได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสิ่งปลูกสร้างและสถานที่มีความสวยงามดีขึ้นตามลำดับ
ไมตรี แก้วบุญมี สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สกลนคร