- 07 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่กลุ่มชาวประมงริมทะเลสาบสงขลา ได้นำอวนลงจับปลาบึก ปลาสวาย ปลากะพง จนทำให้ฝูงโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณ “ลับห้า ” พื้นที่รอยต่อระหว่างพื้นที่ ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง กับ ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ติดอวนชาวประมงจนเสียชีวิต โดยเฉพาะในปี 2560 นี้ ฝูงโลมาฯได้เสียชีวิตไปแล้ว 3 ตัว จนอดีต ส.ส.จังหวัดพัทลุงทั้ง 3 คน ร่วมกันลงรายชื่อยื่นถึงนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งทางนายกู้เกียรติฯ ผวจ.พัทลุง ได้มีหนังสือแจ้งไปยังกลุ่มชาวประมง เพื่อขอร้องมิให้นำอวนลงจับปลาในเขตที่อยู่อาศัยของฝูงโลมาฯ
ล่าสุด นางรัชนี ดำนวย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 หมู่ที่ 8 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง นำตัวแทนชาวประมงจากพื้นที่ อ.เมืองพัทลุง และ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ประมาณ 20 คน เข้าร้องต่อนายสุรเดช ฯ ผอ.ทรัพยากรฯ ณ ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุง ถึงกรณีที่ห้ามมิให้ชาวประมงนำอวนลงจับปลาในทะเลสาบสงขลานั้นจะทำให้ชาวประมงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักในด้านค่าครองชีพ การศึกษาของบุตรหลาน ประการสำคัญขณะนี้ชาวประมงได้เลิกการนำอวนลงจับปลาบึกแล้วหลังจากที่นำอวนมามอบให้กับทางราชการและรับเงินชดใช้ค่าอวนมา ปัจจุบันชาวประมงดังกล่าวเพียงนำอวนลงจับปลากะพงเท่านั้น ซึ่งไม่ส่งผลกระทบให้ฝูงโลมาติดอวนชาวประมงจนเสียชีวิตแต่อย่างใด แต่นายจำนง กลายเจริญ หน.เขตห้ามล่าสัตว์ทะเลหลวงพัทลุง – สงขลา ซึ่งเข้ามาร่วมแก้ปัญหา และเป็นหน่วยงานที่อนุรักษ์โลมาฯ โดยตรง ยืนยันว่าไม่ว่าอวนจับปลากะพง หรืออวนชนิดไหนก็ทำให้ฝูงโลมาฯติดอวนเสียชีวิตได้เช่นกัน อย่างเช่นที่ผ่านมา 2 วัน พบโลมาติดอวนตายแล้วถึง 2 ตัว
ทางด้านนายสุรเดชฯ ได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เสนอความคิดเห็นที่หลากหลาย และในที่ประชุมได้มีมติร่วมกันว่าจะแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพื่อสรุปแนวทางในการแก้ปัญหาการเสียชีวิตของฝูงโลมาฯ และความเดือดร้อนของชาวประมง ซึ่งในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการฯนั้น ให้กลุ่มชาวประมงนำอวนลงจับปลากะพงได้ แต่ต้องอยู่นอกบริเวณที่ทางเขตห้ามล่าฯที่นำเสาซีเมนต์ไปปักไว้ ซึ่งเป็นบริเวณที่โลมาฯ อาศัยอยู่ แต่ชาวประมงเองก็ไม่เห็นด้วยที่ทางจังหวัดฯจะให้พื้นที่ที่อยู่อาศัยของฝูงโลมาฯเนื้อที่ 80,000 ไร่เป็นเขตรักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำตามข้อเสนอของอดีต ส.ส. และ สว. พัทลุง ที่ผ่านมา
สำหรับโลมาอิรวดีน้ำจืด เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกเลี้ยงลูกด้วยนม ได้ประกาศตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 อยู่ในลำดับที่ 138 ทั้งยังเป็นโลมาอิรวดีที่อาศัยอยู่ในน้ำจืดเพียงฝูงเดียวของประเทศไทย เป็น 1 ใน 2 แห่งของโลก ได้รับการยกย่องให้เป็นสัตว์ประจำจังหวัดพัทลุง ในปัจจุบันอยู่ในสภาพใกล้สูญพันธุ์ จากการสำรวจโลมาฯฝูงดังกล่าวมีประมาณ 12 – 15 ตัวเท่านั้น ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ปัญหาโลมาฯล้มตาย เพื่ออนุรักษ์ให้โลมาฯอยู่คู่กับทะเลสาบสงขลาต่อไป